วันพุธที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2562

ครม.ไฟเขียวขรก.ลาบวชเฉลิมพระเกียรติ 6,810รูป พระราชพิธีบรมราชาภิเษก

ครม.ไฟเขียวขรก.ลาบวชเฉลิมพระเกียรติ6,810รูป พระราชพิธีบรมราชาภิเษก
มติชน (กรอบบ่าย)  ฉบับวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๒

          ซ้อมรวมครั้งแรกริ้วขบวนแห่พระสุพรรณบัฏฯ และริ้วขบวนราบใหญ่ ในพระราชพิธีบรมราชา ภิเษก นัด 28 มี.ค.ซ้อมริ้วขบวนที่ 3 มี ผบ.เหล่าทัพ ร่วมฝึกซ้อมด้วย 'สปน.'เปิดจำหน่ายเข็มราชพิธีเสื้อโปโลสีเหลือง 31 มี.ค.
          เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 26 มีนาคม ผู้สื่อข่าว รายงานว่า คณะอนุกรรมการฝ่ายจัดขบวนพยุหยาตราสถลมารค ได้ฝึกซ้อมรวมริ้วขบวนที่ 1 ริ้วขบวนแห่พระสุพรรณบัฏ ดวงพระราชสมภพและพระราชลัญจกร และริ้วขบวนที่ 2 ริ้วขบวนราบใหญ่ ไปทรงประกาศเป็นพุทธศาสนูปถัมภก ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นครั้งแรก ณ ลานอเนกประสงค์ ภายในกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ที่ 11 โดยมีกำลังพลที่ร่วมฝึกซ้อม จากหน่วยราชการในพระองค์ หน่วยเฉพาะกิจกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ หน่วยเฉพาะกิจทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ 904 ตลอดจนหน่วยงานในกองทัพบก และเหล่าทัพ นอกจากนี้ยังมีกองทหารเกียรติยศ จากหน่วยเฉพาะกิจทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ 904 ร่วมฝึกซ้อมด้วย
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การฝึกซ้อมในครั้งนี้เป็นการฝึกซ้อมทั้งหมด 2 ริ้วขบวน ประกอบด้วย ริ้วขบวนที่ 1 ริ้วขบวนแห่พระสุพรรณบัฏ ดวงพระราชสมภพและพระราชลัญจกร โดยพระราชยานกง จากวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง ไปยังพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ในวันที่ 3 พฤษภาคม รวมระยะทางเดินประมาณ 200 เมตร และริ้วขบวนที่ 2 ริ้วขบวนราบใหญ่ ซึ่งเป็นริ้วขบวนที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จขึ้นประทับบนพระราชยานพุดตานทอง มายังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เพื่อประกาศพระองค์เป็นศาสนูปถัมภกและ ถวายบังคมพระบรมอัฐิและพระอัฐิที่ปราสาท พระเทพบิดร ในวันที่ 4 พฤษภาคม รวมระยะทางเดินประมาณ 500 เมตร โดยทั้ง 2 ริ้วขบวนเป็น ริ้วขบวนที่อยู่ในพระบรมมหาราชวัง จังหวะการเดินจึงใช้ตามเสียงกลองใหญ่เป็นหลัก
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การซ้อมริ้วขบวนในครั้งนี้เป็นการจำลองพื้นที่จริง โดยจำลองประตูพิมานไชยศรี จากเกยหน้าพระทวารเทเวศรักษา พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยไปยังเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และจากเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดารามไปยังเกยพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท ทิศทางเหมือนจริง แต่เป็นการย่อส่วนระยะทางจากการสำรวจพื้นที่จริง และด้วยประตูพิมานไชยศรีมีขนาดกว้าง จึงไม่มีการกำหนดจุดอุปสรรคในการฝึกซ้อม สำหรับรูปแบบ ริ้วขบวนที่ 1 และริ้วขบวนที่ 2 มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ประกอบด้วยส่วนนำริ้ว ส่วนพระราชยาน เครื่องสูงหักทองขวางหน้าและหลัง
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกำหนดการ ฝึกซ้อมครั้งต่อไป จะมีขึ้นในวันที่ 28 มีนาคม ซึ่งเป็นการฝึกซ้อมริ้วขบวนที่ 3 ริ้วขบวนพยุหยาตราสถลมารค เลียบพระนคร โดยมีผู้บัญชาการทหารสูงสุด ปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ เดินทางมาตรวจเยี่ยมและร่วมฝึกซ้อม ตลอดจนมีจิตอาสาเฝ้าฯรับเสด็จ กว่า 2,000 นาย ร่วมฝึกซ้อมด้วย
