วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

วอน'ลอยกระทง'ตามประเพณีไทย

วอน'ลอยกระทง'ตามประเพณีไทย
เดลินิวส์ (กรอบบ่าย)  ฉบับวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๐

          "บิ๊กตู่" วอนจัดลอยกระทงอย่างเหมาะสม-รักษาประเพณีไทย ลดความสนุกหลุดโลก แถมห่วงความปลอดภัยประชาชน สั่งกำชับมหาดไทยกวดขันเล่นดอกไม้ไฟ-พลุช่วงเทศกาลลอยกระทง พร้อมขอความร่วมมือผู้จัดงาน-ร้านค้า-สถานบันเทิง ปฏิบัติตามกฎหมายเคร่งครัด หากฝ่าฝืนมีโทษหนัก จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ด้านบวท.เร่งประสานจังหวัดดูแลไม่ให้ปล่อยโคมลอย-ในเขตพื้นที่รอบสนามบิน หวั่นเกิดอันตรายต่ออากาศยาน ขณะที่การบินไทยไม่ประมาทปรับตารางบิน-ยกเลิกเที่ยวบิน 3-4 พ.ย.นี้
          เมื่อวันที่ 31 ต.ค. พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ห่วงใยในสวัสดิภาพและความปลอดภัยของประชาชนในช่วงเทศกาลลอยกระทง เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่ามีเหตุระเบิดและเพลิงไหม้ที่เกิดจากการเล่นดอกไม้เพลิง การจุดและปล่อยพลุ โคมลอย โคมไฟ อยู่บ่อยครั้ง โดยนายกฯ ได้กำชับไปยังกระทรวงมหาดไทยให้กวดขันจังหวัดออกประกาศหลักเกณฑ์การจุดและปล่อยพลุ ตะไล โคมลอย โคมไฟ โคมควัน ให้ชัดเจน เพื่อให้นายอำเภอใช้เป็นแนวทางพิจารณาอนุญาตแก่ผู้ที่ประสงค์จะดำเนินการในเรื่องดังกล่าว หากจังหวัดใดยังมิได้จัดทำประกาศ ห้ามมิให้นายอำเภอสั่งอนุญาตโดยเด็ดขาด
          พล.ท.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ให้จังหวัดและอำเภอชี้แจงทำความเข้าใจกับหัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในท้องที่ให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมทั้งตรวจสอบแนะนำร้านค้าที่จำหน่ายดอกไม้เพลิงและแหล่งผลิตให้ปฏิบัติตามกฎหมาย โดยหากร้านค้าใดไม่ได้รับอนุญาตจากทางราชการ ห้ามมิให้จำหน่ายเด็ดขาด ขณะเดียวกันนายกฯได้สั่งการให้ทุกจังหวัดเข้มงวดตรวจตราสถานบริการ สถานบันเทิง สถานีขนส่ง ท่าเรือ เรือ และโป๊ะ เพื่อป้องกันและระงับยับยั้งไม่ให้เกิดอุบัติภัย รวมถึงกำชับมิให้ท่าเรือ เรือ และโป๊ะ บรรทุกผู้โดยสาร หรือผู้เข้าร่วมงานประเพณีลอยกระทง เกินน้ำหนักที่รองรับได้
          "รัฐบาลขอให้หน่วยงานที่จัดงานลอยกระทงใช้ดุลพินิจอย่างเหมาะสม ไม่ส่งเสริมการจุดและปล่อยพลุ โคมลอย โคมไฟ ฯลฯ โดยให้ยึดหลักความพอดีและรักษาความงดงามของประเพณีไทย รวมทั้งขอความร่วมมือประชาชน ร้านค้า และสถานประกอบการในการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น และสร้างความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง" พล.ท.สรรเสริญ กล่าว
          ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการจัดงานประเพณีลอยกระทง ในวันที่ 3 พ.ย.นี้ ว่า ถือเป็นงานแรกหลังจากเสร็จสิ้นพระราชพิธีพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งเราอยู่ในช่วงเวลาแห่งความโศกเศร้าอาลัยเป็นเวลา 1 ปี ทั้งนี้ ตนคิดว่าการจัดงานประเพณีลอยกระทงครั้งนี้ ขอให้ทำอย่างเหมาะสมตามที่เห็นสมควร รักษาวัฒนธรรมประเพณี และลดการสร้างความสนุกหลุดโลก สำหรับกฎระเบียบกติกานั้นกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ดูแล โดยผู้ที่ต้องการจัดงานก็ต้องไปยื่นเรื่องขออนุญาตจากอำเภอ จังหวัด หรือกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพราะการจัดงานต่าง ๆ ต้องอยู่ในความสงบเรียบร้อย อย่าให้เกินเลยกันไปมาก ส่วนเรื่องการปล่อยโคมลอยก็ต้องได้รับอนุมัติก่อนเช่นกัน ซึ่งในบางพื้นที่จำเป็นต้องละเว้นการปล่อยโคมลอย เพราะถือเป็นเรื่องอันตราย
          ส่วนนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงมาตรการรักษาความปลอด ภัยให้แก่ประชาชนในช่วงเทศกาลวันลอยกระทง ปี 60 ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 3 พ.ย.ทั่วประเทศว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรมเจ้าท่า (จท.) ท่าอากาศยาน และบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) เป็นเจ้าภาพหลักในการดูแลการให้บริการและความปลอดภัย ซึ่งในส่วนของ จท. นั้น ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการ 2 ศูนย์ ได้แก่ ศูนย์ปฏิบัติการโทรทัศน์วงจรปิดที่จะคอยดูแลท่าเรือทั้งหมดทั่วประเทศ และศูนย์อำนวยความสะดวกในท่าเรือ 46 จุด พร้อมกันนี้มีเรือรักษาการณ์ทางน้ำ 62 ลำ มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัย 450 คนทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ทั้งนี้ ต้องขอความร่วมมือประชาชนให้ใช้บริการทางเรือด้วยความระมัดระวังด้วย
