อัด6หมื่นล.ฟื้นศก.รากหญ้ามท.สั่งท้องถิ่นใช้'เงินก้นถุง' |
ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๕๙ |
มหาดไทย
สั่ง อบจ.-อบต.-เทศบาล 7,800 แห่งใช้เงินก้นถุง 6
หมื่นล้านอัดฉีดเศรษฐกิจท้องถิ่น ตามนโยบาย "สมคิด" ผุดโครงการจ้างงาน
สร้างแหล่งน้ำแก้แล้ง บูมแหล่งท่องเที่ยว ใช้ยางพารา
หมุนเงินช่วยรากหญ้าระหว่างรอรัฐกระตุ้นรอบใหม่ แหล่ง ข่าวจากกระทรวงมหาดไทยเปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า จากที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มีแนวคิดให้นำเงินสะสมของท้องถิ่นมาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในท้องถิ่น ชุมชนเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจฐานราก และได้เข้าหารือกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ รมว.มหาดไทย เห็นชอบในหลักการในการดำเนินการตามข้อเสนอ ล่าสุด นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ทำหนังสือด่วนที่สุด ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ แจ้งหลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินสะสมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) กำหนดกรอบการนำเงินสะสม 30% ของวงเงินสะสมทั้งหมดที่มีอยู่กว่า 2 แสนล้านบาท หรือประมาณ 5-6 หมื่นล้านบาท มาพัฒนาส่งเสริมเศรษฐกิจในระดับชุมชน หมู่บ้านตามนโยบาย ดังกล่าว โดย ได้แจ้งเวียนยกเลิกหนังสือกระทรวงมหาดไทย 3 ฉบับ เกี่ยวกับเงื่อนไขหลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินสะสม ที่ออกเมื่อ ปี 2553, 2556 และ 2557 และให้ อปท.ใช้จ่ายเงินสะสมตามระเบียนกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินของ อปท. พ.ศ. 2547 โดยให้ใช้เงินสะสมอย่างระมัดระวังไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการบริหารงาน และให้ใช้จ่ายเงินเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนตามอำนาจหน้าที่ และสนับสนุนการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล และให้ อปท.ตรวจสอบยอดเงินสะสมที่นำไปใช้ตามนโยบายนี้ได้ โดยให้หักเงินสะสมที่ส่งฝากเงินทุนส่งเสริมกิจการเทศบาล (ก.ส.ท.) หรือเงินทุนส่งเสริมกิจการองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ก.ส.อ.) หักรายการเงินสะสมที่มีภาระผูกพันแล้ว แต่ยังไม่ได้ดำเนินการหรืออยู่ระหว่างดำเนินการและยังไม่ได้เบิกจ่ายเงิน เพื่อให้ทราบยอดเงินสะสมคงเหลือ ณ ปัจจุบันซึ่งสามารถ นำไปใช้ได้ พร้อมกับให้กันเงินสำรองเป็นค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร การสำรองจ่ายกรณีที่ยังไม่ได้รับงบประมาณเงินอุดหนุนทั่วไป เช่น เงินเดือน ค่าตอบแทนบุคลากร ประมาณ 3 เดือน ค่าเบี้ยยังชีพคนชรา ผู้พิการ ประมาณ 2 เดือน สำรองจ่ายกรณีสาธารณภัย 20% ของเงินสะสม คงเหลือ ฯลฯ แหล่ง ข่าวกล่าวว่า ในการดำเนินการตามนโยบายดังกล่าว กระทรวงมหาดไทยได้เร่งรัดให้หน่วยงานท้องถิ่น ได้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เทศบาล กรุงเทพมหานคร (กทม.) และเมืองพัทยา จัดทำแผนและโครงการต่าง ๆ เสนอขออนุมัติจากสภาท้องถิ่น และต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีงบประมาณ หรือภายในวันที่ 30 ก.ย. 2559 ถือเป็นการจ้างงาน สร้างอาชีพให้กับผู้มีรายได้น้อยและคนในชุมชน ต่อเนื่องจากโครงการส่งเสริมความเป็นอยู่ในระดับตำบล (โครงการตำบลละ 5 ล้านบาท) ซึ่งจะสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. 2559 นี้ เป็นการเติมเต็มช่วยรอยต่อก่อนรัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฐาน รากระลอกสอง ในจำนวนเงินสะสมของ อปท.