วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

สอบราคาไม่ชอบแต่ทำงานแล้วเสร็จตามสัญญา


เรื่องย่อ

คำฟ้อง
๑.ฟ้องให้เพิกถอนคำสั่งผลการพิจารณาตามความเห็นของคณะกรรมการเปิดซองสอบราคา
๒.ฟ้องให้ผู้ถูกฟ้องยกเลิกสัญญาจ้าง
๓.ฟ้องให้ผู้ถูกฟ้องชำระค่าธรรมเนียมศาลและค่าทนายความแทนผู้ฟ้อง

คดีนี้ผู้ฟ้องคือห้างหุ้นส่วนจำกัด ส. เป็นผู้ยื่นซองสอบราคาประมูลงานก่อสร้างของเทศบาล ค. ผลการเปิดซองปรากฏว่าผู้ฟ้องเสนอราคาต่ำเป็นอันดับที่สอง แต่เมื่อขอดูเอกสารประกอบการเสนอราคาของผู้เสนอราคาที่ต่ำสุดคือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ช. แล้ว พบว่าหนังสือรับรองผลงานเป็นหนังสือรับรองผลงานที่เป็นของบริษัทเอกชน และเป็นผลงานคนละประเภทกับงานที่ประกาศสอบราคา จึงยื่นฟ้องต่อศาลให้ยกเลิกผลการพิจารณาของคณะกรรมการเปิดซองสอบราคาที่เลือกห้างหุ้นส่วนจำกัด ช. ทำสัญญากับเทศบาล เทศบาลผู้ถูกฟ้องให้การต่อสู้ว่า ถึงแม้จะเป็นหนังสือรับรองผลงานของบริษัทเอกชน แต่เป็นบริษัทที่เชื่อถือได้ ตามแนวความเห็นของจังหวัดที่ว่าเมื่อเทศบาลเป็นผู้ออกประกาศ เทศบาลก็เป็นผู้มีอำนาจพิจารณาว่าบริษัทไหนเชื่อถือได้ และผลงานที่ผู้ฟ้องตรวจดู ถึงแม้จะไม่ใช่งานประเภทเดียวกัน แต่ก็ยังมีหนังสือรับรองผลงานของอีกบริษัทหนึ่ง ซึ่งเป็นผลงานประเภทเดียวกันอยู่ด้วย เพราะประกาศไม่ได้กำหนดว่าต้องใส่เอกสารรับรองผลงานมาเพียงชิ้นเดียว

ศาลปกครองชั้นต้น พิพากษา ให้เพิกถอนคำสั่งตามความเห็นเห็นของคณะกรรมการเปิดซองราคา ที่ให้ว่าจ้าง ห้างหุ้นส่วนจำกัด ช. ทำงานก่อสร้าง เพราะการสอบราคาดำเนินการไม่ชอบด้วยระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุ ประเด็น
ตาม ข้อ ๓๔ (๑) และ (๒) ของระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๓๕ ที่กำหนดว่า การซื้อหรือจ้างโดยวิธีการสอบราคาให้ดำเนินการดังนี้
(๑) ก่อนวันเปิดซองสอบราคาไม่น้อยกว่า ๑๐ วัน สำหรับการสอบราคาในประเทศ ให้เจ้าหน้าที่พัสดุส่งประกาศเผยแพร่การสอบราคาและเอกสารสอบราคาไปยังผู้มี อาชีพขายหรือรับจ้างทำงานนั้นโดยตรง หรือโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนให้มากที่สุดเท่าที่จะกระทำได้ กับให้ปิดประกาศเผยแพร่การสอบราคาไว้โดยเปิดเผย ณ ที่ทำการของหน่วย
 
การบริหารราชการส่วนท้องถิ่นนั้น
(๒) ในการยื่นซองสอบราคา ผู้เสนอราคาจะต้องผนึกซอง จ่าหน้าถึงประธานคณะกรรมการเปิดซองสอบราคาการซื้อหรือการจ้างครั้งนั้น และส่งถึงหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่นผู้ดำเนินการสอบราคาก่อนวันเปิดซองสอบราคา โดยยื่นโดยตรงต่อหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น หรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนในกรณีที่หน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น กำหนดให้กระทำได้ 
การที่ผู้ถูกฟ้องคดีประกาศสอบราคาจ้างเหมาก่อสร้างท่อระบายน้ำและบ่อพักท่อระบายน้ำตามประกาศลงวันที่ ๔ กันยายน ๒๕๔๔ โดยกำหนดยื่นซองสอบราคาในวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๔๔ ระหว่างเวลา ๐๙.๐๐ ถึง ๑๑.๐๐ นาฬิกา และกำหนดเปิดซองสอบราคาในวันเดียวกัน เริ่มตั้งแต่เวลา ๑๔.๐๐ นาฬิกา เป็นต้นไป การดำเนินการประกาศสอบราคาของผู้ถูกฟ้องคดีดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะไม่เป็นไปตามข้อ ๓๔ (๑) และ (๒) ของระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๓๕ ดังกล่าว

           แต่คำฟ้องที่ให้เพิกถอนสัญญาจ้างห้างหุ้นส่วนจำกัด ช. ก่อสร้าง และให้ผู้ฟ้องเข้าทำสัญญาจ้างแทนและให้ผู้ถูกฟ้อง ชำระค่าธรรมเนียมศาลและค่าทนายแทนนั้น ศาลไม่สามารถกำหนดคำบังคับได้ เพราะห้างหุ้นส่วนจำกัด ช. ได้ดำเนินการก่อสร้างงานแล้วเสร็จตามสัญญา และเบิกจ่ายเงินไปเรียบร้อยแล้วก่อนศาลมีคำพิพากษา และคำขอให้ชำระค่าธรรมเนียมและค่าทนายไม่อาจกำหนดคำบังคับได้ตามมาตรา ๗๒ แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒  

                    ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ ศาลปกครองสูงสุดได้พิพากษา โดยมีสาระสำคัญดังนี้

          การที่ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ขอให้ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้ยกเลิกสัญญาจ้างเหมาก่อสร้าง นั้น เห็นว่า แม้การทำสัญญาจ้างดังกล่าวระหว่างผู้ถูกฟ้องคดีกับห้างหุ้นส่วนจำกัด ช. จะเป็นผลมาจากคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่อนุมัติจ้างห้างหุ้นส่วนจำกัด ชง ซึ่งเป็นขั้นตอนหรือ กระบวนการหนึ่งในการเข้าทำสัญญาและศาลปกครองชั้นต้นได้วินิจฉัยแล้วว่าไม่ ชอบด้วยกฎหมายโดยให้มีผลย้อนหลังไปตั้งแต่วันที่มีคำสั่งดังกล่าว แต่เนื่องจากได้มีการจัดทำสัญญาจ้างฉบับดังกล่าวอันก่อให้เกิดสิทธิและ หน้าที่ตามสัญญาโดยชอบด้วยกฎหมายระหว่างคู่สัญญามาตั้งแต่ก่อนที่ศาลปกครอง ชั้นต้นจะมีคำพิพากษา  ทั้งนี้ เพื่อให้การจัดทำบริการสาธารณะดังกล่าวของผู้ถูกฟ้องคดีมีความต่อเนื่องอันจะเป็นประโยชน์แก่ประชาชนในพื้นที่ ประกอบกับข้อเท็จจริงปรากฏว่าห้างหุ้นส่วนจำกัด ช. ผู้รับจ้าง ได้ดำเนินการก่อสร้าง ตามสัญญาจ้างเสร็จเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๔๕ และผู้ถูกฟ้องคดีก็ได้จ่ายเงินค่าจ้างให้ผู้รับจ้างครบถ้วนแล้วตั้งแต่ก่อนที่ศาลปกครองชั้นต้นจะมีคำพิพากษา  ดังนั้น การที่ศาลปกครองชั้นต้นได้มีคำพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่อนุมัติจ้างห้างหุ้นส่วนจำกัด ช.  โดยให้มีผลย้อนหลังไปตั้งแต่วันที่มีคำสั่งดังกล่าวจึงไม่มีผลกระทบต่อความมั่นคงในสถานภาพหรือภาระหน้าที่ตามกฎหมายของคู่สัญญาตามสัญญาจ้างเหมาก่อสร้าง ระหว่างผู้ถูกฟ้องคดีกับห้างหุ้นส่วนจำกัด ช. แต่อย่างใด ศาลจึงไม่อาจพิพากษาให้เพิกถอนสัญญาจ้างดังกล่าวได้ คำอุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดีฟังไม่ขึ้น
ที่ศาลปกครองชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่อนุมัติจ้างห้างหุ้นส่วน ช. ก่อสร้าง และให้มีผลย้อนหลังไปตั้งแต่วันที่มีคำสั่งดังกล่าว โดยมิได้พิพากษาให้สัญญาจ้างเหมาก่อสร้าง ระหว่างผู้ถูกฟ้องคดีกับห้างหุ้นส่วนจำกัด ช. สิ้นผลลงไปด้วยนั้น จึงชอบแล้ว ศาลปกครองสูงสุดเห็นพ้องด้วย