          "จากนั้นในวันที่ 17, 21 และ 28 เมษายน จะมีการฝึกซ้อมทั้ง 3 ริ้วขบวนแบบเสมือนจริง ในพื้นที่จริง โดยช่วงเช้าจะฝึกซ้อมริ้วขบวนที่ 1 และ 2 พร้อมฝึกซ้อมริ้วขบวนที่ 3 ในช่วงบ่าย และตลอดทั้ง 3 วัน จะมีการนำยุทธภัณฑ์ซึ่งสำนักพระราชวังได้ทำการซ่อมบูรณะสำหรับใช้ในพระราชพิธี อาทิ พระแสงกระบี่หัวคชสีห์, กระบี่และหอกประกอบเครื่องแบบกรมพระตำรวจหลวง และทวนสำนักพระราชวัง มาร่วมซ้อมในริ้วขบวนด้วย" ผู้สื่อข่าวรายงาน
          พ.อ.หญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบให้ข้าราชการลาบรรพชาอุปสมบทโครงการ "บรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก" โดยไม่ถือเป็นวันลา มีวัตถุประสงค์คือ 1.เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 2.เพื่อส่งเสริมให้มีส่วนร่วมในการแสดงความจงจักภักดีถวายเป็นพระราช สักการะแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยการศึกษาและปฏิบัติธรรมตามหลักคำสอนในพระพุทธศาสนา ตามแนวทางที่ถูกต้องอย่างแพร่หลาย
          "กำหนดจำนวนผู้ที่จะบรรพชาอุปสมบทไว้ไม่น้อยกว่า 6,810 รูป จะดำเนินการทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ในวัดทั่วประเทศไทยทั้ง 77 จังหวัด ระหว่างวันที่ 2-16 พฤษภาคม รวม 15 วัน ทั้งนี้ บุคลากรที่เคยลาอุปสมบทระหว่างรับราชการมาแล้ว สามารถลาบรรพชาอุปสมบทเพื่อเฉลิมพระเกียรติฯในครั้งนี้ได้อีก" พ.อ.หญิงทักษดากล่าว
          พ.อ.หญิงทักษดากล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ กล่าวในที่ประชุม ครม.ขอให้สร้างการรับรู้และข้อปฏิบัติเกี่ยวกับงานพระราชพิธีฯ โดยรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนในวันที่ 29 มีนาคม เป็นวันสุดท้าย และสัปดาห์ต่อไปจะให้คณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับงานพระราชพิธีฯสลับหมุนเวียนกันมาให้ความรู้กับประชาชน และเชิญชวนให้ประชาชนใส่เสื้อสีเหลือง ระหว่างเดือนเมษายน-พฤษภาคมด้วย
          ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมพิธีตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศ ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกว่า มีการเตรียมเส้นทางการเชิญน้ำจากกระทรวงมหาดไทย ไปยังวัดสุทัศนเทพ วรารามราชวรมหาวิหาร และต่อไปยังพระบรมมหาราชวัง โดยกระทรวงมหาดไทยช่วยกรุงเทพฯทำเครื่องหมายในการเชิญน้ำเรียบร้อยแล้ว และระหว่างช่วงเดือนมีนาคมนี้จะปรับภูมิทัศน์ จัดเตรียมสถานที่ ควบคู่กับการซักซ้อมของผู้ปฏิบัติ ขณะนี้ทั่วประเทศเตรียมความพร้อมทั้งหมดแล้ว
          วันเดียวกัน ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น (ดินแดง) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นำคณะผู้บริหาร กทม. ร่วมซ้อมย่อยพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ ณ หอศาสตราคม ในพระบรมมหาราชวัง และอัญเชิญคนโทน้ำศักดิ์สิทธิ์ไปส่งมอบให้กับกระทรวงมหาดไทย เพื่อนำไปจัดทำน้ำอภิเษกรวมกับน้ำศักดิ์สิทธิ์จากจังหวัดต่างๆ อีก 76 จังหวัด สำหรับการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กำหนดส่งมอบในวันที่ 12 เมษายน
          ทั้งนี้ ในวันที่ 4 เมษายน จะมีการซ้อมริ้วขบวนอัญเชิญคนโทน้ำศักดิ์สิทธิ์ของกรุงเทพฯ จากหอศาสตราคม ในพระบรมมหาราชวังไปยังกระทรวงมหาดไทยในพื้นที่จริง
          วันเดียวกัน นายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ด้านบริหารในฐานะอนุกรรมการและเลขานุการคณะอนุกรรมการจัดทำน้ำอภิเษก พร้อมคณะเดินทางไปตรวจเยี่ยมดูการผลิตคนโทน้ำ ที่โรงโอ่งรัตนโกสินทร์เซรามิกส์ 4 ต.ท่าราบ อ.เมือง จ.ราชบุรี มีนายวีรัส ประเศรษโฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี และนายสุขชาติ โฆษะบดี เจ้าของโรงโอ่งรัตนโกสินทร์ เซรามิกส์ 4 นำพาเยี่ยมชมและชี้แจงขั้นตอนวิธีการผลิต
          นายพรพจน์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ที่ผ่านมา ทาง จ.ราชบุรี ส่งมอบคนโทให้กระทรวงมหาดไทยชุดแรก 67 ใบ จากทั้งหมดจำนวน 125 ใบ ตอนนี้ทยอยส่งมอบคอนโทให้จังหวัดต่างๆ ไปแล้วกว่า 40 จังหวัด เพื่อเตรียมประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ ในวันที่ 6 เมษายน จึงมาตรวจดูความเรียบร้อยว่าส่วนที่เหลือจะดำเนินการเสร็จตามกำหนดที่จะส่งมอบให้ภายในวันที่ 31 มีนาคมนี้หรือไม่ จากการตรวจเยี่ยมทั้งขั้นตอน กระบวนการผลิตเป็นงานที่ค่อนข้างละเอียด พิถีพิถันเป็นพิเศษ เพื่อให้สมพระเกียรติใน พระราชพิธีบรมราชาภิเษก
          นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จังหวัดเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ในการจัดพิธีทำน้ำอภิเษกในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยจะประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ ในวันที่ 6 เมษายน ที่วัดเขาถ้ำม้าร้อง ต.พงศ์ประศาสน์ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประกอบพิธีทำน้ำอภิเษก และพิธีเวียนเทียนสมโภชน้ำอภิเษก ในวันที่ 8 และ 9 เมษายน ที่วัดคลองวาฬ (พระอารามหลวง) อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์
          "ทั้งนี้ จังหวัดกำหนดจัดซ้อมเสมือนจริงการประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่วัดเขาถ้ำม้าร้อง ในวันที่ 4 เมษายน เพื่อซักซ้อมทำความเข้าใจขั้นตอนพิธีการต่างๆ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ" นายพัลลภกล่าว
          ที่ จ.ชัยภูมิ นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เป็นประธานเปิดกิจกรรมโครงการจิตอาสา "เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ" ทำความสะอาดบริเวณบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ และบริเวณโดยรอบ ที่วัดไพรีพินาศ (วัดกลางเมืองเก่า) ชุมชนเมืองเก่า เทศบาลเมืองชัยภูมิ เพื่อเตรียมสถานที่สำหรับประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ โดยเลือกพระอุโบสถของวัดไพรีพินาศ เป็นสถานที่ประกอบพิธีเสกน้ำอภิเษก ในวันที่ 8 เมษายน
          ที่ทำเนียบรัฐบาล นางพัชราภรณ์ อินทรียงค์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) นำคณะเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เพื่อประชาสัมพันธ์และจำหน่ายเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชภิเษก พุทธศักราช 2562 และเสื้อโปโลสีเหลืองประดับตราสัญลักษณ์ให้แก่นายกฯและคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดย สปน.ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลดำเนินการจัดทำเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์ ตามที่รัฐบาลได้รับพระราชทานพระราชานุญาตให้จัดทำขึ้น เพื่อจำหน่ายให้แก่ประชาชนทั่วไป โดยรายได้จากการจำหน่ายทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่าย รัฐบาลจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายโดยเสด็จ พระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สปน.เปิดจำหน่ายเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์ให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นปฐมฤกษ์รอบเดียว จำนวน 20,000 เข็ม ในราคาเข็มละ 300 บาท พร้อมทั้งจำหน่ายเสื้อโปโล สีเหลืองประดับตราสัญลักษณ์ จำนวน 20,000 ตัว ราคาตัวละ 290 บาท ในวันที่ 31 มีนาคม ณ หอประชุมกรมประชาสัมพันธ์ ถนนพระราม 6 โดยจะเปิดรับบัตรคิวตั้งแต่ 06.00 น.เป็นต้นไป โดยประชาชนสามารถซื้อเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์ ได้ไม่เกินคนละ 2 เข็ม และเสื้อโปโลสีเหลืองประดับตราสัญลักษณ์ได้ไม่เกินคนละ 2 ตัว
          ทั้งนี้ สำหรับเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์ ประชาชนสามารถสั่งจองเข็มที่ระลึกตราสัญลักษณ์ ผ่านที่ทำการไปรษณีย์ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือสั่งจองผ่านระบบร้านค้าออนไลน์ของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เว็บไซต์ thailandpostmart.com ได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนเป็นต้นไป สั่งจองโดยไม่จำกัดจำนวน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น