วันพฤหัสบดีที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ขยะโผล่ผิดที่เจ้าหน้าที่รัฐเสี่ยงม.157

ขยะโผล่ผิดที่เจ้าหน้าที่รัฐเสี่ยงม.157

ฐานเศรษฐกิจ  ฉบับวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐

          ผวา!โทษทั้งจำทั้งปรับ
          พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯพ่นพิษกระทรวงอุตฯแหยง เสี่ยงโดนข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่ หากพบสิ่งปฏิกูลหรือกากอุตสาหกรรมที่มาจากโรงงานอุตสาหกรรมไปทิ้งในหลุมฝังกลบมูลฝอยของเทศบาลละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดนม.157 เล่นงาน
          สืบเนื่องจากพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง (ฉบับที่2) พ.ศ.2560 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2560 โดยให้บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคมเป็นต้นไป
          ซึ่งในหมวด 3/1 การจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย มาตรา 34/1 วรรค 6 กล่าวถึง การจัดการของเสียอันตรายและของเสียไม่อันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน เว้นแต่กรณีที่มีของเสียอันตรายหรือของเสียไม่อันตรายปนอยู่กับสิ่งปฏิกูล และมูลฝอยที่ราชการส่วนท้องถิ่นจัดเก็บให้ราชการส่วนท้องถิ่น หรือหน่วยงานของรัฐหรือราชการส่วนท้องถิ่นอื่นรวมทั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัดหรือเอกชนที่ได้รับมอบหมายให้จัดเก็บ แจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ ตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ดังกล่าวต้องเริ่มดำเนินการภายใน 3 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้ง
          หากพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ นั้น ยังมิได้ดำเนินการ ให้ราชการส่วนท้องถิ่นหรือหน่วยงานของรัฐหรือราชการส่วนท้องถิ่นอื่น รวมทั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัดหรือเอกชนที่ได้รับมอบหมายให้จัดเก็บ ดำเนินการกับสิ่งปฏิกูลมูลฝอยนั้น ให้สันนิษฐานว่าพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานที่ได้รับแจ้ง จงใจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามความแจ้งแล้วนั้น
          ต่อเรื่องนี้ล่าสุด แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรมเปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า พ.ร.บ. รักษาความสะอาดฯ ที่ประกาศออกมามีประเด็นกระทบต่อเจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรมอย่างชัดเจน เนื่องจากในมาตรา 34(6) ระบุว่า ถ้าตรวจพบว่ามีสิ่งปฏิกูลหรือกากอุตสาหกรรมที่มาจากโรงงานอุตสาหกรรมไปทิ้งในหลุมฝั่งกลบมูลฝอยของทางเทศบาล ทางเทศบาลจะแจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายโรงงานมาดำเนินการนำออกไปภายใน 3 วัน เพื่อไปกำจัด  ถ้าเจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรมไม่ปฏิบัติถือว่าจงใจ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ก็จะโดนบทลงโทษตามมาตรา 157 เป็นประมวลกฎหมายอาญาละเว้นการกระทำโดยมิชอบ มีโทษจำคุก ซึ่งในส่วนนี้จะมีส่วนทำให้กระทบต่อการเป็นข้าราชการ  อีกทั้งยังเป็นการเปิดช่องให้เทศบาล นั้นๆ นำกากขยะอุตสาหกรรมไปกำจัดเอง
          แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า เหมือนกรณีที่เมื่อเร็วๆ นี้มีข่าวจากสมุทรสาครว่า มีการขนขยะอุตสาหกรรมไปทิ้งที่บ่อชุมชน ปรากฏว่าเป็นถุงพลาสติกของโรงงานมีทั้งที่จังหวัด ก.  จังหวัดข. จังหวัด ค. มันเป็นไปได้อย่างไรปรากฏว่าไปเอาจากโรงงานที่รีไซเคิลของเสียมาทิ้ง โดยอบต. รับขนมา ก็ไปทิ้งในหลุมตัวเอง เช่นเดียวกับชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่รีไซเคิลไม่ได้ ถูกนำไปทิ้งโดยบ้านเรือนหรือโรงงานรีไซเคิลนำไปทิ้งในบ่อขยะชุมชน แล้วไปบอกว่าขยะนี้มาจากโรงงาน ซึ่งไม่ยุติธรรมเลย  ทั้งที่ช่องทางการมาทิ้งขยะอุตสาหกรรมเกิดขึ้นได้หลายทาง
