วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

'บิ๊กตู่'คิกออฟไทยนิยมยั่งยืน หว่านงบแสนล้านปลุกเศรษฐกิจรากหญ้า

'บิ๊กตู่'คิกออฟไทยนิยมยั่งยืน หว่านงบแสนล้านปลุกเศรษฐกิจรากหญ้า
ประชาชาติธุรกิจ  ฉบับวันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๑

          คิกออฟ "ไทยนิยม ยั่งยืน" 1 แสนล้าน สั่ง 6 รัฐมนตรี แจงยิบโครงการ- งบประมาณ คาด พ.ค.-มิ.ย.เม็ดเงินกว่าแสนล้านลงรากหญ้าทั่วไทย
          พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ภายหลังพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2561 วงเงิน 150,000 ล้านบาท ประกาศบังคับใช้เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม จะเป็นการเริ่มต้นกระบวนการขั้นตอนการเบิกจ่ายงบประมาณตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ซึ่งในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ประกอบด้วย งบประมาณเพื่อหมู่บ้านละ 2 แสนบาท จำนวน 80,000 หมู่บ้าน ซึ่งขณะนี้ได้แผนงานโครงการแล้ว โดยเงินจะเข้าบัญชีคณะกรรมการหมู่บ้านโดยตรงภายในเดือนพฤษภาคมนี้ และในเดือนมิถุนายนจะสามารถจัดซื้อจัดจ้างโครงการเพื่อให้เบิกจ่ายงบประมาณได้เสร็จสิ้นภายใน 120 วัน นับตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม
          โครงการดังกล่าว แบ่งเป็นโครงการที่สร้างรายได้ทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม 2 หมื่นโครงการ ที่เหลือเป็นโครงการเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิต เช่น ถนน การพัฒนาแหล่งน้ำอุปโภคบริโภค ขณะที่โครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) วงเงิน 9,000 ล้านบาท จำนวน 3,200 แห่งในพื้นที่ท่องเที่ยว ดังนั้นในเดือนพฤษภาคมจะสามารถอนุมัติโครงการ และภายในเดือนมิถุนายนแผนงานโครงการต่าง ๆ จะได้ เริ่มดำเนินการปฏิบัติ
          ขณะที่นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลังกล่าวว่า โครงการไทยนิยม ยั่งยืน ของกระทรวงการคลังที่ต่อยอดจากโครงการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย 11.4 ล้านราย คือ โครงการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย ระยะที่ 2 เพื่อให้พ้นจากปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน ปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียน 7.2 ล้านคน คิดเป็นงบประมาณ 1,400 ล้านบาทต่อเดือน หรือ 28,000 ล้านบาทต่อปี รวมกับการลงทะเบียน ระยะที่ 1 วงเงิน 36,000 ล้านบาท รวม 64,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ตั้งเป้าให้พ้นจากเส้นความยากจน หรือต่ำกว่า 3 หมื่นบาท คิดเป็น 50% ของคนยากจนทั้งหมด ภายใน 1 ปี และโครงการไทยนิยม ยั่งยืน จึงจะช่วยปัมเอาความร่ำรวยที่เกิดในประเทศทั้งหมดไหลไปสู่ระดับล่าง เพื่อให้ระดับล่างมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำ
          ด้านนายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า 2 เดือนที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปสำรวจความต้องการของเกษตรกร 21 โครงการ วงเงิน 24,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็น การพัฒนา อาชีพเกษตรกร 3 อาชีพ ได้แก่ ด้านพืช ปศุสัตว์ และประมง นอกจากนี้ยังมี โครงการอุดหนุนสหกรณ์การเกษตร 207 แห่ง จากจำนวน 7,000 กว่าแห่ง วงเงิน 1,700 ล้านบาท และการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกการทำอาชีพเกษตร อาทิ แหล่งน้ำ วงเงิน 13,000 ล้านบาท
          เกษตรกรกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด 3.6 ล้านคน ตอบรับเข้าอบรมพัฒนาอาชีพ 2.1 ล้านคน คาดว่างบประมาณที่ลงทุนไป 24,000 ล้านบาท จะสามารถสร้างรายได้กว่า 53,000 ล้านบาท ทั้งนี้ในวันที่ 28 พฤษภาคม จะคิกออฟการพัฒนาอาชีพเกษตรกรพร้อมกันทั่วประเทศ
          นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ มีโครงการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนอย่างยั่งยืน โดยศาสตร์พระราชาตามแนวทางประชารัฐ ได้รับงบประมาณ 20,000 ล้านบาท โดยจะกระจายไปยังกองทุนหมู่บ้านฯ ไม่เกินกองทุนละ 3 แสนบาท ซึ่งระเบียบว่าด้วยคณะกรรมการบริหารโครงการ จะประกาศบังคับใช้ภายใน 2 วันข้างหน้า จะทำให้สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) สามารถรับคำขอโครงการ งบประมาณและข้อเสนอของกองทุนหมู่บ้านฯ 79,000 หมู่บ้าน คาดว่าภายในเดือนพฤษภาคม สทบ.พร้อมรับโครงการเพื่อพิจารณาอนุมัติ
          นายวีระศักดิ์ โค้วสุรัตน์ รมว.ท่องเที่ยว และกีฬากล่าวว่า ได้รับงบประมาณ 821 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นโครงการเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชน (หมู่บ้านละ 2 แสนบาท) จำนวน 3,335 โครงการ ส่วนที่เหลือเป็นโครงการสร้างรายได้โดยอ้อม 462 โครงการ โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต 1,493 โครงการ
          นายศิริ จิริพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน กล่าวว่า ได้ประโยชน์เทคโนโลยีด้านพลังงานทดแทนเพื่อสนับสนุนความมั่นคงทางรายได้ และลดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกรชาวสวนผลไม้และผัก อาทิ แผงโซลาร์เซลล์พลังงานแสงอาทิตย์ โครงการละ 500,000-600,000 บาท โดยในปี'61 มีแผนงานลงทุนอีก 5,000 ชุด วงเงิน 3,000 ล้านบาท กระจายทั่วประเทศ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น