เลือกตั้งแน่ก.พ.62 นายกฯดับข่าวลือนั่งกุนซือพรรคพลังประชารัฐ

เลือกตั้งแน่ก.พ.62 นายกฯดับข่าวลือนั่งกุนซือพรรคพลังประชารัฐ

ฐานเศรษฐกิจ  ฉบับวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๖๑

"นายกฯ" ฟันธงเลือกตั้งกุมภาพันธ์ 2562 เว้นเกิดเหตุที่ควบคุมไม่ได้ เชื่อยื่นศาลตีความร่างกฎหมาย ลูกส.ส.-ส.ว.ไม่กระทบโรดแมป ด้าน "มีชัย" จ่อส่งความเห็น 2 กฎหมายลูก ให้สนช. ห่วงบางมาตราขัดรธน.           พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงกรณีที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เสนอให้นำร่างพ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส. และร่างพ.ร.บ.การได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ ตีความว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ หรือไม่ว่า ขึ้นอยู่กับ กรธ. เชื่อว่าไม่ทำให้โรดแมปการเลือกตั้งเลื่อนออกไป หรือเกิดความล่าช้า ซึ่งตนเคยบอกแล้วว่าทุกอย่างต้องไม่ล่าช้าตามกำหนด คือเดือนกุมภาพันธ์  2562 ยกเว้นว่าจะมีเหตุการณ์ที่ไม่สามารถบังคับได้ แต่เชื่อว่าจะพิจารณาได้ทันในเวลาที่มีอยู่ และไม่มีใครอยากให้มีปัญหา           "ไม่ต้องห่วง ยังไงก็ได้เลือกตั้ง แต่ปัญหาคือจะทำอย่างไรให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ไม่มีคนออกมาส่งเสริมสนับสนุนคนที่ออกมาเคลื่อนไหวผิด โดยอ้างเหตุผลต่างๆ เพราะได้ชี้แจงแล้วว่าจะมีการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ ดังนั้นจะมาเร่งเลือกตั้งแล้วมาไล่ คสช.ได้อย่างไร รัฐธรรมนูญมาตรา 265 ได้ระบุไว้อยู่แล้วว่าคสช.ต้องทำหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ก็ต้องเป็นไปตามนั้น ดังนั้นการยุบคสช. ไม่มีความเป็นไปได้"           ด้าน พล.ท.สรรเสริญแก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ช่วงวาระข้อสั่งการ พล.อ.ประยุทธ์ ปรารภกับครม.ถึงกรณีมีกระแส ข่าวการเตรียมตั้งพรรคพลังประชารัฐ ว่า "เป็นการไปร่ำลือกันเอง ว่าผมเป็นประธานที่ปรึกษาฯ ผมก็ไม่รู้ว่าร่ำลือกันแบบนี้สังคมจะว่าอย่างไร"           ขณะที่นายมีชัย กล่าวถึงการจัดทำความเห็นเกี่ยวกับร่างกฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับว่า กรธ.ส่งไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ภายในวันที่ 14 มีนาคม นี้ เพราะเห็นว่ากฎหมายบางมาตรา หากมีผลบังคับใช้แล้วและมีการยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยอาจทำให้เกิดปัญหาตามมาและส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งได้ แต่หากมีการตีความให้ได้ข้อยุติตั้งแต่ต้นก็จะไม่ก่อเกิดความเสียหาย           สำหรับร่างกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มี 2 ประเด็นที่ กรธ. มีข้อกังวลประเด็นแรก คือการตัดสิทธิเลือกตั้งของผู้ที่ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยมีข้อสังเกตว่า เป็นการตัดสิทธิหรือตัดเสรีภาพ หากเป็นเรื่องเสรีภาพ กรธ.เห็นว่าไม่ควรตัด ส่วนประเด็นที่ 2 คือการให้เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งกาบัตรลงคะแนนแทนคนพิการ เนื่องจากร่างกฎหมาย ฉบับเดิม กรธ.ระบุให้เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งให้ความช่วยเหลือผู้พิการให้สามารถลงคะแนนด้วยตนเองเท่านั้น แต่เมื่อ สนช.เขียนเนื้อหาใหม่ให้เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยกาบัตรแทนผู้พิการ โดยถือว่าเป็นการลงคะแนนให้ทั้งโดยตรงและลับ กรธ.เห็นว่า การเขียนกฎหมายแบบนี้จะทำให้ขัดกับหลักการสำคัญของรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้เป็นการลงคะแนนเสียงโดยตรงและลับหรือไม่           ส่วนข้อกังวลของร่างกฎหมายลูกว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. คือ ประเด็นการแยกผู้สมัครแต่ละกลุ่มออกเป็น 2 ประเภท ทั้งแบบองค์กรคัดเลือกและแบบอิสระ รวมทั้งการกำหนดให้แต่ละกลุ่มเลือกกันเองและการให้แต่ละองค์กรคัดเลือกผู้สมัครนั้น จะขัดต่อรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 หรือไม่ นอกจากนี้การกำหนดให้แต่ละองค์กรสามารถส่งตัวแทนลงสมัครได้จังหวัดละ 1 คน และส่งได้ทั้ง 77 จังหวัด ซึ่งหากพิจารณาองค์กรและ สมาคมในประเทศไทยพบว่า มีจำนวนมากที่สามารถส่งตัวแทนลงสมัครได้ทุกจังหวัด อาจทำให้มีผู้สมัครแบบองค์กรจำนวนมากจนอาจกลายเป็นช่องให้เกิดการทุจริตได้           นายมีชัย ระบุด้วยว่า หากตีความกฎหมายให้ชัดเจนก่อน ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อโรดแมป เพราะนับเวลาเผื่อขั้นตอนนี้ไว้แล้ว