สธ.แจงปรับสูตรฉีด'วัคซีนพิษสุนัขบ้า' สมาพันธ์ปลัดแนะให้อำนาจอปท.จัดการ |
มติชน ฉบับวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๖๑ |
เมื่อวันที่
8 มีนาคม นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค
กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)
กล่าวถึงการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ
และกรณีข้อเสนอการปรับสูตรการฉีดวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าในคนว่า
กรมควบคุมโรคได้ทราบข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกตั้งแต่ปี 2560
และองค์การอนามัยโลกได้ประกาศอย่างเป็นทางการช่วงเดือนธันวาคม 2560
อย่างไรก็ตาม
ได้มีเอกสารจากองค์การอนามัยโลกถึงข้อเสนอแนะในเรื่องการปรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าจาก
28 วัน เป็น 7 วัน โดยใช้สูตรวันที่ 0 วันที่ 3 และวันที่ 7 (0
หมายถึงวันแรกที่ฉีด) ซึ่งที่ผ่านมา ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเสริฐ ทองเจริญ
ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาและที่ปรึกษากรมควบคุมโรค
ได้ประชุมหารือในทีมพิจารณาเรื่องนี้
และจะเสนอมายังอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน "วันนี้ยังไม่อยากให้เกิดความสับสนในประชาชนว่า มีการปรับการฉีดวัคซีนแล้วหรือไม่ ขณะนี้ยังเหมือนเดิม ประสิทธิภาพการป้องกันยังเหมือนเดิม ขอให้ประชาชนยึดหลัก ล้างแผล ฉีดให้ครบ ฉีดให้ถูกวิธี โดยหากถูกกัด ถูกเลีย ถูกข่วน ให้รีบล้างแผล และรีบฉีดวัคซีนป้องกันให้ครบตามที่แพทย์นัด รวมทั้งฉีดให้ถูกวิธี ซึ่งมีฉีดเข้ากล้ามเนื้อ หรือฉีดเข้าผิวหนัง โดยจะอยู่ที่แพทย์พิจารณาเป็นหลัก อย่าได้กังวล ส่วนใครที่มีแผลเหวอะหวะ หรือถูกกัดใกล้เส้นประสาท มากๆ เช่น ใบหน้า ก็จะพิจารณาให้ฉีดเซรุ่ม เป็นต้น" นพ.สุวรรณชัยกล่าว ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีข่าวว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เตรียมหารือกับ สธ.เรื่องการตั้งโรงงานผลิตวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าว่า เรื่องนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดว่าเป็นอย่างไร แต่เวลาพูดถึงวัคซีนพิษสุนัขบ้านั้นจะแยกเป็นวัคซีนที่ฉีดในสัตว์ กับวัคซีนฉีดในคน ซึ่งกรณีวัคซีนที่ฉีดในคน กรมควบคุมโรคเป็นผู้จัดหาอยู่แล้ว และบริหารจัดการร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โดยมีองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เป็นผู้ผลิต ส่วนเซรุ่มที่เอาไว้ฉีดในคนที่ถูกกัดแล้วมีความเสี่ยงสูง เช่น แผลเหวอะหวะ ถูกกัดในบริเวณที่มีเส้นประสาทจำนวนมาก อาทิ ใบหน้า มือ เป็นต้น มีสภากาชาดไทยเป็นผู้ผลิต เพราะฉะนั้นทั้งวัคซีนและเซรุ่มมีปริมาณที่เพียงพอ ไม่ได้ขาดแคลน "ส่วนการผลิตวัคซีนในสัตว์นั้น เรื่องราคาและความยุ่งยากน้อยกว่าวัคซีนในคน โดยมีกรมปศุสัตว์เป็นคนดูแล แต่ปัญหา 2-3 ปีที่ผ่าน คือเรื่องการจัดหาวัคซีนที่เกิดจากความเข้าใจของท้องถิ่น และการตรวจสอบเงินของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ทำให้การจัดหาและฉีดวัคซีนในสัตว์ชะงัก วัคซีนในสัตว์นั้นเป็นชีววัตถุที่มีอายุสั้น ช่วงที่มีการชะลอการฉีดก็เลยต้องชะลอการสั่งซื้อ เมื่อไม่มีการสั่งซื้อ บริษัทผู้ผลิตในต่างประเทศก็ไม่ผลิต และพอปัญหาคลี่คลายไปแล้ว เราสั่งซื้อเหมือนเดิม ก็ยังมีช่องว่างที่ผู้ผลิตต้องมาวางแผนรองรับการสั่งซื้ออีกรอบ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กรมปศุสัตว์สามารถติดต่อนำเข้ามาได้ ไม่มีปัญหาเรื่องนี้แล้ว" นพ.สุวรรณชัยกล่าว ขณะที่นายศักดิพงศ์ ธรรมอาชวกุล ประธานสมาพันธ์ปลัดเทศบาลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้สมาพันธ์มีข้อเสนอแนวทางแก้ปัญหาการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าทั่วประเทศ โดยกรมปศุสัตว์ไม่ควรไปขอเงินงบประมาณส่วนนี้จากสำนักงบประมาณ แต่ควรส่งเสริม อบรมอาสาสมัครให้ฉีดยาป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า จากนั้นมอบหมายให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ดำเนินการ เนื่องจาก อปท.ใกล้ชิดชุมชน สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ทันท่วงที สำหรับ สตง.หากกังวลว่าจะเสียงบประมาณแผ่นดินหรือวิตกว่าท้องถิ่นจะทุจริต ก็ควรกำหนดราคากลางวัคซีนฉีดสุนัขให้ชัดเจน อปท.ควรจัดซื้ออย่างไรให้ถูกต้องเหมาะสม "ขณะนี้ อปท.มีต้นทุนฉีดวัคซีนสุนัขและแมวตัวละ 15-20 บาทต่อปี ส่วนการฉีดป้องกันควรฉีดทุกตัว ทั้งสุนัขจรจัดและมีเจ้าของ เพราะการเคลื่อนย้ายสัตว์ไปคลินิกในพื้นที่ชนบทมีความยุ่งยาก อย่ามองว่าการฉีดสุนัขให้ประชาชนเป็นการหาเสียงทางการเมือง ทุกฝ่ายควรบูรณาการ หลังจากโรคพิษสุนัขบ้ากลับมาระบาด เพิ่ม หากแก้ปัญหานี้ไม่ได้ระบบราชการไทยจะต้อง สนองนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ได้อย่างไร" นายศักดิพงศ์กล่าว |
เพื่อประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับวงงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น : ฅนเทศบาล
เมนูหลัก
ข่าวท้องถิ่น
ระเบียบบริหารงานบุคคลของพนักงานส่วนท้องถิ่น
มาตรฐานกำหนดคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งพนักงานส่วนท้องถิ่น
มาตรฐานการบริหารงานบุคคลพนักงานส่วนท้องถิ่น
วันศุกร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2561
สธ.แจงปรับสูตรฉีด'วัคซีนพิษสุนัขบ้า' สมาพันธ์ปลัดแนะให้อำนาจอปท.จัดการ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น