วันอังคารที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2561

รายงานพิเศษ: เปิดข้อเท็จจริง-ข้อโต้แย้ง กรณีอดีตขรก.ท้องถิ่น ถูก19อบต.อุดรฯให้ออกจากราชการไม่เป็นธรรม

รายงานพิเศษ: เปิดข้อเท็จจริง-ข้อโต้แย้ง กรณีอดีตขรก.ท้องถิ่น ถูก19อบต.อุดรฯให้ออกจากราชการไม่เป็นธรรม
สยามรัฐ  ฉบับวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๖๑

          ทีมข่าวภูมิภาค
          จากกรณีที่อดีตข้าราชการส่วนท้องถิ่น ที่ถูก อบต.19แห่งในจังหวัดอุดรธานี ให้ออกจากราชการ ได้เดินทางไปยื่นหนังสือถึงประธานศาลปกครองสูงสุด เพื่อขอให้เร่งรัดคดีเพื่อคืนความเป็นธรรมให้ข้าราชการที่ถูกให้ออกจากกรณีดังกล่าว
          โดยข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจากการจัดสอบแข่งขันขององค์การบริหารส่วนตำบลในจังหวัดอุดรธานีเมื่อปี พ.ศ.2557สามารถแบ่งสถานศึกษาที่เป็นหน่วยงานกลางผู้รับผิดชอบในการสอบ ดังนี้ 1.วิทยาลัยการอาชีพกุมภวาปี 2.โรงเรียนเลิงถ่อนโนนสมบูรณ์ 3. โรงเรียนอนุบาลประจักษ์ศิลปาคม
          ต่อมาเมื่อวันที่ 23ม.ค.58 คณะกรรมการกลางพนักงานส่วนตำบล (ก.อบต.) ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบกระบวนการสอบแข่งขันขององค์การบริหารส่วนตำบล กรณีที่มีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการคัดเลือกหน่วยงานกลางและวิธีการดำเนินการสอบแข่งขั้นขององค์การบริหารส่วนตำบลในจังหวัดอุดรธานี จังหวัดมหาสารคาม และจังหวัดอื่นๆ ไม่โปร่งใส
          ต่อมาเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.58 คณะกรรมการกลางพนักงานส่วนตำบล ประชุมครั้งที่ 6/2558 วาระที่ 3.9 พิจารณากระบวนการสอบแข่งขันขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภายในจังหวัดอุดรธานีตามรายงานของคณะอนุกรรมการตรวจสอบกระบวนการสอบแข่งขันขององค์กรบริหารส่วนตำบลในการประชุมครั้งที่ 7/2558 เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.58
          วันที่ 15ก.ค.58สำนักงาน ก.อบต. ได้มีหนังสือ ที่ มท 0809.8/48 เรื่อง พิจารณาผลการตรวจสอบกระบวนการสอบแข่งขันขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดอุดรธานี มีใจความว่าก.อบต. ในการประชุมครั้งที่ 6/2558 เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.58 ได้พิจารณาผลการสอบข้อเท็จจริงของคณะอนุกรรมการฯ แล้วมีมติ ดังนี้
          1. วิทยาลัยการอาชีพกุมภวาปี เป็นผู้รับผิดชอบในการสอบแข่งขันขององค์การบริหารส่วนตำบล 5 แห่ง จำนวน 142 ตำแหน่ง 147 อัตรา สรุปได้ว่า ดำเนินการตามมาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการคัดเลือกโดยการสอบ แข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเป็นพนักงานเทศบาล พ.ศ.2555
          2.โรงเรียนเลิงถ่อนโนนสมบูรณ์ เป็นผู้รับผิดชอบในการสอบแข่งขันขององค์การบริหารส่วนตำบล 14 แห่ง จำนวน 142 ตำแหน่ง 147 อัตราสรุปได้ว่า การดำเนินการของโรงเรียนเลิงถ่อนโนนสมบูรณ์ไม่เป็นไปตามมาตรฐานทั่วไปฯ จึงทำให้การประกาศผลสอบขององค์การบริหารส่วนตำบลทั้ง14 แห่ง ที่โรงเรียนเลิงถ่อนโนนสมบูรณ์เป็นผู้รับผิดชอบในการสอบแข่งขันเป็นประกาศที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
