สยามรัฐ ฉบับวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ |
ศ.ดร.โกวิทย์ พวงงาม ผมได้รับเชิญจากสมาคมข้าราชการและพนักงาน อบต. แห่งประเทศไทย ให้ไปเป็นผู้ร่วมอภิปรายและดำเนินการอภิปราย ในหัวข้อ"ปฏิรูปท้องถิ่นหรือเลือกตั้งท้องถิ่นก่อน" ซึ่งทางสมาคมฯ ได้จัดสัมมนาวิชาการขึ้น เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 พฤศจิกายน 2560 ณ โรงแรมเชียงใหม่ภูคำ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีบุคคลผู้ร่วมอภิปรายที่สำคัญ ประกอบด้วย ตัวแทนจากกรรมาธิการการปกครองท้องถิ่น ของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ, นายธีรศักดิ์ พานิชวิทย์ เลขาธิการสมาคม อบต.แห่งประเทศไทย, นายพิพัฒน์ วรสิทธิดำรงนายกสมาคมข้าราชการและพนักงาน อบต. แห่งประเทศไทย ซึ่งในประเด็นหัวข้อดังกล่าวสอดรับกับกระแสที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุเครืองาม) ได้เปิดประเด็นการหารือที่จะจัดให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นก่อน โดยเฉพาะการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับท้องถิ่นให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญปี 2560 และส่วนหนึ่งถือว่าเป็นประเด็นที่อยู่ในกระแสที่ประชาชนและคนท้องถิ่นสนใจและอยากรู้ความชัดเจน ประเด็นหัวข้อการอภิปรายดังกล่าวได้รับความสนใจจากผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่น และบุคลากรท้องถิ่น รวมทั้งตัวแทนสมาคมฯเป็นจำนวนมาก โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมสัมมนาประมาณ 500 คน ซึ่งเข้าใจว่าผู้เข้าร่วมต้องการข้อคิดเห็นจากวิทยากร ซึ่งเป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องและสามารถวิเคราะห์ในประเด็นดังกล่าวผมในฐานะผู้ร่วมอภิปรายและดำเนินการอภิปรายก็พยายามซักถามและชวนคุยในประเด็นที่บางเรื่องต้องการคำตอบ และบางเรื่องให้วิเคราะห์แนวทางที่จะเป็นไป ซึ่งสามารถประมวลข้อสรุปได้ดังนี้ ประเด็นที่ 1 จากการที่ผมได้ถามผู้ร่วมอภิปรายว่า "จะปฏิรูปท้องถิ่นหรือเลือกตั้งท้องถิ่นก่อน"วิทยากรแต่ละท่านมีคาวมคิดเห็นอย่างไรโดยถามตัวแทนจากกรรมาธิการการปกครองท้องถิ่น จาก สนช. ได้รับคำตอบว่า การปฏิรูปท้องถิ่นนั้นได้ดำเนินการมาเป็นระยะๆ แล้ว โดยใช้ฐานคิดของรัฐธรรมนูญเป็นตัวตั้ง ทั้งรัฐธรรมนูญตั้งแต่ปี 2540 รัฐธรรมนูญปี 2550 จนกระ ทั่งถึงปัจจุบัน รัฐธรรมนูญ 2560 ได้วางกรอบการปฏิรูปประเทศไว้เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ว่าต้องดำเนินการแก้ไขกฎหมายท้องถิ่นให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ เช่น กฎหมายกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องกระทำโดยด่วนถ้าจะจัดให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นก่อนส่วนความเห็นของผมความเห็นของนายธีรศักดิ์พานิชวิทย์ ในฐานะเลขาธิการสมาคม อบต. แห่งประเทศไทย และความเห็นของนายพิพัฒน์ วรสิทธิดำรง ในฐานะนายกสมาคมข้าราชการและพนักงาน อบต. แห่งประเทศไทยต่อคำถามดังกล่าวเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งเห็นว่า การปฏิรูปท้องถิ่นยังเป็นเพียงแนวทางอยู่บนแผ่นกระดาษและเป็นเพียงแนวคิดในเชิงกระบวนการอยู่ และอาจกล่าวในอีกนัยหนึ่งคือยังไม่มีการปฏิรูปท้องถิ่นกันอย่างจริงจังซึ่งก็อาจจะเห็น