วันอังคารที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2560

สปท.ส่งการบ้านให้นายกฯสรุปแนวปฏิรูป188เรื่องรอ'กก.ยุทธศาสตร์'รับไม้ต่อ

สปท.ส่งการบ้านให้นายกฯสรุปแนวปฏิรูป188เรื่องรอ'กก.ยุทธศาสตร์'รับไม้ต่อ
มติชน  ฉบับวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๖๐

          หมายเหตุ - ร.อ.ทินพันธุ์ นาคะตะ ประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในระหว่างการส่งมอบงานของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศให้นายกฯ หลัง สปท.หมดวาระ ที่อาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม
          ร.อ.ทินพันธุ์ นาคะตะ
          ประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.)
          ภารกิจสำคัญของ คสช.และรัฐบาลมี 3 เรื่อง คือ การบริหารราชการแผ่นดิน การปฏิรูปประเทศ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง
          การปฏิรูปจึงเป็นพันธกิจหลักอย่างหนึ่งในการแก้ปัญหาเพื่อเปลี่ยนแปลงทั้งระยะสั้น กลาง และยาว ที่มีความยั่งยืน ไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำอีก การปฏิรูปจึงเป็นงานสร้างสรรค์เชิงบวก และต้องอาศัยความร่วมมือของแม่น้ำ 5 สาย
          ทั้งนี้ งานปฏิรูปที่ สปท.ส่งให้รัฐบาลแล้วมีจำนวน 188 เรื่อง ส่วนที่รัฐบาลเร่งผลักดันกฎหมายเพื่อกลไกปฏิรูปประเทศ นับถึงเดือนตุลาคม 2559 มีจำนวน 183 ฉบับ และกำลังเร่งผลักดันอีก 104 ฉบับ และที่สำคัญในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา คสช.ทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย เกิดความมั่นคงทางการเมือง แก้ปัญหาเศรษฐกิจ สังคมและการบริหารได้ เช่น ใช้คำสั่ง คสช.ที่ 64 และ 66/2557 ยึดคืนพื้นที่ในเขตป่าสงวนฯที่ถูกนายทุนบุกรุกได้ 1.3 แสนไร่
          ในส่วนที่เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน สปท.มีส่วนสำคัญในการให้ข้อเสนอแนะคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เกี่ยวกับการปฏิรูป ปรากฏในหมวด 16 การปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ และมาตรา 261 ที่ให้วุฒิสภาติดตามเสนอแนะเร่งรัดการปฏิรูปประเทศ เสนอให้มียุทธศาสตร์ชาติเป็นเป้าหมายในการพัฒนาประเทศ และเสนอกฎหมายว่าด้วยการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ แผนกฎหมายว่าด้วยแผนและขั้นตอนการปฏิรูปประเทศ
          เสนอประเด็นคำถามของ สปท.ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อประกอบการพิจารณาในการเสนอคำถามที่สมควรให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดให้มีการออกเสียงประชามติเพิ่มเติม และเรื่องต่างๆ ที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ที่ทาง กรธ.ขอความเห็นจาก สปท.
          สำหรับเรื่องที่นายกฯมีดำริเสนอให้ปฏิรูป 5 เรื่อง ได้แก่
1.การจัดตั้งศาลทุจริตและประพฤติมิชอบ
2.ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการขัดแย้งกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวม
3.ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยคุ้มครองติดตามทรัพย์สินของแผ่นดินจากการทุจริตนั้น สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกากำลังส่งเรื่องเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.)