          3. โรงเรียนอนุบาลประจักษ์ศิลปาคม เป็นผู้รับผิดชอบในการสอบแข่งขันขององค์การบริหารส่วนตำบล 5 แห่ง จำนวน 36 ตำแหน่ง 77 อัตราสรุปได้ว่า การดำเนินการของโรงเรียนอนุบาลประจักษ์ศิลปาคมไม่เป็นไปตามมาตรฐานทั่วไปฯ จึงทำให้การประกาศผลสอบขององค์การบริหารส่วนตำบลทั้ง 5 แห่ง ที่โรงเรียนอนุบาลประจักษ์ศิลปาคมเป็นผู้รับผิดชอบในการสอบแข่งขันเป็นประกาศที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
          อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 19 วรรคสอง ประกอบมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542 มีมติเพิกถอน มติ ก.อบต.จังหวัดอุดรธานี ในการประชุมครั้งที่เห็นชอบการบรรจุแต่งตั้งบุคคลและพนักงานส่วนท้องถิ่นที่โรงเรียนเลิงถ่อนโนนสมบูรณ์ และโรงเรียนอนุบาลประจักษ์ศิลปาคม เป็นผู้รับผิดชอบในการสอบแข่งขันเป็นพนักงานส่วนตำบลในจังหวัดอุดรธานีข้างต้น เฉพาะวาระที่ให้ความเห็นชอบในการบรรจุและแต่งตั้ง หรือวาระ
          ที่แต่งตั้งบุคคลผู้ขอใช้บัญชีการสอบแข่งขันที่มิชอบนี้ เป็นผลให้องค์การบริหารส่วนตำบลต้องมีคำสั่งให้บุคคลผู้สอบแข่งขันได้ที่โรงเรียนเลิงถ่อนโนนสมบูรณ์ และโรงเรียนอนุบาลประจักษ์ศิลปาคมเป็นผู้รับผิดชอบในการสอบแข่งขัน ออกจากราชการโดยพลัน โดยความเห็นชอบของ ก.อบต.จังหวัดอุดรธานี สำหรับกรณีพนักงานส่วนท้องถิ่นที่มีการรับรองบัญชีสอบแข่งขันได้ นั้นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นผู้ขอใช้บัญชีจากผู้สอบแข่งขันได้ที่ไม่เป็นตามมาตรฐานทั่วไปฯ ย่อมมีหน้าที่ยกเลิกคำสั่งในการบรรจุแต่งตั้งพนักงานส่วนท้องถิ่นที่มีการรับรองบัญชีกลับไปดำรงตำแหน่งเดิมหรือตำแหน่งอื่นในระดับเดียวกันกับตำแหน่งที่ผู้นั้นมี
          คุณสมบัติตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งโดยพลัน โดยความชอบเห็นของ ก.อบต.จังหวัดแล้วแต่กรณี แล้วรายงานผลการดำเนินการให้สำนักงาน ก.อบต.ทราบ ภายในวันที่ 7 ส.ค.58เพื่อจะได้นำเข้าแจ้งในที่ประชุมต่อประธาน ก.อบต.(รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย) และ ก.อบต.ทราบ
          วันที่ 27ก.ค.58 คณะกรรมการพนักงานส่วนตำบลจังหวัดอุดรธานี ( ก.อบต.จังหวัดอุดรธานี)ประชุมครั้งที่ 7/2558 วาระที่ 5.22 เรื่อง การพิจารณาผลการตรวจสอบกระบวนการสอบแข่งขันขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดอุดรธานี ที่ประชุม เห็นชอบ ดำเนินการตามมติ ก.อบต.ครั้งที่ 6/2558 เมื่อวันที่ 25มิ.ย.58โดยให้พนักงานส่วนตำบลที่ ก.อบต.จ.