          ทั้งนี้แหล่งข่าวยังตั้งข้อสังเกตอีกว่าใครจะเสี่ยงไปทิ้งในที่ของหลวง ถ้าไม่ใช่เทศบาลไปทิ้งเอง "ซึ่งตรงนี้มีข้อสังเกตว่าในหลุมเทศบาลทั้งหลายมันเป็นอำนาจหน้าที่ของท้องถิ่น  ดังนั้นท้องถิ่นจะยอมให้เกิดการลักลอบมาทิ้งในพื้นที่เทศบาลได้อย่างไร ซึ่งตรงนี้ อบต. อบจ.มีอำนาจ เพราะกฎหมายได้ให้ท้องถิ่นมีอำนาจแต่เพียงผู้เดียว ต้องดูให้ดีว่าเป็นการลักลอบหรือไปขนมาทิ้งกันแน่"
          ต่อเรื่องนี้เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกันทุกฉบับ อย่างเคร่งครัด ล่าสุดกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ทำหนังสือถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอความร่วมมือประชาสัมพันธ์ให้กับผู้เก็บขนและผู้จำกัดสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย หลีกเลี่ยงการเข้าไปดำเนินการเก็บขนและกำจัดสิ่งปฏิกูล และวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว ที่มีแหล่งกำเนิดจากโรงงานอุตสาห กรรม เนื่องจากการขนสิ่งปฏิกูลและวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่เข้าข่ายเป็นของเสียเคมีวัตถุตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุอันตราย รถขนส่งจะต้อง ดำเนินการขออนุญาตครอบครองวัตถุอันตรายเพื่อการขนส่ง หากไม่มีการดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุอันตราย จะมีโทษทั้งจำและทั้งปรับหรืออย่างหนึ่งอย่างใด นอกจากนั้นการฝังกลบสิ่งปฏิกูลวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่มีแหล่งกำเนิดจากโรงงานอุตสาหกรรมจะต้องได้รับอนุญาตประกอบกิจการคัดแยกและฝังกลบสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว (ประเภทโรงงานลำดับที่ 105) การตั้งโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาตจะมีโทษทั้งจำทั้งปรับหรืออย่างใดอย่างหนึ่ง
          "ปัจจุบันถ้าเทศบาลฝังกลบของเสียจากบ้านเรือนไม่ต้องเป็นโรงงานลำดับที่ 105 แต่วันนี้ถ้าเทศบาลนำขยะโรงงานไปกำจัดฝังกลบ ก็ต้องเข้าข่ายโรงงานลำดับที่ 105 ด้วย การตั้งโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาตจะมีโทษทั้งจำทั้งปรับหรืออย่างใดอย่างหนึ่ง"
          นายมงคล พฤกษ์วัฒนา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ก่อนหน้านี้กระทรวงมหาดไทยได้ขอความเห็นมาทางกระทรวงอุตสาหกรรมแล้ว กระทรวงอุตสาหกรรมก็ได้เสนอความเห็นแย้งไป เพราะจะกลายเป็นว่ากระทรวงอุตสาหกรรมละเลยไม่ปฏิบัติ ประเด็นคือเวลาที่ท้องถิ่นนั้นๆ ไปตรวจพบถ้ามีข้อสงสัยก็แจ้งให้ไปปฏิบัติภายใน 3 วัน ซึ่งในทางปฏิบัติ เป็นเวลาที่น้อยมาก เสี่ยงต่อการโดนมาตรา 157 เพราะต้องใช้เวลาตรวจสอบแหล่งที่มาที่ชัดเจน
          "ในความเป็นจริง ขยะกากของเสียจากสินค้าคอนซูเมอร์ โปรดักต์ทั้งหลาย คนทิ้งจะมาจากบ้าน เช่น ถุงทอฟฟี่ ขวดแชมพู หรือกลุ่มรับซื้อของเก่าที่คัดแยกของเหลือที่ไม่เกิดประโยชน์แล้ว นำมาทิ้ง ตรงนี้ก็เข้าใจการทำงานของกระทรวงมหาดไทย แต่อยากให้มองในทางปฏิบัติจริงว่าการพิสูจน์ซากกาก ขยะอุตสาห กรรมบางครั้งมันทำได้ยาก"
          อนึ่ง ปริมาณกากอุตสาห กรรมทั่วประเทศ จากตัวเลขที่สำนักบริหารจัดการกากอุตสาห กรรม (สกอ.) ประเมินของเสียอันตรายจากโรงงานอุตสาหกรรมมีทั้งสิ้นประมาณ 2.8 ล้านตัน ส่วนการประเมินปริมาณขยะไม่อันตรายทั้งหมดจากกรมโรงงานมีจำนวน 34.57 ล้านตัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น