4.เรื่องส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญาที่เป็นธรรม และ
5.เรื่องการป้องกันการแก้ไขปัญหาและการบริหารจัดการน้ำในภาวะน้ำแล้ง
          สำหรับผลงานของ สปท.เกิดจากความริเริ่มประสานงานและความเห็นชอบร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการดำเนินการปฏิรูปด้านต่างๆ สืบต่อจากสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) จนถึงปัจจุบัน สปท.ศึกษาและเสนอแนะเพื่อให้เกิดการปฏิรูปด้านต่างๆ ต่อนายกฯ จำนวน 188 เรื่อง ยังไม่รวมเรื่องที่ผ่านมติ สปท.อีกหลายเรื่องขึ้นอยู่กับนายกฯว่าจะเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ หรือจะปรับปรุงอย่างไร
          ส่วนผลงานที่เป็นรูปธรรมจำนวน 27 เรื่อง อาทิ เศรษฐกิจเพื่อสังคม เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ และเชิงวัฒนธรรม การ กระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ การส่งเสริมวิสาหกิจขนาดย่อม
          ความสำเร็จในการดำเนินงาน สปท.เกิดจากความร่วมแรงร่วมใจของแม่น้ำ 5 สาย คือ คสช. ครม. กรธ. สนช. และ สปท. ซึ่งรวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้ทุ่มเทกำลังกายและกำลังใจด้วยดีเสมอมา โดยเฉพาะ สปช.ที่ได้เสนอ 37 วาระการปฏิรูป 6 วาระการพัฒนาต่อนายกฯไปก่อนแล้ว
          ถือเป็นวันที่มีความสำคัญมากอีกวันหนึ่ง เป็นวันที่แสดงถึงความสำเร็จของความร่วมมือร่วมใจในการทำงานของทุกฝ่าย นับตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ที่ได้เข้ามารับผิดชอบในการบริหารบ้านเมืองนั้น ได้รับความร่วมมือจากทุกคนร่วมกันทำงานเพื่อบ้านเมืองด้วยความเสียสละและอุทิศกำลังกาย กำลังใจ ทุ่มเทพลังความสามารถเพื่อแก้ปัญหาที่สะสมมาอย่างยาวนาน หากไม่รีบเร่งแก้ปัญหาดังกล่าวก็จะเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาในระยะยาวต่อไป
          การทำงานของรัฐบาลและ คสช.ที่ผ่านมาคิดในเชิงบริหารมาตลอด ไม่ได้คิดเพื่อจะสืบทอดอำนาจ และไม่เคยคิดอย่างนั้น รัฐบาลคิดแค่ว่าจะปฏิรูปประเทศอย่างไร คิดแบบนั้น มันถึงต้องมี สปช.และ สปท. และการร่างรัฐธรรมนูญ เราต้องร่วมมือกันทุกหน่วยงานเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายภายใต้ระยะเวลาตามโรดแมป เพื่อเป็นการวางรากฐานสำคัญของประเทศให้พร้อมที่จะเผชิญสถานการณ์ในอนาคต และช่วยสนับสนุนให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาในระยะยาวที่กำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ได้
          การปฏิรูปประเทศและแผนยุทธศาสตร์ชาติจะต้องคิดว่าทำอย่างไรเพื่อให้รัฐบาลในอนาคตมาดำเนินการต่อเพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง
          สำหรับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่มีหลายฝ่ายต่อต้าน ยืนยันว่าไม่ได้เป็นไปเพื่อควบคุมใครตรงไหน แต่เป็นการกำหนดความชัดเจนในเป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ของการบริหารประเทศ
          ยืนยันอีกครั้งว่ายุทธศาสตร์ชาติไม่ได้ไปควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลต่อๆ ไป เพียงแต่ให้เขาทำตามยุทธศาสตร์ชาตินี้ให้ได้ เพียงแค่บริหารงานให้ตรงตามแผนเท่านั้น มันเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนประเทศให้เกิดความต่อเนื่อง นโยบายของพรรคการเมืองจะทำอย่างไรก็กำหนดไปตามขั้นตอนของแต่ละพรรค แต่ต้องไม่ทำให้ล้มเหลว และจะทำอย่างไรให้นโยบายของพรรคการเมืองสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติได้หรือไม่ ไม่ใช่ไปสร้างกิจกรรมให้คนชอบอย่างเดียว