แย้งกับทางตัวแทนของฝ่ายจากกรรมาธิการการปกครองท้องถิ่น สนช. อยู่บ้าง สำหรับความเห็นของผมต่อคำถามในประเด็นนี้ เห็นว่า การปฏิรูปท้องถิ่นยังไม่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง และถือว่ายังไม่ชัดเจนและยังสะเปะสะปะ นั่นก็คือ จะต้องทำให้การปฏิรูปท้องถิ่นมีเป้าหมายอย่างชัดเจน โดยพิจารณาจากแนวทางการปฏิรูปประเทศไทย ก็พบว่า ยังไม่มีด้านการปฏิรูปท้องถิ่นอย่างเป็นเรื่องเป็นราวทั้งนี้เพราะการปฏิรูปท้องถิ่นมีความสัมพันธ์กับหลายๆ เรื่อง เป็นต้นว่า ความสัมพันธ์เชิงโครงสร้างอำนาจระหว่างรัฐกับท้องถิ่น การลดบทบาทหน้าที่และอำนาจภาครัฐ การพัฒนาศักยภาพของท้องถิ่นทั้งในแง่การส่งเสริมให้ท้องถิ่นมีรายได้เพิ่มขึ้น และที่สำคัญการวางยุทธศาสตร์ชาติเพื่อให้ท้องถิ่นเป็นฐานในการพัฒนาประเทศประเด็นเหล่านี้ไม่ได้ถูกหยิบยกมาเสนอในเวทีปฏิรูปประเทศไทยแต่อย่างใด และเห็นว่า นี่คือหัวใจของการปฏิรูปท้องถิ่นมากกว่าที่จะมองในเชิงความคิดเพียงแก้กฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นเท่านั้น ประเด็นที่ 2 เป็นคำถามที่เกี่ยวกับ ถ้าจะให้มีการเลือกตั้งก่อนจะต้องทำอะไรบ้าง และจะต้องแก้ไขกฎหมายท้องถิ่นอย่างไร ในประเด็นนี้ วิทยากรที่ร่วมอภิปรายส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า การแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่นต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ 2560 และมีหลายเรื่องที่ต้องแก้ไข โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งท้องถิ่น ประเด็นที่สำคัญที่จะต้องพิจารณาคือการแก้ไขกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นในบางประเด็นนั้น จะต้องนำไปรับฟังความคิดเห็นของประชาชนด้วยหรือไม่ ซึ่งมีหลายประเด็นที่ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องในการแก้กฎหมายการเลือกตั้งท้องถิ่นต้องพิจารณา เป็นต้นว่า ในมาตรา 252 ในหมวดว่าด้วยการปกครองท้องถิ่น ยังมีประเด็นที่ต้องพิจารณาเกี่ยวกับผู้บริหารท้องถิ่น จะให้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรง หรือมาจากความเห็นชอบของสมาชิกสภาท้องถิ่นคุณสมบัติของสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นจะกำหนดคุณสมบัติอย่างไร และหลักเกณฑ์วิธีการเลือกตั้งจะกำหนดอย่างไร เพื่อให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ในส่วนที่เกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต สิ่งเหล่านี้ จะต้องฟังความคิดเห็นของประชาชนหรือไม่ หรือสามารถแก้ไขได้เลย นอกจากนี้ยังไปเกี่ยวพันกับท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ เช่น กทม. และเมืองพัทยาจะกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เหมือนรูปแบบของ อบจ. เทศบาล และ อบต. หรือไม่ ประเด็นที่ 3 ประเด็นเกี่ยวกับจะต้องแก้กฎหมายอะไรบ้างวิทยากรบนเวที เห็นตรงกันว่าจะต้องแก้ไขกฎหมาย อปท. ทั้ง 5 ประเภทท้องถิ่นให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็นพ.ร.บ. ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานครพ.ร.บ. องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) พ.ร.บ.เทศบาล และ พ.ร.บ. องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) ตลอดจนต้องพิจารณาเกี่ยวกับกฎหมายกำหนดอำนาจหน้าที่ท้องถิ่นหรือไม่ ซึ่งไปเกี่ยวกับ พ.