อุดรธานี ในการประชุมเห็นชอบการบรรจุและแต่งตั้งและพนักงานส่วนท้องถิ่นที่โรงเรียนเลิงถ่อนโนนสมบูรณ์ และโรงเรียนอนุบาลประจักษ์ศิลปาคม เป็นผู้รับผิดชอบในการสอบแข่งขันเป็นพนักงานส่วนตำบลในจังหวัดอุดรธานี เฉพาะวาระที่ให้ความเห็นชอบในการบรรจุและแต่งตั้ง หรือวาระที่แต่งตั้งบุคคลผู้ขอใช้บัญชีการสอบแข่งขันที่มิชอบนี้ พ้นจากตำแหน่ง และเป็นผลให้องค์การบริหารส่วนตำบล ต้องมีคำสั่งให้บุคคลผู้สอบแข่งขันได้ ที่โรงเรียนเลิงถ่อนโนนสมบูรณ์ และโรงเรียนอนุบาลประจักษ์ศิลปาคมเป็นผู้รับผิดชอบในการสอบแข่งขัน ออกจากราชการโดยพลัน สำหรับกรณีพนักงานส่วนท้องถิ่นที่มีการรับรองบัญชีสอบแข่งขันได้นั้น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นผู้ขอใช้บัญชีจากผู้สอบแข่งขันได้ที่ไม่เป็นตามมาตรฐานทั่วไปฯ ย่อมมีหน้าที่ยกเลิกคำสั่งในการบรรจุแต่งตั้งพนักงานส่วนท้องถิ่นที่มีการรับรองบัญชีกลับไปดำรงตำแหน่งเดิมหรือตำแหน่งอื่นในระดับเดียวกันกับตำแหน่งที่ผู้นั้นมีคุณสมบัติตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งโดยพลัน
          วันที่ 6 ส.ค.58 ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีมีหนังสือที่ อด 0023.2/11991 แจ้งรายงานการปะชุมคณะกรรมการพนักงานส่วนตำบลจังหวัดอุดรธานี ( ก.อบต.จังหวัด) ให้แก่นายอำเภอทุกอำเภอ เพื่อแจ้งให้องค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องได้ถือปฏิบัติและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
          ข้อพิจารณาโต้แย้ง
          การออกคำสั่งขององค์การบริหารส่วนตำบล จำนวน 19 แห่ง ในจังหวัดอุดรธานี เป็นการใช้อำนาจตามความในมาตรา 15 ประกอบมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542มีคำสั่งให้ข้าราชการท้องถิ่นออกจากราชการ เป็นคำสั่งทางปกครองที่เป็นการเพิกถอนคำสั่งทางปกครองเดิมที่บรรจุและแต่งตั้งข้าราชการท้องถิ่นซึ่งเป็นผู้สอบแข่งขันได้ตามประกาศขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้เพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเป็นพนักงานส่วนตำบลขององค์การบริหารส่วนตำบลในจังหวัดอุดรธานี จำนวน 19 แห่ง จึงเป็นการเพิกถอนคำสั่งทางปกครองที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายซึ่งเป็นการให้ประโยชน์ที่มิใช่เป็นเงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดที่แบ่งแยกได้ เป็นคำสั่งทางปกครองที่ผลกระสิทธิหน้าที่ของผู้ฟ้องคดีทั้งเจ็ด ที่จะต้องจัดให้มีการรับฟังคู่กรณี ตามมาตรา30 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 (คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ. 466/2556, ที่ อ.328/2551 และที่ อ. 64/2552 และบันทึกความเห็นคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง เรื่องเสร็จที่ 210/2549, เรื่องเสร็จที่ 415/2542) และมิได้เป็นคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งหรือคำสั่งเกี่ยวกับการบรรจุและแต่งตั้งตามมาตรา 30 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ประกอบกฎกระทรวง ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2540) ข้อ (1)(นัยคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ.1441/2558,ที่ อ.640/2556)  โดยไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ในกระบวนพิจารณาทางปกครองเพื่อออกคำสั่งขององค์การบริหารส่วนตำบลในจังหวัดอุดรธานี จำนวน 19 แห่ง ได้จัดให้มีการรับฟังข้าราชการท้องถิ่นในฐานะผู้ถูกกระทบสิทธิตามมาตรา 30 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองฯ  จึงเป็นการออกคำสั่งทางปกครองที่ไม่ชอบด้วยวิธีการและขั้นตอนอันเป็นสาระสำคัญตามที่กฎหมายกำหนด เป็นเหตุให้เพิกถอนคำสั่งทางปกครองที่เป็นวัตถุแห่งคดีนี้ได้ (คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อบ 25/2560, ที่ อบ.33/2560 ที่อบ.36/2560 ที่ อบ. 38/2560 ที่ อบ.39/2560 และที่ อบ.45/2560)