          วันหน้าถ้าหาเสียง ลองดูว่าพรรคไหนจะหาเสียงตรงกับกรอบยุทธศาสตร์ที่มีแค่ 6 ข้อบ้าง ไม่ใช่หาเสียงว่าจะตั้งราคานี้ ราคาโน้น ที่พูดแบบนี้ผมไม่ได้ว่าผิดหรือว่าถูก เดี๋ยวจะหาว่าผมว่าเขาผิดก่อนศาลตัดสิน อยู่ที่ศาลพิจารณาไปตามหลักฐาน
          หลายคนบอกว่า ผมอย่าไปซ้ำเติม แต่ผมไม่เคยไปซ้ำเติม เป็นเรื่องเดิมทั้งสิ้น เป็นเรื่องขององค์กรอิสระที่ทำงานมาตลอด ตอนนี้คนไทยชอบตัดสินเองทุกเรื่อง เมื่อเช้าดูข่าวก็ตัดสินให้ผม ผมดูแล้วก็ปวดหัว ไม่ฟังก็ไม่ได้ เพราะเรื่องเหล่านี้เอาไปปลุกระดมได้ทั้งสิ้น เขาไปปลุกระดมข้างล่าง ผมอ่านข่าวทุกวัน ใครพูดอะไรผมมีหมด
          ดังนั้น แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนั้น สามารถปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องตามสถานการณ์ได้ แต่ต้องมีการเสนอกรอบวิธีการปฏิบัติที่ดีกว่าเดิมและเสนอให้รัฐสภาให้ความเห็นชอบ
          อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมกันทำงาน รัฐบาลมีความมุ่งมั่นตั้งใจบริหารประเทศภายใต้การมีส่วนร่วมและพัฒนาไปร่วมกัน ต้องให้กำลังใจกันบ้าง อย่าติติงกันมากเลย
          ภารกิจวันนี้เราลุล่วงไปครึ่งหนึ่งแล้ว เหลืออีกครึ่งหนึ่งที่จะต้องส่งต่อให้รัฐบาลชุดต่อไปทำ ขอฝากภารกิจนี้ให้กับคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะกรรมการปฏิรูปเพื่อสานต่อภารกิจให้สำเร็จ
          วันนี้หนักใจมีหลายคนมาบอกว่า อยากเอาคนนั้น คนนี้ออก ถามว่าแล้วจะเอาใครทำ มีไหม เสนอตัวมาที่จะเป็นรัฐมนตรี มาแล้วถูกตรวจสอบเลอะเทอะไปหมด ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สิน ถูกตรวจสอบทรัพย์สิน ห้ามประกอบธุรกิจ ถ้าอยากเป็นรัฐมนตรีต้องยอมให้ตรวจสอบทุกอย่าง ถูกกล่าวหาประวัติ ทุกอย่างใส่ร้ายป้ายสีได้เยอะ เพราะฉะนั้นต้องเสียสละ มาเป็นรัฐมนตรีรับเงิน 1 แสนบาท ไม่มีรายได้อื่น
          วันนี้มีคนอยากให้รัฐมนตรีถูกย้ายทุกวัน ทุกรัฐมนตรีแหละ ปัญหามันเยอะ ไม่ได้อยู่ที่รัฐมนตรี ไม่เช่นนั้นก็ปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีทั้งหมด เปลี่ยนนายกฯด้วย ผมต้องรับผิดชอบ เพราะนั่งทำงานด้วยกันทั้งหมด ไม่ใช่ผมทำคนเดียว
          ไม่ใช่ทุกคนชอบแต่ลุงตู่ ไม่ชอบรัฐมนตรีผมเลยสักคน แล้วผมจะอยู่กับใคร ใครจะทำ ให้กำลังใจกันบ้าง ถ้ามันมีหลงหูหลงตาบ้าง ไม่ใช่รัฐมนตรีโลกลืม ก็คุณไม่ฟัง ฟังแต่ผมคนเดียว แล้วคุณก็บ่นผมทุกวัน ถามรัฐมนตรีทำไมไม่พูด เขาบอกพูดทุกวัน แต่ไม่มีใครฟัง สื่อเป็นอย่างนี้ ไปโทษเขาไม่ได้ ท่านต้องพูดแบบผม
          ผมขอขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการจัดทำข้อเสนอการปฏิรูป โดยรัฐบาลจะทำงานใน 2 มิติคู่ขนานกันไป มิติแรก คือ การผนึกกำลังและสร้างความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ในการมุ่งก้าวไปข้างหน้าตามยุทธศาสตร์ชาติที่ทุกคนในประเทศได้กำหนดขึ้นร่วมกัน มุ่งสู่ประเทศไทยในอนาคต
          อีกมิติหนึ่ง จะต้องเร่งแก้ไขปัญหาที่สะสมมาในอดีต โดยการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและสร้างภูมิคุ้มกันในระดับพื้นฐานของการพัฒนาเพื่อให้ทุกภาคส่วนได้ประโยชน์จากการพัฒนาร่วมกัน ซึ่งเป็นไปตามแนวคิดที่ว่าจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
          ขอให้ทุกคนมีความภาคภูมิใจว่าได้เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้ประเทศไทยมีเป้าหมายและการพัฒนาที่ชัดเจน ผมยินดีรับฟังทุกฝ่าย และขอฝากให้ระวังการใช้สื่อออนไลน์ด้วย ก่อนจะเชื่ออะไรขอให้ใช้สติปัญญาใคร่ครวญให้ดี ผมก็โดนเยอะเหมือนกัน แต่ไม่เป็นไร ผมสู้ได้ ผมคิดว่าผมยังไม่ได้ทำอะไรผิด ผิดอยู่วันเดียว คือวันที่ 22 พฤษภาคม 2557

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น