          นายอาคม กล่าวต่อว่า ส่วน บวท. ได้ประสานไปยังจังหวัด ทหาร และตำรวจ โดยเฉพาะจังหวัดทางภาคเหนือ ให้ช่วยกันควบคุม และสอดส่องดูแลไม่ให้มีการปล่อยโคมลอย และโคมควันในพื้นที่รอบเขตสนามบิน และแนวร่อนขึ้นลงของอากาศยาน เพราะจะเป็นอันตรายต่ออากาศยานและผู้โดยสารได้ สำหรับการห้ามปล่อยโคมลอยนั้น คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เคยออกคำสั่งเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยหากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน  3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
          ขณะที่ เรืออากาศเอกปรารถนา พัฒนศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายความปลอดภัย ความมั่นคงและมาตรฐานการบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลลอยกระทงของทุกปีหลายจังหวัดทางภาคเหนือได้จัดให้มีการปล่อยโคมลอยในช่วงเทศกาลดังกล่าว ซึ่งการปล่อยโคมลอยอาจมีผลกระทบต่อความปลอดภัยในการปฏิบัติการบิน ดังนั้นเพื่อเป็นการรักษามาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดของการปฏิบัติการบิน บริษัทฯ จึงปรับตารางการบินและยกเลิกบางเที่ยวบินในช่วงวันที่ 3-4 พ.ย.นี้ ดังนี้ 1. ยกเลิกเที่ยวบินเส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯเชียงใหม่ ประกอบด้วย เที่ยวบินทีจี 120 เส้นทางกรุงเทพฯ- เชียงใหม่ วันที่ 3-4 พ.ย. 60 และเที่ยวบินทีจี 121 เส้นทางเชียงใหม่กรุงเทพฯ วันที่ 3-4 พ.ย. 60
          2.ปรับเปลี่ยนเวลาบิน ระหว่างวันที่ 3-4 พ.ย.60 ดังนี้ เที่ยวบินทีจี 103 วันที่ 3 พ.ย.60 เดิมออกจากเชียงใหม่ เวลา 10.05 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 11.25 น. ปรับเปลี่ยนเวลาบินใหม่เป็น ออกจากเชียงใหม่ เวลา 09.55 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 11.15 น., เที่ยวบินทีจี 105 วันที่ 3 พ.ย.60 เดิมออกจากเชียงใหม่ เวลา 10.40 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 11.55 น. ปรับเปลี่ยนเวลาบินใหม่เป็น ออกจากเชียงใหม่ เวลา 12.05 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 13.15 น.
          เที่ยวบินทีจี 116 วันที่ 3-4 พ.ย. 60 เดิมออกจากกรุงเทพฯ เวลา 17.10 น. ถึงเชียงใหม่ เวลา 18.30 น. ปรับเปลี่ยนเวลาบินใหม่เป็น ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 16.00 น. ถึงเชียงใหม่ เวลา 17.10 น., เที่ยวบินทีจี 117 วันที่ 3-4 พ.ย.60 เดิมออกจากเชียงใหม่ เวลา 19.20 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 20.40 น.ปรับเปลี่ยนเวลาบินใหม่เป็น ออกจากเชียงใหม่ เวลา 18.00 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 19.10 น. ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถดูรายละเอียดตารางการบิน สำรองที่นั่ง และออกบัตรโดยสารได้ที่ thaiairways.com หรือโทรศัพท์สอบถามที่ THAI Contact Center โทร. 0-2356-1111 ตลอด 24 ชั่วโมง
          ที่ จ.สกลนคร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้กำลังเตรียมจัดงานเทศกาลลอยพระประทีปพระราชทาน สิบสองเพ็งไทสกล ประจำปี 2560 จ.สกลนคร ปีที่ 39 ในวันศุกร์ที่ 3 พ.ย.นี้ (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12) โดยจะมีพระประทีปจาก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และพระบรมวงศานุวงศ์ ทั้งสิ้น 11 พระองค์ มาร่วมลงลอยกับพสกนิกรชาว จ.สกลนคร นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้
          ที่โรงเรียนสกลราชวิทยานุกูล อ.เมือง จ.สกลนคร ทางคณะครูและนักเรียน ประมาณ 60 คน กำลังดำเนินการจัดทำกระทงพระประทีปพระราชทานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และพระบรมวงศานุวงศ์ ทั้งสิ้น 11 พระองค์ โดยโรงเรียนสกลราชวิทยานุกูลได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่จัดทำกระทงพระประทีปพระราชทานมาตั้งแต่ปี 2524 นอกจากนี้ถือเป็นจังหวัดแรกที่ได้รับพระราชทานพระประทีปมาประกอบพิธีในเทศกาลลอยกระทง.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น