วันพฤหัสบดีที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ฎีกาพิพากษากลับ บ.การบินกรุงเทพ แพ้คดีภาษี116ล.

ฎีกาพิพากษากลับ บ.การบินกรุงเทพ แพ้คดีภาษี116ล.  

ไทยรัฐ ฉบับวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๕๙

          ที่ศาลภาษีอากรกลาง กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีภาษีฯ ในคดีดำ พ.70/54 แดง พ.63/55 ระหว่างบางกอกแอร์เวย์ส หรือ บริษัทการบินกรุงเทพ จำกัด โจทก์กับ เทศบาลนครเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี จำเลยขอให้เพิกถอนการประเมินภาษี 116,461,880.12 บาท
          คดีนี้เรื่องเดิมมีอยู่ว่าบริษัทการบินกรุงเทพ ได้เข้าบริหารพื้นที่และทำประโยชน์จากสนามบินเกาะสมุยช่วงปี 52 ถึง 53 โดยเอาพื้นที่ออกให้กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุยเช่ามูลค่า 9,300 ล้านบาท ซึ่งตามกฎหมาย พ.ร.บ.ภาษีโรงเรือน และ ที่ดินถือว่ามีรายได้จากค่าเช่าที่ต้องคำนวณเป็นภาษี ที่บริษัทการบินกรุงเทพ มีภาระภาษีในรอบปี 2553 แก่เทศบาลนครเกาะสมุย ซึ่งมีหน้าที่จัดเก็บภาษีส่วนภาครัฐเป็นเงิน 116 ล้านบาทเศษ จึงออกคำสั่งให้จ่ายแต่บริษัทการบินกรุงเทพเห็นว่าการประเมินไม่ชอบซึ่งในทางภาษีบริษัทการบินกรุงเทพ ต้องจ่ายภาษีไปก่อน 116 ล้านบาท แล้วจึงอุทธรณ์ต่อนายกเทศมนตรี นครเกาะสมุย แต่นายกฯ ยืนคำสั่งบริษัทการบินกรุงเทพฯ จึงมีอำนาจฟ้องและยื่นฟ้องศาลภาษีอากรกลางกรุงเทพฯ ใน 30 วัน และ ศาลภาษีอากรกลางมีคำพิพากษา ปี 55 ว่าเทศบาลฯ ประเมินไม่ชอบ ให้ประเมินใหม่ อัยการในฐานะทนายจำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
          ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่าโจทก์มีภาระภาษีตามที่จำเลยประเมินตามกฎหมาย คำสั่งเรียกภาษีจึงชอบแล้ว พิพากษากลับให้ยกฟ้องก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้ยกฟ้อง โจทก์ในมูลความแห่งคดีคล้ายๆ กัน แค่เป็นคนละ รอบระยะบัญชีทางภาษีไปแล้ว 38 ล้านบาท
          ด้านนายรามเนตร ใจกว้าง นากเทศมนตรีนครเกาะสมุย อ.เกาะสมุย เปิดเผยว่า ผลคำพิพาษา ของศาลฎีกา ทั้ง 2 คดี ถือว่าเจ้าหน้าที่เทศบาล นครเกาะสมุยปฏิบัติหน้าที่โดยชอบตามกฎหมาย หมดข้อกังขา ถูกต่อว่า เก็บภาษีรายเล็ก แต่รายใหญ่ ไม่เก็บ และจะเป็นบรรทัดฐานให้องค์กรปกครอง ท้องถิ่นอื่นๆ จัดเก็บภาษีโรงเรือนและที่ดินจากการนำทรัพย์สินไปให้กองทุนรวมเช่าเพื่อการระดมทุน โดยไม่มีข้อยกเว้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น