คำพิพากษาฉบับเต็ม

                                           คดีหมายเลขดำที่ อ.  ๓๔๘/๒๕๔๗
                                            คดีหมายเลขแดงที่ อ. ๕๕/๒๕๕๓
                                               ในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์
                                                          ศาลปกครองสูงสุด
                                                                     วันที่    ๒๒    เดือน มีนาคม  พุทธศักราช  ๒๕๕๓
           
                     ห้างหุ้นส่วนจำกัด สำลีทอง                               ผู้ฟ้องคดี
     ระหว่าง      
            
                     เทศบาลตำบลแคนดง                                      ผู้ถูกฟ้องคดี

เรื่อง
  คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการ
    โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย (อุทธรณ์คำพิพากษา)

        ผู้ฟ้องคดียื่นอุทธรณ์คำพิพากษา ในคดีหมายเลขดำที่ ๑๓๙/๒๕๔๔ หมายเลขแดงที่ ๑๙๐/๒๕๔๗ ของศาลปกครองชั้นต้น (ศาลปกครองนครราชสีมา)
        คดีนี้ผู้ฟ้องคดีฟ้องว่า  เมื่อวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๔๔ ผู้ฟ้องคดีได้เข้าร่วมเสนอราคาในการสอบราคาจ้างเหมาก่อสร้างท่อระบายน้ำและ บ่อพักท่อระบายน้ำสายบูรพา รังสฤษดิ์ ๒ ตำบลแคนดง กิ่งอำเภอแคนดง จังหวัดบุรีรัมย์ ต่อผู้ถูกฟ้องคดี คณะกรรมการเปิดซองสอบราคาได้ทำการเปิดซองสอบราคาและผู้ถูกฟ้องคดีได้พิจารณา คัดเลือกผู้เสนอราคาซึ่งมีเอกสารหลักฐานครบถ้วนถูกต้องไว้จำนวน ๒ ราย ได้แก่ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ เสนอราคา ๑,๔๖๕,๐๐๐ บาท และผู้ฟ้องคดี เสนอราคา ๑,๔๗๑,๔๐๐ บาท ต่อมาวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๔๔ ผู้ฟ้องคดีได้ขอตรวจสอบเอกสารเสนอราคาของห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ พบว่าหนังสือรับรองผลงานก่อสร้างของห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ เป็นหนังสือรับรองผลงานก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก (คสล.) ซึ่งไม่ถูกต้อง ไม่เป็นผลงานประเภทเดียวกันกับงานที่จ้าง ไม่ได้ลงลายมือชื่อผู้ออกหนังสือรับรองผลงาน และหนังสือรับรองดังกล่าวออกโดยเอกชนที่ไม่ใช่คู่สัญญาโดยตรงกับส่วนราชการ เจ้าของงานก่อสร้าง ห้างหุ้นส่วนจำกัดชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ จึงขาดคุณสมบัติของผู้เสนอราคาตามประกาศสอบราคาจ้างเหมาก่อสร้างของผู้ถูก ฟ้องคดี ลงวันที่ ๔ กันยายน ๒๕๔๔ ข้อ ๒.๓ ผู้ฟ้องคดีจึงทักท้วงความถูกต้องต่อผู้ถูกฟ้องคดี ผู้ถูกฟ้องคดีก็ยอมรับข้อเท็จจริงดังกล่าวและพิจารณาให้ผู้ฟ้องคดีมีสิทธิ เข้าทำสัญญาจ้าง โดยได้พิมพ์แบบสัญญาจ้าง เลขที่ ๗/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๔๔ มอบให้ผู้ฟ้องคดีและให้ผู้ฟ้องคดีจัดหาเงินสดจำนวน ๗๓,๒๕๐ บาทเป็นหลักประกันสัญญาจ้าง และชำระตราสารอากรแสตมป์ในวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๔๔ แต่เมื่อถึงวันดังกล่าว ผู้ฟ้องคดีไปที่สำนักงานของผู้ถูกฟ้องคดี จึงทราบว่าผู้ถูกฟ้องคดีได้พิจารณาคัดเลือกผู้รับจ้างและทำสัญญาจ้างเหมาก่อ สร้างกับห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์แล้ว ตามสัญญาจ้าง ที่ ๗/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๔๔ ผู้ฟ้องคดีจึงได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งผลการพิจารณาการสอบราคาจ้างเหมาก่อสร้าง ดังกล่าวต่อผู้ถูกฟ้องคดี ตามหนังสือลงวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๔๔ แต่ผู้ถูกฟ้องคดีมิได้พิจารณาอุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดีแต่อย่างใด ต่อมาผู้ฟ้องคดีทราบว่าผู้ถูกฟ้องคดีได้มีหนังสือหารือไปยังจังหวัด บุรีรัมย์ว่าหนังสือรับรองผลงานการก่อสร้างของห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ ที่ออกให้โดยนิติบุคคลเอกชนรายหนึ่งเป็นหนังสือรับรองผลงานของเอกชนที่ผู้ ถูกฟ้องคดีเชื่อถือได้หรือไม่ ซึ่งหนังสือรับรองผลงานดังกล่าวเป็นคนละฉบับกับที่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ ได้ยื่นซองสอบราคาไว้เมื่อวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๔๔ จึงถือว่าผู้ถูกฟ้องคดีกระทำการไม่สุจริต โดยมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเอกสารการเสนอราคาอันเป็นสาระสำคัญ ทำให้ผู้เสนอราคารายอื่นเสียเปรียบ ผู้ฟ้องคดีจึงได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งผลการพิจารณาเพิ่มเติมอีกเมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๔๔ แต่ผู้ถูกฟ้องคดีก็ไม่ได้พิจารณาอุทธรณ์ให้แต่อย่างใด ทำให้ผู้ฟ้องคดีได้รับความเสียหายไม่ได้เข้าทำสัญญาจ้างกับผู้ถูกฟ้องคดี ทั้งๆ ที่เป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนและเอกสารการเสนอราคาถูกต้องตามเงื่อนไขประกาศ สอบราคา ซึ่งหากผู้ฟ้องคดีได้เข้าทำสัญญาดังกล่าวเมื่อดำเนินการก่อสร้างเสร็จแล้วจะ มีรายได้และกำไรสุทธิเป็นเงิน ๖๕๐,๐๐๐ บาท ผู้ฟ้องคดีไม่มีทางอื่นใดที่จะบังคับให้ผู้ถูกฟ้องคดี
ทำสัญญากับผู้ฟ้องคดี จึงนำคดีมาฟ้องต่อศาลเมื่อวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๔
 
ขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่ง ดังนี้
        ๑. เพิกถอนคำสั่งผลการพิจารณาสอบราคาจ้างเหมาก่อสร้างท่อระบายน้ำและบ่อพักท่อ ระบายน้ำสายบูรพา - รังสฤษดิ์ ๒ ของผู้ถูกฟ้องคดี เนื่องจากเป็นการดำเนินการที่ไม่สุจริตและใช้ดุลพินิจโดยมิชอบ
        ๒. ยกเลิกสัญญาจ้างของผู้ถูกฟ้องคดีกับห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทรกเตอร์ และพิพากษาให้ผู้ฟ้องคดีมีสิทธิเข้าทำสัญญาจ้างกับผู้ถูกฟ้องคดีในการรับ จ้างเหมาก่อสร้างท่อระบายน้ำและบ่อพักท่อระบายน้ำสายบูรพา - รังสฤษดิ์ ๒
         ๓. ให้ผู้ถูกฟ้องคดีชำระค่าฤชาธรรมเนียมศาลและค่าทนายความแทนผู้ฟ้องคดี
        ผู้ถูกฟ้องคดีให้การว่า  ตามที่ผู้ฟ้องคดีกล่าวอ้างว่าห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ ขาดคุณสมบัติของผู้เสนอราคาตามเอกสารประกาศสอบราคา ลงวันที่ ๔ กันยายน ๒๕๔๔ ข้อ ๒.๓ คือหนังสือรับรองผลงานการก่อสร้างไม่ถูกต้อง นั้น ผู้ถูกฟ้องคดีพิจารณาแล้วเห็นว่าหนังสือรับรองผลงานการก่อสร้างนั้นเป็นของ เอกชนที่ผู้ถูกฟ้องคดีเชื่อถือ ประกอบกับผู้ถูกฟ้องคดีได้หารือไปยังจังหวัดบุรีรัมย์และได้รับคำตอบว่า อำนาจในการสั่งจ้างเป็นของนายกเทศมนตรีตำบลแคนดง กรณีที่กำหนดในเอกสารสอบราคาว่าหนังสือรับรองผลงานก่อสร้างของหน่วยงานเอกชน ที่เทศบาลเชื่อถือนั้น ผู้ถูกฟ้องคดีเป็นผู้กำหนดเงื่อนไขดังกล่าว ดังนั้น ผู้ถูกฟ้องคดีจะต้องเป็นผู้พิจารณาเองว่าเอกชนใดที่ผู้ถูกฟ้องคดีเชื่อถือ และใช้หลักเกณฑ์ใดในการพิจารณา ทั้งนี้ ต้องคำนึงถึงประโยชน์ที่หน่วยราชการจะได้รับเป็นสำคัญ เนื่องจากผู้ถูกฟ้องคดีเป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์เอง ส่วนที่ผู้ฟ้องคดีกล่าวอ้างว่า ผู้ถูกฟ้องคดีและห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ ร่วมกันแก้ไขเปลี่ยนแปลงเอกสารหนังสือรับรองผลงานก่อสร้างของห้างหุ้นส่วน จำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ ภายหลังจากการเปิดซองสอบราคาแล้ว โดยใช้หนังสือรับรองผลงานเป็นคนละฉบับกับที่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ ได้ยื่นซองสอบราคาแล้วเป็นการช่วยเหลือห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ ให้เป็นผู้มีคุณสมบัติในการเข้าเสนอราคาจ้างเหมาก่อสร้างนั้น ผู้ถูกฟ้องคดีได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งเอกสารและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง แล้วเห็นว่าไม่เป็นความจริงตามที่ผู้ฟ้องคดีกล่าวอ้าง และตามที่ผู้ฟ้องคดีทักท้วงว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ ขาดคุณสมบัติและผู้ถูกฟ้องคดียอมรับข้อเท็จจริงและพิจารณาให้ผู้ฟ้องคดีมี สิทธิเข้าทำสัญญาจ้างแล้วให้ผู้ฟ้องคดีจัดหาเงินสด จำนวน ๗๓,๒๕๐ บาท เป็นหลักประกันสัญญาจ้างและให้ชำระตราสารอากรแสตมป์ นั้น ผู้ถูกฟ้องคดีให้การว่า ในวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๔๔ ผู้ฟ้องคดีได้เดินทางมาที่สำนักงานของผู้ถูกฟ้องคดีและได้ทักท้วงว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ ขาดคุณสมบัติของผู้เสนอราคาและได้เรียกร้องให้ผู้ถูกฟ้องคดีทำสัญญาจ้างกับ ผู้ฟ้องคดี แต่ผู้ถูกฟ้องคดีไม่สามารถดำเนินการตามคำเรียกร้องของผู้ฟ้องคดีได้ เนื่องจากได้ดำเนินการตามระเบียบพัสดุฯ
ถูกต้องทุกขั้นตอนแล้ว หลังจากนั้นผู้ฟ้องคดีได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังจังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดบุรีรัมย์ได้มีหนังสือสั่งการให้กิ่งอำเภอแคนดงตั้งกรรมการสอบข้อ เท็จจริงในเรื่องดังกล่าว ขณะนี้งานก่อสร้างท่อระบายน้ำและบ่อพักท่อระบายน้ำสายบูรพา
รังสฤษดิ์ ๒  ซึ่งเป็นคดีพิพาทได้ก่อสร้างเสร็จแล้วและได้มีการตรวจรับงานเมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๔๕
        ผู้ฟ้องคดีคัดค้านคำให้การว่า  คำให้การของผู้ถูกฟ้องคดียังไม่ถูกต้อง กล่าวคือ หนังสือรับรองผลงานการก่อสร้างของห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ ที่นำมาประกอบการยื่นซองสอบราคาเมื่อวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๔๔ เป็นหนังสือรับรองผลงาน เลขที่ ๑๕/๒๕๔๓ ลงวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๔๓ ซึ่งบริษัท โมทย์กังวาฬ จำกัด โดยนางวัชรีวรรณ  กฤษสุทธิกุล ออกให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ กรณีเทศบาลตำบลแวงนางได้ว่าจ้างให้บริษัท โมทย์กังวาฬ จำกัด ทำการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก สายหนองเจริญ หนองเส็ง แต่บริษัท โมทย์กังวาฬ จำกัด ได้ว่าจ้างให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ ดำเนินการก่อสร้างแทน หนังสือรับรองผลงานดังกล่าวจึงเป็นหนังสือรับรองผลงานก่อสร้างของเอกชนและ ไม่เป็นผลงานประเภทเดียวกันกับงานที่สอบราคาจ้าง อีกทั้งผู้ออกหนังสือรับรองไม่ได้ลงลายมือชื่อและเป็นเอกสารรับรองผลงานปลอม ดังนั้น  ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ ยื่นหนังสือรับรองผลงานไม่ถูกต้อง เป็นผู้ขาดคุณสมบัติของผู้เสนอราคา ซึ่งหลังจากผู้ฟ้องคดีได้ตรวจสอบและทักท้วงความ
ไม่ถูกต้องของหนังสือรับรองผลงานเมื่อวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๔๔ ผู้ถูกฟ้องคดีและห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ ได้ร่วมกันแก้ไขเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมเอกสารหนังสือรับรองผลงานก่อสร้างของ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ โดยเพิ่มเติมเอกสารประกอบการเสนอราคาจ้าง จัดทำเอกสารปลอม ออกหนังสือรับรองผลงานอันเป็นเท็จ คือ หนังสือรับรองผลงานของห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้วยราชาคอนสตรัคชั่น เลขที่ ๑๙/๒๕๔๓ ลงวันที่ ๑ กันยายน ๒๕๔๓ ซึ่งห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้วยราชาคอนสตรัคชั่น ออกให้แก่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ กรณีเทศบาลตำบลห้วยราชได้ว่าจ้างให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้วยราชาคอนสตรัคชั่น ทำการก่อสร้างท่อระบายน้ำ คสล. สาย ๒ หมู่ที่ ๕ ตำบลห้วยราช แต่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้วยราชาคอนสตรัคชั่น ได้จ้างเหมาให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ เป็นผู้รับเหมาช่วงแทน แต่ตามหลักฐานหนังสือรับรองผลงานของเทศบาลตำบลห้วยราช ที่ ๑/๒๕๔๓ ลงวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๔๓ ระบุว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้วยราชาคอนสตรัคชั่น เป็นผู้ก่อสร้างท่อระบายน้ำฯ จนแล้วเสร็จ หนังสือรับรองผลงานของห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้วยราชาคอนสตรัคชั่น ที่ออกให้แก่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ ดังกล่าวจึงเป็นหนังสือรับรองผลงานก่อสร้างของเอกชนและเป็นการออกหนังสือ รับรองอันเป็นเท็จ เมื่อผู้ฟ้องคดีได้ทักท้วงด้วยวาจาเกี่ยวกับความไม่ถูกต้องของหนังสือรับรอง ผลงานของห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ ที่บริษัท โมทย์กังวาฬ จำกัด ออกให้ต่อหน้านายกเทศมนตรีตำบลแคนดง เทศมนตรีและเจ้าหน้าที่พัสดุ เมื่อวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๔๔ ในครั้งแรกบุคคลดังกล่าวเห็นว่าไม่ถูกต้องจริง และได้พิจารณาให้ผู้ฟ้องคดีเป็นผู้สอบราคาได้ โดยเจ้าหน้าที่พัสดุได้บันทึกต่อรองราคาที่เสนอจากเงิน ๑
,๔๗๑,๔๐๐ บาท เหลือเป็นเงิน ๑,๔๖๕,๐๐๐ บาท แล้วได้พิมพ์แบบสัญญาจ้างเลขที่ ๗/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๔๔ มอบให้ผู้ฟ้องคดีและให้ผู้ฟ้องคดีนำหลักประกันสัญญาเป็นเงิน ๗๓,๒๕๐ บาท พร้อมทั้งให้ชำระตราสารอากรแสตมป์เป็นเงิน ๑,๔๖๕ บาท ผู้ฟ้องคดีจึงได้นำสัญญาจ้าง
ตราสารอากรแสตมป์ และหนังสือค้ำประกันสัญญาของธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขาสตึก ไปมอบให้ผู้ถูกฟ้องคดีโดยมีนายวีระ ศักดิ์สุพรรณ เป็นผู้รับเอกสาร แต่ต่อมาได้รับทราบว่า ผู้ถูกฟ้องคดีได้ทำสัญญาจ้างกับห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ แล้ว
        ผู้ถูกฟ้องคดีให้การเพิ่มเติมว่า  ตามที่ผู้ฟ้องคดีคัดค้านคำให้การว่าผู้ถูกฟ้องคดีใช้ดุลพินิจพิจารณาหนังสือ รับรองผลงานการก่อสร้างของบริษัท โมทย์กังวาฬ จำกัด ซึ่งไม่เป็นผลงานประเภทเดียวกันกับงานที่สอบราคาจ้างและเป็นเอกสารรับรองผล งานปลอมนั้น ผู้ถูกฟ้องคดีไม่ได้พิจารณาหนังสือรับรองผลงานก่อสร้างของบริษัท โมทย์กังวาฬ จำกัด เนื่องจากไม่เป็นผลงานประเภทเดียวกันกับงานที่สอบราคาจ้าง และผู้ถูกฟ้องคดีไม่สามารถพิสูจน์ทราบได้ว่าเอกสารดังกล่าวเป็นหนังสือ รับรองผลงานปลอมหรือไม่  และตามที่ผู้ฟ้องคดีคัดค้านคำให้การว่าผู้ถูกฟ้องคดีและห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ ได้ร่วมกันแก้ไขเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมเอกสารนั้น เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงผู้ถูกฟ้องคดีได้พิจารณาเห็นว่าหนังสือรับรอง ผลงานที่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้วยราชาคอนสตรัคชั่น ออกให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ เป็นผลงานประเภทเดียวกันกับการสอบราคาจ้างในครั้งนี้ ส่วนที่ผู้ฟ้องคดีคัดค้านคำให้การว่าได้นำหนังสือค้ำประกันสัญญาจ้างของ ธนาคารกรุงไทยจำกัด สาขาสตึก เป็นเงิน ๗๓,๒๕๐ บาท ไปมอบให้ผู้ถูกฟ้องคดี โดยนายวีระ ศักดิ์สุพรรณ นายกเทศมนตรีตำบลแคนดงรับไปดำเนินการนั้น ผู้ถูกฟ้องคดีได้สอบถามแล้ว นายวีระ ศักดิ์สุพรรณได้ ปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็นในเรื่องที่ผู้ฟ้องคดีกล่าวอ้างแต่อย่างใด และการที่ผู้ฟ้องคดีคัดค้านคำให้การว่า ได้นำสัญญาไปติดตราสารอากรแสตมป์นั้น หากเกิดความเสียหายขึ้นผู้ฟ้องคดีต้องมีส่วนที่รับผิดชอบ เพราะในการทำสัญญาจ้างนั้น ต้องให้คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายลงนามก่อนที่จะติดตราสารอากรแสตมป์ ผู้ถูกฟ้องคดีชี้แจงเพิ่มเติมต่อศาลว่าการที่ผู้ถูกฟ้องคดีกำหนดวันยื่นซอง สอบราคาเพียงวันเดียวและกำหนดเปิดซองสอบราคาในวันเดียวกันกับวันยื่นซองสอบ ราคานั้น ผู้ถูกฟ้องคดีถือปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น
พ.ศ. ๒๕๓๕ แล้ว โดยผู้ถูกฟ้องคดีเห็นว่าระเบียบดังกล่าวไม่มีการกำหนดไว้ว่าวันยื่นซองกับ วันเปิดซองสอบราคาจะต้องเป็นคนละวันกัน และห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ ได้ยื่นหนังสือรับรองผลงานของบริษัท โมทย์กังวาฬ จำกัด มาพร้อมในคราวเดียวกัน แต่ผู้ถูกฟ้องคดีตรวจสอบแล้วเห็นว่าหนังสือรับรองผลงานของบริษัท โมทย์กังวาฬจำกัด ไม่เป็นผลงานประเภทเดียวกันกับงานที่สอบราคาจ้าง จึงไม่มีการพิจารณาผลงานดังกล่าว
        ศาลปกครองชั้นต้นมีคำสั่งให้ผู้ฟ้องคดี เทศบาลตำบลห้วยราชและสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินชี้แจงเพิ่มเติม ซึ่งผู้ฟ้องคดีชี้แจงว่าตามคำให้การเพิ่มเติมของผู้ถูกฟ้องคดีที่ว่าในการ ยื่นซองสอบราคาของห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ มีการยื่นหนังสือรับรองผลงาน ๒ ผลงาน คือ ของบริษัท โมทย์กังวาฬ จำกัด และห้างหุ้นส่วนจำกัด
ห้วยราชาคอนสตรัคชั่น แต่ผู้ถูกฟ้องคดีไม่พิจารณาหนังสือรับรองผลงานของบริษัท โมทย์กังวาฬ จำกัด โดยพิจารณาเฉพาะหนังสือรับรองผลงานของห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้วยราชาคอนสตรัคชั่น และการยื่นหนังสือรับรองผลงานมากกว่าที่กำหนดไว้ในการสอบราคาไม่ถือว่าผิด ระเบียบ และเงื่อนไขการสอบราคา นั้น ผู้ฟ้องคดีเห็นว่าแม้การยื่นเอกสารผลงานมากกว่า ๑ ผลงาน ไม่มีกฎหมายข้อใดกำหนดไว้ ผู้ถูกฟ้องคดีมีหน้าที่จะต้องพิจารณาหนังสือรับรองผลงานทั้งสองฉบับดังกล่าว ที่นำมายื่นประกอบการเสนอราคา แต่ไม่ปรากฏว่าการพิจารณาของผู้ถูกฟ้องคดีมีเอกสารหนังสือรับรองผลงานกี่ ฉบับ และไม่รับพิจารณาผลงานก่อสร้างของบริษัท โมทย์กังวาฬ จำกัด เพราะเหตุใด สำหรับผลงานของห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้วยราชาคอนสตรัคชั่น เป็นการออกหนังสือรับรองโดยเอกชนที่ไม่ใช่หน่วยงานเจ้าของงานที่ก่อสร้างโดย ตรงและไม่ได้รับความยินยอมหรืออนุญาตจากเจ้าของงานก่อสร้างให้จ้างเหมาช่วง ได้ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ ไม่ได้เป็นคู่สัญญาโดยตรงกับเทศบาลตำบลห้วยราช ผลงานก่อสร้างดังกล่าวเป็นผลงานของห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้วยราชาคอนสตรัคชั่น เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง หนังสือรับรองผลงานก่อสร้างของห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้วยราชาคอนสตรัคชั่น ที่รับรองว่าห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ เป็นผู้ก่อสร้างงานดังกล่าวจึงไม่ถูกต้องตามเงื่อนไขเอกสาร