          บรรดาผู้เข้าสอบแข่งขันขององค์การบริหารส่วนตำบล จำนวน 19 แห่ง ในจังหวัดอุดรธานีไม่มีส่วนร่วมในการจัดสอบแข่งขันและไม่มีการทุจริตในการสอบแข่งขัน ไม่มีส่วนร่วมในการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ของโรงเรียนผู้จัดสอบแข่งขัน แต่คณะกรรมการกลางพนักงานส่วนตำบลและคณะกรรมการพนักงานส่วนตำบลจังหวัดอุดรธานีกลับใช้ความบกพร่องภายในของหน่วยงานและอ้างฐานความผิดอื่นมาเป็นผลร้ายให้แก่ข้าราชการท้องถิ่นต้องออกจากราชการ ตามที่คณะกรรมการกลางพนักงานส่วนตำบล ใช้เป็นเหตุในการได้มีมติที่ประชุม ครั้งที่ 6/2558 เมื่อวันที่ 25มิ.ย.58 และคณะกรรมการพนักงานส่วนตำบลจังหวัดอุดรธานี ได้ประชุมครั้งที่7/2558 วันที่ 27 ก.ค.58 เห็นชอบ ดำเนินการตามมติของคณะกรรมการกลางพนักงานส่วนตำบล และองค์การบริหารส่วนตำบลในจังหวัดอุดรธานี จำนวน 19 แห่ง จึงเป็นการใช้ดุลพินิจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงถือว่าได้ยกประเด็นการคุ้มครองเชื่อโดยสุจริตขึ้นมาเป็นประเด็นแห่งคดี โดยที่มาตรา49 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 บัญญัติชัดแจ้งว่า "เจ้าหน้าที่หรือผู้บังคับบัญชาของเจ้าหน้าที่อาจเพิกถอนคำสั่งทางปกครองได้ตามหลักเกณฑ์ในมาตรา 51 มาตรา 52 และมาตรา 53..."  จึงเป็นบทบังคับว่า หากเจ้าหน้าที่หรือผู้บังคับบัญชาของเจ้าหน้าที่อาจเพิกถอนคำสั่งทางปกครอง จะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ในมาตรา 51 มาตรา 52 และมาตรา 53 และคำสั่งองค์การบริหารส่วนตำบลนาไหม ที่ 118/2558 ลงวันที่ 11 ส.ค.58 เป็นคำสั่งทางปกครองที่เป็นการเพิกถอนคำสั่งทางปกครองเดิมที่บรรจุและแต่งตั้งบุคคลเป็นพนักงานส่วนตำบลขององค์การบริหารส่วนตำบลนาไหม จึงการเพิกถอนคำสั่งทางปกครองที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายซึ่งเป็นการให้ประโยชน์ที่มิใช่เป็นเงิน ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดที่แบ่งแยกได้ ที่ผลกระสิทธิหน้าที่ของผู้ฟ้องคดีทั้งเก้า การเพิกถอนคำสั่งจะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ตามมาตรา 52 ประกอบมาตรา 51 วรรคหนึ่ง วรรคสอง และวรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539