ทั้งหมดซึ่งมีอยู่กว่า 2 แสนล้านบาท ซึ่งกระจายอยู่ในบัญชีของ อบจ. อบต. เทศบาล รวมทั้ง กทม. และเมืองพัทยา ซึ่งแต่ละแห่งมีจำนวนไม่เท่ากันมากบ้างน้อยบ้างแตกต่างกันไปนั้น หลังมหาดไทยมีหนังสือด่วน สั่งการเรื่องนี้เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2559 ที่ผ่านมา อปท.แต่ละแห่งที่มีโครงการพร้อมอยู่ในมือสามารถนำเงินสะสมมาใช้พัฒนาเสริม สร้างเศรษฐกิจในพื้นที่ในลักษณะจ่ายขาดได้ทันที เพียงแต่ต้องดำเนินการภายในอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ เนื่องจากอำนาจหน้าที่ของ อปท.แต่ละรูปแบบจะไม่เหมือนกัน ขณะ ที่กระทรวงมหาดไทยก็กำหนดกรอบการดำเนินการตามนโยบายนี้ โดยให้พิจารณาจัดทำโครงการด้านการบริการชุมชนและสังคม กิจการที่เป็นการเพิ่มพูนรายได้ หรือเพื่อบำบัดความเดือดร้อนของประชาชน โดยต้องดำเนินการตามระเบียบกฎหมาย และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุและการจัดซื้อจัดจ้าง ได้แก่ 1.จัดทำโครงการสนับสนุนการดำเนินงานตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 2.โครงการปรับปรุงแหล่งน้ำด้านการเกษตร อาทิ ฝาย แก้มลิง คลองไส้ไก่ ท่อส่งน้ำ สระขนมครก ขุดสระ บ่อบาดาลเพื่อการเกษตร 3.ปรับปรุง หรือจัดให้มีแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค เช่น ประปาหมู่บ้าน โอ่งน้ำ บ่อบาดาล แก้วิกฤตภัยแล้ง 4.โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีไทยตามนโยบายรัฐบาล อาทิ ปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยว สิ่งอำนวยความสะดวกสบายนักท่องเที่ยว เช่น ห้องสุขา ศาลาที่พัก ลานจอดรถ การดูแลรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว การจัดให้มีไฟฟ้า แสงสว่าง 5.โครงการ ส่งเสริมการใช้ยางพารา และ 6.โครงการอื่นที่ท้องถิ่นเห็นว่าจำเป็นต้องดำเนินการเพื่อประโยชน์ของ ประชาชน สำหรับโครงการที่กำหนดเป็นข้อห้ามไม่ให้ท้องถิ่น ดำเนินการตามนโยบายนี้คือ โครงการหรือกิจการที่ฟุ่มเฟือย หรือไม่ก่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนโดยตรง อาทิ โครงการจัดซื้อวัสดุครุภัณฑ์สำนักงาน การศึกษาดูงาน ก่อสร้างปรับปรุงอาคารที่ทำการ หรือการจัดซื้อยานพาหนะ เช่น รถยนต์ส่วนกลาง รถประจำตำแหน่ง เป็นต้น ทั้งนี้ แต่ละท้องถิ่นสามารถนำเงินสะสมมาใช้พัฒนาส่งเสริมเศรษฐกิจในท้องถิ่นตาม เกณฑ์ที่กำหนดไว้เท่าที่จำเป็นและเห็นเหมาะสม โดยอาจนำเงินสะสมไปใช้แบบจ่ายขาดเต็มจำนวน 30% ของวงเงินสะสมทั้งหมดที่มีอยู่ในมือหรือน้อยกว่านั้นก็ได้ ในการนี้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบดูแล อปท.ได้สั่งการให้ อปท.ทั่วประเทศ 7,853 แห่ง ประกอบด้วย อบจ. 76 แห่ง เทศบาล 2,440 แห่ง อบต. 5,335 แห่ง กับ อปท.รูปแบบพิเศษ คือ กทม.และเมืองพัทยา จัดทำแผนและโครงการพัฒนาท้องถิ่นชุมชน เสนอสภาท้องถิ่นอนุมัติ พร้อมกับให้รายงานการดำเนินการภายใต้นโยบายนี้ให้กรมส่งเสริมการปกครองท้อง ถิ่นทราบโดยเร่งด่วน |
เพื่อประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับวงงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น : ฅนเทศบาล
เมนูหลัก
ข่าวท้องถิ่น
ระเบียบบริหารงานบุคคลของพนักงานส่วนท้องถิ่น
มาตรฐานกำหนดคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งพนักงานส่วนท้องถิ่น
มาตรฐานการบริหารงานบุคคลพนักงานส่วนท้องถิ่น
วันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2559
อัด6หมื่นล.ฟื้นศก.รากหญ้ามท.สั่งท้องถิ่นใช้'เงินก้นถุง'
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น