ร.บ. การกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจแก่ อปท. ที่มีอยู่เดิม ในส่วนของการแก้กฎหมายทั้ง 6 ฉบับแล้วจะเลือกตั้ง เลยหรือไม่ คุณธีรศักดิ์ พานิชวิทย์ ฟันธงว่า ถ้าจะให้เลือกตั้งท้องถิ่นในเร็ววันนี้ไม่น่าจะทันในการแก้ไขกฎหมายทั้ง 6 ฉบับแต่อาจจะหยิบเฉพาะกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นในบางประเภท และเห็นว่าน่าจะเลือกตั้ง ใน กทม.เมืองพัทยา และ อบจ. ก่อน ซึ่งในส่วนนี้ผมมีความเห็นแย้งกับคุณธีรศักดิ์ พานิชวิทย์ เล็กน้อยว่า น่าอาจจะเลือกตั้งเทศบาล และ อบต.ก่อน ซึ่งคุณธีรศักดิ์ พานิชวิทย์ มาอธิบายเหตุผลว่า ที่เขา (คุณธีรศักดิ์ พานิชวิทย์) กล่าวถึงว่าจะมีการเลือกตั้ง กทม. และ อบจ. ก่อน เพราะเหตุผลทางการเมืองว่า "รัฐบาลอาจจะตรวจสอบกระแสทางการเมือง เพราะการเลือกตั้งในกทม. และ การเลือกตั้งระดับ อบจ. เป็นภาพใหญ่ในระดับจังหวัดทุกจังหวัดที่อาจจะเกี่ยวกับระดับประเทศทั้งประเทศก็ว่าได้ เพราะทั้งการเลือกตั้ง กทม. และ อบจ. เป็นการเลือกตั้งที่ใช้เขตเลือกตั้งทั้งจังหวัด" รวมทั้งกล่าวเสริมว่า"การเลือกตั้งในระดับเทศบาลและ อบต. รัฐบาลอาจเก็บไว้เป็นข้อต่อรองบางอย่างในทางการเมืองก็เป็นได้" ประเด็นที่ 4 มีการเรียกร้องให้มีการจัดตั้งสภาปฏิรูปท้องถิ่นโดยภาคประชาชนพลเมืองซึ่งผมได้มีแนวคิดนี้มานานแล้วว่า องค์กรปกครองท้องถิ่นต้องเปิดประเด็นและเป็นฝ่ายรุกในการปฏิรูปท้องถิ่น โดยมีการปฏิรูปตนเองประกอบไปด้วยทั้งในแง่การพัฒนาศักยภาพในการบริหารงาน โดยเฉพาะเรียกร้องให้สมาคมท้องถิ่นทุกสมาคมผนึกกำลังกันเพื่อดำเนินการจัดตั้ง สภาปฏิรูปท้องถิ่นโดยคนท้องถิ่น และสร้างเครือข่ายร่วมกับนักวิชาการในมหาวิทยาลัยที่สนใจในเรื่องท้องถิ่น วิธีการแบบนี้จะก่อให้เกิดความตื่นตัวและก้าวหน้า จนทำให้กระแสการกระจายอำนาจและการปฏิรูปท้องถิ่นถูกยกขึ้นมาพูดถึงในระดับประเทศ ประเด็นที่ 5 เป็นประเด็นที่มีการเรียกร้องให้รัฐบาลและผู้ที่เกี่ยวปฏิรูปประเทศว่า ให้ใช้ฐานท้องถิ่นเป็นฐานในการปฏิรูปประเทศ โดยเฉพาะการใช้หน่วยตำบลเป็นหน่วยหลักในการพัฒนาประเทศ ที่จะนำไปสู่ชุมชนท้องถิ่นเข้มแข็ง และเป็นหน่วยในการพัฒนาระดับตำบลโดยให้เทศบาลและ อบต. เป็นแกนกลางในการพัฒนา หรือจะปรับ อบต.เป็นเทศบาลในหน่วยตำบลก็ได้ และเรียกร้องให้ 1 ตำบลเป็น 1 หน่วยท้องถิ่น ผมเห็นว่า ทั้งหมดที่นำเสนอมานี้ เป็นประเด็นที่มีความสำคัญต่อทั้งข้อคิดว่า จะปฏิรูปท้องถิ่นหรือเลือกตั้งท้องถิ่นก่อนที่สำคัญพุ่งเป้าไปที่การปฏิรูปท้องถิ่นที่มีความจำเป็นจะต้องตั้งสภาปฏิรูปท้องถิ่นในภาคประชาชน และให้ใช้ท้องถิ่นเป็นฐานในการพัฒนาประเทศ และนี่คือเป็นประเด็นที่จะเปลี่ยนกรอบในการพัฒนาประเทศใหม่ที่ไม่ยึดติดเฉพาะการเลือกตั้งเท่านั้น |
เพื่อประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับวงงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น : ฅนเทศบาล
เมนูหลัก
ข่าวท้องถิ่น
ระเบียบบริหารงานบุคคลของพนักงานส่วนท้องถิ่น
มาตรฐานกำหนดคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งพนักงานส่วนท้องถิ่น
มาตรฐานการบริหารงานบุคคลพนักงานส่วนท้องถิ่น
วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
สายตรงท้องถิ่น: เก็บตกจากการสัมมนา'ปฏิรูปท้องถิ่นหรือเลือกตั้งท้องถิ่นก่อน'
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น