          เมื่อข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่า ในกระบวนพิจารณาทางปกครองก่อนออกคำสั่ง และตามเนื้อความของคำสั่งองค์การบริหารส่วนตำบลในจังหวัดอุดรธานี จำนวน 19 แห่ง ได้ใช้ดุลพินิจในการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามหมวดที่2 ส่วนที่ 6 มาตรา 49 มาตรา50 และมาตรา 52 ประกอบมาตรา 51 วรรคหนึ่ง วรรคสองและวรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 แต่อย่างใด และเหตุที่นำมากล่าวอ้างว่าความไม่ชอบด้วยกฎหมายของคำสั่งบรรจุและแต่งตั้งตามมติคณะกรรมการพนักงานส่วนตำบลจังหวัดอุดรธานีผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ในการประชุมครั้งที่ 7/2558 เมื่อวันที่ 27ก.ค.58 เห็นชอบ ดำเนินการตามมติผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ในการประชุมครั้งที่ 6/2558 เมื่อวันที่ 25มิ.ย.58 เนื่องจากเป็นความบกพร่องในการกระบวนการจัดสอบระหว่างองค์การบริหารส่วนตำบลกับโรงเรียนเลิงถ่อนโนนสมบูรณ์ และโรงเรียนอนุบาลประจักษ์ศิลปาคม และผู้อำนวยการโรงเรียนสัญญาเอง โดยที่ผู้เข้าสอบแข่งขัน มิได้รู้เห็นหรือมีส่วนร่วมในความบกพร่องของความไม่ชอบด้วยกฎหมายดังกล่าว
          ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ข้าราชการท้องถิ่นได้แสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง หรือข่มขู่ หรือชักจูงใจโดยการให้ทรัพย์สินหรือให้ประโยชน์อื่นใดที่มิชอบด้วยกฎหมาย ได้ให้ข้อความซึ่งไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วนในสาระสำคัญ หรือข้าราชการท้องถิ่นได้รู้ถึงความไม่ชอบด้วยกฎหมายของคำสั่งทางปกครองในขณะได้รับคำสั่งทางปกครองหรือการไม่รู้นั้นเป็นไปโดยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ทั้งไม่ปรากฏข้อเท็จจริงได้มีการทุจริตในการสอบแข่งขันดังกล่าว เมื่อข้าราชการท้องถิ่นได้รับการบรรจุและแต่งตั้งเป็นพนักงานส่วนตำบล สังกัดองค์การบริหารส่วนตำบลในจังหวัดอุดรธานี จึงถือว่าได้ใช้ประโยชน์จากคำสั่งทางปกครองนั้นแล้ว เมื่อข้าราชการท้องถิ่นได้ปฏิบัติงานในหน้าที่พนักงานส่วนตำบลตามคำสั่งบรรจุและแต่งตั้งแล้ว และต่อมาได้ผ่านการทดลองงานและปฏิบัติหน้าที่ได้ดีเสมอมา มาแล้วถึง 1 ปี ไม่เคยปรากฏว่ามีเหตุเสียหายเกิดขึ้น ย่อมแสดงว่า ข้าราชการท้องถิ่นมีสมรรถภาพเชิงความรู้ความสามารถที่เพียงพอแก่การปฏิบัติหน้าที่ซึ่งเป็นประโยชน์แก่สาธารณชนประโยชน์สาธารณในทางเนื้อหาของการคัดเลือกบุคคลเข้าทำงานภาครัฐยังคงดำรงมิได้รับผลกระทบหรือเสียหายแต่อย่างใด ดังนี้ เหตุของความไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เป็นเหตุผลให้เพิกถอนคำสั่งทางปกครองดังกล่าว หาได้มีน้ำหนักเพียงพอที่จะลบล้างความเชื่อโดยสุจริตในการดำรงอยู่ของคำสั่งทางปกครองของข้าราชการท้องถิ่นที่ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งไปแล้วตามหลักความมั่นคงแน่นอนในนิติฐานะหาได้ไม่ ตามมาตรา 52 ประกอบมาตรา 51 วรรคหนึ่ง วรรคสอง และวรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 (คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ.550/2551, คำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่คบ.171/2558 และคำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่คบ.14/2559, คบ.19/2559, คบ.20/2559 วินิจฉัยทำนองเดียวกัน) องค์การบริหารส่วนตำบลจำนวน 19 แห่ง ในจังหวัดอุดรธานี จึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น