การสอบราคาจ้าง เลขที่ ๗/๒๕๔๔ โดยผู้ฟ้องคดีขออ้างพยานบุคคลผู้เชี่ยวชาญ คือ ผู้ตรวจสอบภายในจังหวัดบุรีรัมย์ ที่อยู่ศาลากลางจังหวัด และผู้อำนวยการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาค จังหวัดนครราชสีมา และกรณีที่ผู้ฟ้องคดีฟ้องว่ามีการเพิ่มเติมเอกสารประกอบการเสนอราคาภายหลัง เปิดซองสอบราคาแล้วคือหนังสือรับรองผลงานของ
ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้วยราชาคอนสตรัคชั่น ผู้ฟ้องคดีมีพยานหลักฐานสนับสนุน คือ (๑) เมื่อวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๔๔ ผู้ฟ้องคดีได้มอบหมายให้นายพยุงศักดิ์ โรจนวิสัย ขอตรวจสอบเอกสารการเสนอราคาของห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ ณ สำนักงานของผู้ถูกฟ้องคดีกับเจ้าหน้าที่พัสดุ พบว่าเอกสารประกอบการเสนอราคาของห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ มีหนังสือรับรองผลงานเพียงฉบับเดียว ออกโดยบริษัท โมทย์กังวาฬ จำกัด โดยนางวัชรีวรรณ
  กฤษสุทธิกุล ลงวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๔๓ รับรองผลงานก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กสายหนองเจริญ หนองเส็ง เทศบาลตำบลแวงนาง จังหวัดร้อยเอ็ด ไม่มีหนังสือรับรองผลงานฉบับอื่นอีก แต่ปรากฏภายหลังว่ามีหนังสือรับรองผลงานของห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้วยราชาคอนสตรัคชั่น รับรองผลงานก่อสร้างท่อระบายน้ำ คสล. สาย ๒ หมู่ที่ ๕ ตำบลห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นการจัดทำเพิ่มเติมนำเข้ามาประกอบเป็นเอกสารการเสนอราคาภายหลังจาก นายพยุงศักดิ์ โรจนวิสัย ได้ตรวจสอบแล้ว ผู้ฟ้องคดีได้อุทธรณ์คำสั่งผลการพิจารณาของผู้ถูกฟ้องคดี แต่ผู้ถูกฟ้องคดีไม่ได้แจ้งให้ผู้ฟ้องคดีทราบว่ามีหนังสือรับรองผลงานฉบับ อื่นเป็นเอกสารประกอบการเสนอราคาของห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ แต่ประการใด (๒) นายสุรศักดิ์ เกียรติอาภาเดช นายกเทศมนตรีตำบลห้วยราช และผู้ควบคุมงานก่อสร้างโครงการก่อสร้างท่อระบายน้ำ คสล. สาย ๒ หมู่ที่ ๕ ตำบลห้วยราช อำเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นพนักงานเทศบาลตำบลห้วยราช ชี้แจงว่างานก่อสร้างท่อระบายน้ำ คสล. สาย ๒ หมู่ที่ ๕ ตำบลห้วยราช อำเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นงานก่อสร้างของเทศบาลตำบลห้วยราช ซึ่งได้ว่าจ้างให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้วยราชาคอนสตรัคชั่น เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างและห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้วยราชาคอนสตรัคชั่น ได้ดำเนินการก่อสร้างจนแล้วเสร็จตามสัญญา ไม่ปรากฏว่าเทศบาลตำบลห้วยราชได้ยินยอมหรืออนุญาตให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้วยราชาคอนสตรัคชั่น จ้างเหมาช่วงให้ผู้ใดดำเนินการก่อสร้าง ดังนั้น หนังสือรับรองผลงานของห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้วยราชาคอนสตรัคชั่น ที่ออกให้แก่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแท็กเตอร์ จึงเป็นหนังสือรับรองผลงานการก่อสร้างที่ออกให้โดยเอกชนโดยไม่ถูกต้อง เป็นการจัดทำขึ้นเองเพื่อนำมาประกอบการเสนอราคาภายหลังจากที่นายพยุงศักดิ์ โรจนวิสัย ตรวจสอบเมื่อวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๔๔ ซึ่งเป็นการนำมาประกอบหลักฐานภายหลังการเปิดซองสอบราคาแล้ว
        สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินชี้แจงว่า กรณีที่เอกสารสอบราคาของหน่วยงานของรัฐระบุให้ผู้เสนอราคาต้องเสนอผลงานก่อ สร้างประเภทเดียวกับงานที่สอบราคา เป็นผลงานที่เป็นคู่สัญญาโดยตรงกับส่วนราชการหรือหน่วยงานทางเอกชนที่หน่วย งานของผู้ประกาศสอบราคาเชื่อถือ มีวัตถุประสงค์นอกจากจะให้ได้ตัวผู้รับจ้างที่มีประสบการณ์ของงานก่อสร้างใน ประเภทเดียวกันแล้ว ยังคำนึงถึงมูลค่าของราคาต่องานที่ผู้รับจ้างเคยดำเนินการมาแล้วด้วย ซึ่งจะต้องเป็นการบริหารงานภายใต้การจ้างครั้งเดียว มิใช่การจ้างในหลายๆ ครั้งมารวมกัน สำหรับกรณีที่ผู้เสนอราคาได้ยื่นเอกสารโดย (๑) ยื่นหนังสือรับรองผลงานก่อสร้างมากกว่าหนึ่งผลงาน สามารถทำได้โดยไม่ต้องห้าม แต่ต้องเป็นผลงาน
ประเภทเดียวกันกับงานที่สอบราคาและต้องอยู่ในวงเงินไม่น้อยกว่าประกาศสอบ ราคากำหนดในแต่ละผลงาน (๒) ยื่นหนังสือรับรองผลงานฉบับหนึ่งเป็นผลงานประเภทเดียวกันกับงานที่สอบราคา และอยู่ในวงเงินไม่น้อยกว่าที่ประกาศสอบราคากำหนด ถือได้ว่าผู้เสนอราคาได้เสนอหนังสือรับรองผลงานเป็นไปตามเงื่อนไขของประกาศ สอบราคาแล้ว แม้ว่า
อีกฉบับหนึ่งเป็นคนละประเภทก็หาทำให้หนังสือรับรองผลงานที่เสนอถูกต้องแล้ว นั้นเสียไปไม่ หน่วยงานผู้สอบราคาชอบที่จะพิจารณาเฉพาะหนังสือรับรองผลงานที่ถูกต้องได้ เสมือนหนึ่งว่ามิได้ยื่นหนังสือรับรองผลงานที่ไม่ถูกต้องมาด้วย (๓) หนังสือรับรองผลงานของผู้เสนอราคาที่ออกให้โดยบริษัทเอกชนซึ่งเป็นคู่สัญญา กับหน่วยงานของรัฐแต่ผู้เสนอราคาไม่ได้เป็นคู่สัญญาโดยตรงกับหน่วยงานของรัฐ คงเป็นเพียงผู้รับจ้างช่วง เมื่องานแล้วเสร็จบริษัทที่เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐจึงออกหนังสือ รับรองผลงานที่รับจ้างช่วงให้ผู้เสนอราคา กรณีนี้เมื่อข้อกำหนดในเงื่อนไขสอบราคาจะต้องเป็นผลงานที่เป็นคู่สัญญาโดย ตรงแล้ว ย่อมหมายถึงผู้เสนอราคารายนั้นจะต้องเป็นคู่สัญญาโดยตรงในการเข้าทำสัญญา เท่านั้น จะเป็นผู้รับจ้างช่วงมิได้ เพราะหากมีวัตถุประสงค์ที่จะให้ใช้หนังสือรับรองผลงานอันเกิดจากการเป็นผู้ รับจ้างช่วงเข้ามาเสนอราคาได้ ย่อมจะต้องมีการกำหนดไว้ในเงื่อนไขเอกสารสอบราคา อีกทั้งย่อมเป็นการแสดงให้หน่วยงานของรัฐประจักษ์ถึงหน้าที่ความรับผิดชอบ ที่เกิดขึ้นตามสัญญาได้ ซึ่งในกรณีเช่นนี้ผู้รับจ้างช่วงมิใช่เป็นผู้ที่ต้องมีหน้าที่รับผิดชอบหาก ผู้รับจ้างช่วงไม่ปฏิบัติตามสัญญาและหน่วยงานของรัฐที่ทำสัญญาก็ไม่สามารถ เรียกให้ผู้รับจ้างช่วงปฏิบัติตามสัญญาได้ ผู้ที่มีหน้าที่และความรับผิดชอบจะต้องเป็นคู่สัญญาโดยตรงกับส่วนราชการเท่า นั้น ฉะนั้น การใช้หนังสือรับรองผลงานที่ผู้เสนอราคามิได้เป็นคู่สัญญาโดยตรงย่อมไม่ สามารถกระทำได้
  ตามหนังสือรับรองของเทศบาลตำบลห้วยราชที่รับรองผลงานก่อสร้างของห้างหุ้น ส่วนจำกัด ห้วยราชาคอนสตรัคชั่น สัญญาเลขที่ ๔/๒๕๔๓ แม้จะเป็นผลงานที่เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐผู้ออกหนังสือก็ตาม แต่หนังสือรับรองของห้างหุ้นส่วนจำกัดห้วยราชาคอนสตรัคชั่น ที่รับรองผลงานช่วงให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ ย่อมแสดงให้เห็นว่าผลงานที่ก่อสร้างมิใช่ผลงานที่แท้จริงของ
ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้วยราชาคอนสตรัคชั่น และห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ จึงไม่อาจอ้างหนังสือรับรองผลงานทั้งสองเป็นหนังสือรับรองผลงานโดยชอบด้วย ประกาศสอบราคา
        ผู้รับมอบอำนาจของผู้ถูกฟ้องคดีได้ยื่นคำแถลงในวันนั่งพิจารณาคดีครั้งแรก สรุปได้ว่า ข้ออ้างของผู้ฟ้องคดีที่ว่า ได้มอบหมายให้นายพยุงศักดิ์ โรจนวิสัย ไปขอตรวจสอบเอกสารการเสนอราคาของห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ กับเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานของผู้ถูกฟ้องคดีนั้น เจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงว่านายพยุงศักดิ์ฯ ได้เข้าพบนายกเทศมนตรีตำบลแคนดงในห้องทำงาน แต่ไม่ได้ออกมาพบเจ้าหน้าที่และไม่ได้ยื่นคำขอตรวจสอบเอกสารการเสนอราคาของ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ แต่อย่างใด ตลอดจนไม่มีการจัดทำบันทึกต่อรองราคาและพิมพ์สัญญาจ้างผู้ฟ้องคดี เลขที่ ๗/๒๕๔๔ แต่อย่างใด ต่อมาวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๔๔ นายณัฐพล โรจนวิสัย บุตรชายนายพยุงศักดิ์ ได้นำหนังสือมอบอำนาจของผู้ฟ้องคดีและหนังสืออุทธรณ์คำสั่งผลการพิจารณาสอบ ราคาจ้างเหมาก่อสร้างท่อระบายน้ำและบ่อพัก สายบูรพา รังสฤษดิ์ ๒ ไปยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ ในเรื่องประเด็นแห่งคดี ผู้ถูกฟ้องคดีโต้แย้ง ๒ ประเด็น คือ ๑. ผู้ฟ้องคดีไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้เนื่องจากผู้ฟ้องคดีได้ยื่นอุทธรณ์โต้แย้งคำ สั่งของผู้ถูกฟ้องคดีเมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๔๔ และได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเมื่อวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๔ ยังไม่พ้นระยะเวลาเก้าสิบวันนับแต่วันที่ยื่นอุทธรณ์ตามมาตรา ๔๙ แห่งพระราชพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ ประกอบกับข้อ ๓๐ แห่งระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๓ ผู้ฟ้องคดียังไม่ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้จาก การกระทำของผู้ถูกฟ้องคดี
ตามมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติเดียวกัน
  ๒. คำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีในการอนุมัติให้จ้างห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่  ผู้ถูกฟ้องคดียืนยันว่าได้หารือไปยังจังหวัดบุรีรัมย์แล้วได้รับหนังสือตอบ ข้อหารือว่า ผู้ถูกฟ้องคดีเป็นผู้กำหนดเงื่อนไขในเรื่องหนังสือรับรอง หน่วยงานเอกชนที่เทศบาลเชื่อถือ”  ดังนั้น ผู้ถูกฟ้องคดีจะต้องเป็นผู้พิจารณาเองว่าเอกชนใดที่ผู้ถูกฟ้องคดีเชื่อถือ แต่ต้องคำนึงถึงประโยชน์ที่ผู้ถูกฟ้องคดีจะได้รับ ผู้ถูกฟ้องคดีได้ปฏิบัติโดยถูกต้อง ไม่มีเจตนาทุจริตหรือแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ ผู้ถูกฟ้องคดีได้มีหนังสือลงวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๔๔ แจ้งผลการพิจารณาอุทธรณ์ให้ผู้ฟ้องคดีทราบ ซึ่งเป็นระยะเวลา ๖๕ วันนับจากวันที่ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ คำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีจึงชอบด้วยกฎหมาย
    ศาลปกครองชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่า  ผู้ฟ้องคดีฟ้องว่าผู้ฟ้องคดีเป็นผู้เสนอราคาต่ำเป็นอันดับสองและยื่นเอกสาร ถูกต้องครบถ้วน แต่ผู้ถูกฟ้องคดีกลับทำสัญญาจ้างกับห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ ซึ่งเสนอเอกสารรับรองผลงานไม่ถูกต้องตามเงื่อนไขของผู้ถูกฟ้องคดี ทำให้ผู้ฟ้องคดีเสียโอกาสในการเข้าทำงาน ผู้ฟ้องคดีจึงเป็นผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายจากคำสั่งของผู้ถูกฟ้อง คดี ตามมาตรา ๔๒ วรรคหนึ่งแห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ และผู้ฟ้องคดีได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งอนุมัติจ้างก่อสร้างของผู้ถูกฟ้องคดีตาม หนังสือลงวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๔๔ และวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๔๔ แต่ผู้ฟ้องคดีได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองเมื่อวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๔ ซึ่งแม้ว่าจะยังไม่ครบกำหนดเก้าสิบวันนับแต่วันยื่นอุทธรณ์ จึงไม่ครบขั้นตอนตามที่กำหนดไว้ในมาตรา ๔๒ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ แต่ผู้ถูกฟ้องคดีแถลงต่อศาลว่าผู้ถูกฟ้องคดีได้มีหนังสือลงวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๔๔ แจ้งให้ผู้ฟ้องคดีทราบผลการพิจารณาอุทธรณ์ว่าผู้ถูกฟ้องคดีได้ดำเนินการจัด จ้างก่อสร้างท่อระบายน้ำและบ่อพักท่อระบายน้ำ สายบูรพา รังสฤษดิ์ ๒ ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยถูกต้องแล้ว ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนังสือแจ้งผลการพิจารณาอุทธรณ์ให้ผู้ฟ้องคดีทราบแล้ว และศาลมีคำสั่งรับคำฟ้องนี้ไว้พิจารณา เมื่อวันที่ ๑๐ (ที่ถูกคือ วันที่ ๙) มกราคม ๒๕๔๕ ผู้ฟ้องคดีได้ดำเนินการตามขั้นตอนและวิธีการสำหรับการแก้ไขความเดือดร้อน หรือเสียหายก่อนนำคดีมาฟ้องศาล จึงเป็นผู้มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลปกครองตามมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว การที่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ ได้ยื่นหนังสือรับรองผลงานก่อสร้างที่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้วยราชาคอนสตรัคชั่น ออกให้แก่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ กรณีเทศบาลตำบลห้วยราชว่าจ้างให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้วยราชาคอนสตรัคชั่น ทำการก่อสร้างท่อระบายน้ำ คสล. สาย ๒ หมู่ที่ ๕ ตำบลห้วยราช และห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้วยราชาคอนสตรัคชั่น ได้ว่าจ้างให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ เป็นผู้รับจ้างช่วง โดยห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ มิได้เป็นคู่สัญญาโดยตรงกับเทศบาลตำบลห้วยราช และเทศบาลตำบลห้วยราชไม่ได้ยินยอมเป็นหนังสือให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้วยราชาคอนสตรัคชั่น เอางานที่รับจ้างทั้งหมดหรือบางส่วนไปให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ รับจ้างช่วงตามสัญญาจ้างเลขที่ ๔/๒๕๔๓ ลงวันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๔๓ ข้อ ๘ แต่อย่างใด และในการออกหนังสือรับรองผลงานก่อสร้าง เทศบาลตำบลห้วยราชเป็นผู้ออกหนังสือรับรองว่าห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้วยราชาคอนสตรัคชั่น เป็นผู้รับจ้างและดำเนินงานก่อสร้างท่อระบายน้ำ คสล. สาย ๒ จนแล้วเสร็จ  ดังนั้น งานก่อสร้างช่วงระหว่างห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้วยราชาคอนสตรัคชั่น กับห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ จึงเป็นงานก่อสร้างที่ไม่ชอบตามสัญญาจ้างเลขที่ ๔/๒๕๔๓ ลงวันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๔๓ ผลงานก่อสร้างดังกล่าวจึงไม่อาจถือได้ว่าเป็นผลงานที่เป็นคู่สัญญาโดยตรงกับ หน่วยงานตามกฎหมาย ว่าด้วยระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่นหรือหน่วยงานเอกชน ตามนัยข้อ ๒.๓ ของเอกสารสอบราคาจ้าง เลขที่ ๗/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๔ กันยายน ๒๕๔๔ ของผู้ถูกฟ้องคดี ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ จึงเป็นผู้ขาดคุณสมบัติของผู้เสนอราคาตามข้อ ๒.๓ ของเอกสารสอบราคาจ้างดังกล่าว การที่คณะกรรมการเปิดซองสอบราคาพิจารณาคัดเลือกให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ เป็นผู้เสนอราคาที่ถูกต้องตามเงื่อนไขในเอกสารสอบราคา จึงเป็นการไม่ชอบตามข้อ ๓๕ (๒) และ (๓) ของระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๓๕ และเอกสาร
สอบราคาจ้างเลขที่ ๗/๒๕๔๔ ข้อ ๕.๒ เมื่อผู้ถูกฟ้องคดีมีคำสั่งให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ เป็นผู้สอบราคาได้ตามความเห็นของคณะกรรมการเปิดซองสอบราคา คำสั่งดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
  สำหรับข้ออ้างของผู้ฟ้องคดีที่ว่าห้างหุ้นส่วนจำกัด  ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ ยื่นหนังสือรับรองผลงานไม่ถูกต้องโดยไม่เป็นผลงานประเภทเดียวกันกับงานที่ สอบราคาจ้างนั้น เป็นการกล่าวอ้างโดยไม่มีหลักฐานยืนยันข้อเท็จจริงนอกจากพยานบุคคลซึ่งเป็น ผู้แทนของผู้ฟ้องคดี และการยื่นหนังสือรับรองผลงานก่อสร้างมากกว่า ๑ ฉบับ ไม่เป็นข้อห้ามตามเอกสารสอบราคาจ้างแต่อย่างใด เมื่อไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่าการยื่นหนังสือรับรองผลงานของห้างหุ้นส่วน จำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ ที่ออกให้โดยห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้วยราชาคอนสตรัคชั่น เป็นหนังสือรับรองผลงานที่ยื่นภายหลัง จึงต้องรับฟังว่าห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ ได้ยื่นหนังสือรับรองผลงานก่อสร้างพร้อมกันรวม ๒ ฉบับ การพิจารณาหนังสือรับรองผลงานก่อสร้างของผู้ถูกฟ้องคดีจึงชอบแล้ว  แต่ตามข้อ ๓๔ (๑) และ (๒) ของระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๓๕ ที่กำหนดว่า การซื้อหรือจ้างโดยวิธีการสอบราคาให้ดำเนินการดังนี้ (๑) ก่อนวันเปิดซองสอบราคาไม่น้อยกว่า ๑๐ วัน สำหรับการสอบราคาในประเทศ ให้เจ้าหน้าที่พัสดุส่งประกาศเผยแพร่การสอบราคาและเอกสารสอบราคาไปยังผู้มี อาชีพขายหรือรับจ้างทำงานนั้นโดยตรง หรือโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนให้มากที่สุดเท่าที่จะกระทำได้ กับให้ปิดประกาศเผยแพร่การสอบราคาไว้โดยเปิดเผย ณ ที่ทำการของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่นนั้น (๒) ในการยื่นซองสอบราคา ผู้เสนอราคาจะต้องผนึกซอง จ่าหน้าถึงประธานคณะกรรมการเปิดซองสอบราคาการซื้อหรือการจ้างครั้งนั้น และส่งถึงหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่นผู้ดำเนินการสอบราคาก่อนวันเปิด ซองสอบราคา โดยยื่นโดยตรงต่อหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น หรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนในกรณีที่หน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น กำหนดให้กระทำได้  การที่ผู้ถูกฟ้องคดีประกาศสอบราคาจ้างเหมาก่อสร้างท่อระบายน้ำและบ่อพักท่อ ระบายน้ำตามประกาศลงวันที่ ๔ กันยายน ๒๕๔๔ โดยกำหนดยื่นซองสอบราคาในวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๔๔ ระหว่างเวลา ๐๙.๐๐ ถึง ๑๑.๐๐ นาฬิกา และกำหนดเปิดซองสอบราคาในวันเดียวกัน เริ่มตั้งแต่เวลา ๑๔.๐๐ นาฬิกา เป็นต้นไป การดำเนินการประกาศสอบราคาของผู้ถูกฟ้องคดีดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะไม่เป็นไปตามข้อ ๓๔ (๑) และ (๒) ของระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๓๕ ดังกล่าว แต่การที่ขอให้ศาลมีคำพิพากษาให้ยกเลิกสัญญาจ้างระหว่าง
ผู้ถูกฟ้องคดีกับห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ และให้ผู้ฟ้องคดีมีสิทธิเข้าทำสัญญาจ้างกับผู้ถูกฟ้องคดีแทนนั้น เห็นว่า ผู้ถูกฟ้องคดีได้ทำสัญญาจ้างห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ เป็นผู้รับจ้างก่อสร้างท่อระบายน้ำและบ่อพักท่อระบายน้ำ สายบูรพา
รังสฤษดิ์ ๒ ตามสัญญาจ้างเลขที่ ๗/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๔๔ ซึ่งผู้รับจ้างได้ดำเนินการก่อสร้างตามโครงการแล้วเสร็จตามสัญญาตั้งแต่วัน ที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๔๕ และผู้ถูกฟ้องคดีได้จ่ายเงินค่าจ้างให้ผู้รับจ้างเรียบร้อยแล้ว กรณีจึงเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและผ่านพ้นไปแล้ว ศาลไม่อาจออกคำบังคับให้เพิกถอนสัญญาจ้างของผู้ถูกฟ้องคดีที่จ้างห้างหุ้น ส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ เข้าทำงานดังกล่าวได้ ส่วนคำขอให้ศาลสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีชำระค่าธรรมเนียมศาลและค่าทนายความแทน ผู้ฟ้องคดีนั้น เป็นคำขอที่ศาลไม่อาจกำหนดคำบังคับให้ได้ตามมาตรา ๗๒ แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒
        ศาลปกครองชั้นต้นจึงพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่พิจารณาให้ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ เป็นผู้สอบราคาก่อสร้างท่อระบายน้ำและบ่อพักท่อระบายน้ำได้ ตามบันทึกการเปิดซองสอบราคา ลงวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๔๔ โดยให้มีผลย้อนหลังไปตั้งแต่วันที่มีคำสั่งดังกล่าว โดยมีข้อสังเกตเกี่ยวกับแนวทางให้เป็นไปตามคำพิพากษา คือ ผู้ถูกฟ้องคดีจะต้องดำเนินการพิจารณาผลการสอบราคาจ้างใหม่ แต่คดีนี้ข้อเท็จจริงปรากฏว่า งานที่พิพาทได้มีการก่อสร้างเสร็จไปเรียบร้อยแล้ว จึงเห็นได้ว่ากรณีนี้ผู้ถูกฟ้องคดีไม่อาจจะดำเนินการพิจารณาผลการสอบราคาและ จัดจ้างใหม่ได้ ส่วนคำขออื่นให้ยก
        ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ว่า  ผู้ฟ้องคดีเห็นพ้องด้วยกับคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้นที่พิพากษาให้เพิก ถอนคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่พิจารณาให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ เป็นผู้สอบราคาก่อสร้างท่อระบายน้ำและบ่อพักท่อระบายน้ำได้ ตามบันทึกการเปิดซองสอบราคาลงวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๔๔  โดยให้มีผลย้อนหลังไปตั้งแต่วันที่มีคำสั่งดังกล่าว แต่ผู้ฟ้องคดีขอให้ศาลมีคำพิพากษาให้ยกเลิกเพิกถอนสัญญาจ้างระหว่างผู้ถูก ฟ้องคดีกับห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ และให้ผู้ฟ้องคดีมีสิทธิเข้าทำสัญญาจ้างกับผู้ถูกฟ้องคดีแทน ซึ่งศาลพิจารณาเห็นว่าผู้ถูกฟ้องคดีได้ทำสัญญาจ้างกับห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ เป็นผู้รับจ้างก่อสร้างท่อระบายน้ำสายบูรพา รังสฤษดิ์ ๒ ตามสัญญาจ้างเลขที่ ๗/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๔๔ ซึ่งผู้รับจ้างได้ดำเนินการก่อสร้างตามโครงการแล้วเสร็จตามสัญญาตั้งแต่วัน ที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๔๕ และผู้ถูกฟ้องคดีได้จ่ายเงินค่าจ้างให้ผู้รับจ้างเรียบร้อยแล้ว กรณีจึงเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและผ่านพ้นไปแล้ว ศาลไม่อาจออกคำบังคับให้เพิกถอนสัญญาจ้างของผู้ถูกฟ้องคดีที่จ้างห้างหุ้น ส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ เข้าทำงานดังกล่าวได้ ผู้ฟ้องคดีไม่เห็นพ้องด้วย กล่าวคือ เมื่อวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๔๔
ผู้ถูกฟ้องคดีได้พิจารณาผลการสอบราคาให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์เป็นผู้สอบราคาได้ ซึ่งเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และศาลปกครองชั้นต้นได้พิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าวของผู้ถูกฟ้องคดีโดย ให้มีผลย้อนหลังไปตั้งแต่วันที่มีคำสั่ง คือ ตั้งแต่วันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๔๔
  แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่าผู้ถูกฟ้องคดีได้ทำสัญญาจ้าง
เลขที่ ๗/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๔๔ ซึ่งเป็นการทำสัญญาระหว่างผู้ถูกฟ้องคดีกับห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายมาตั้งแต่วันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๔๔
  ผู้ฟ้องคดีได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งที่ผู้ถูกฟ้องคดีพิจารณาให้ห้างหุ้นส่วน จำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ เป็นผู้สอบราคาได้เมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๔๔ และได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองนครราชสีมาเมื่อวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๔ โดยผู้ถูกฟ้องคดีได้ทราบการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายในกรณีนี้มาตั้งแต่ต้น แต่ผู้ถูกฟ้องคดีไม่ได้ระงับการก่อสร้างตามโครงการ ไม่ยกเลิกการทำสัญญาจ้าง ได้ให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ ก่อสร้างงานจนแล้วเสร็จ และเบิกจ่ายเงินค่าจ้างให้ซึ่งเป็นการดำเนินการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผู้ฟ้องคดีจึงอุทธรณ์ขอให้ศาลปกครองสูงสุดแก้ไขคำพิพากษาของศาลปกครองชั้น ต้นเป็นพิพากษาให้ยกเลิกเพิกถอนสัญญาจ้างเลขที่ ๗/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๔๔ ของผู้ถูกฟ้องคดีกับห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ จ้างเหมาก่อสร้างท่อระบายน้ำและบ่อพักท่อระบายน้ำ สายบูรพา รังสฤษดิ์ ๒ โดยให้มีผลย้อนหลังไปตั้งแต่วันที่ทำสัญญาดังกล่าว
        ผู้ถูกฟ้องคดีแก้อุทธรณ์ว่า  การจ้างเหมาก่อสร้างท่อระบายน้ำและบ่อพักท่อระบายน้ำ สายบูรพา รังสฤษดิ์ ๒ ผู้ถูกฟ้องคดีได้ดำเนินการโดยถือปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๓๕ และฉบับแก้ไขเพิ่มเติมทุกขั้นตอน โดยในวันเปิดซองสอบราคาเมื่อวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๔๔
มีปัญหาข้อสงสัยเกี่ยวกับหนังสือรับรองผลงานของห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ ซึ่งเป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด คณะกรรมการเปิดซองสอบราคาจึงได้โทรศัพท์ขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายท้อง ถิ่นของจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นหน่วยงานช่วยเหลือผู้ว่าราชการจังหวัดในการควบคุมดูแลการปฏิบัติงาน ของเทศบาลต่างๆ ซึ่งได้รับคำแนะนำว่าหนังสือรับรองผลงานดังกล่าวใช้ได้ ผู้ถูกฟ้องคดีจึงมีคำสั่งให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ เป็นผู้ชนะการสอบราคาและทำสัญญาจ้างตามสัญญาเลขที่ ๗/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๔๔
  แต่ต่อมาเพื่อให้มีหลักฐานเป็นหนังสือผู้ถูกฟ้องคดีจึงได้มีหนังสือหารือไป ยังผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และได้รับคำตอบว่าอำนาจในการสั่งจ้างเป็นของนายกเทศมนตรีตำบลแคนดงที่จะใช้ ดุลพินิจพิจารณาสั่งจ้าง โดยมีคณะกรรมการเปิดซองสอบราคาเป็นผู้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เสนอราคา แล้วคัดเลือกผู้เสนอราคาที่ถูกต้องตามเงื่อนไขในเอกสารสอบราคา ให้นายกเทศมนตรีตำบลแคนดงอนุมัติสั่งจ้างตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม เทศบาลจะต้องพิจารณาเองว่าหน่วยงานเอกชนใดเป็นหน่วยงานที่เทศบาลเชื่อถือโดย ใช้หลักเกณฑ์ใดในการพิจารณา ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงประโยชน์ที่หน่วยราชการจะได้รับเป็นสำคัญ จังหวัดไม่สามารถพิจารณากำหนดความเชื่อถือแทนเทศบาลได้ เนื่องจากเทศบาลเป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์เอง  นอกจากนี้ ผู้ฟ้องคดีได้มีหนังสือร้องเรียนเรื่องดังกล่าวไปยังจังหวัดบุรีรัมย์และ จังหวัดบุรีรัมย์ได้สั่งการให้กิ่งอำเภอแคนดงแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จ จริงซึ่งผลการสอบคณะกรรมการมีความเห็นว่า การปฏิบัติงานของผู้ถูกฟ้องคดีไม่มีเจตนาทุจริตหรือใช้อำนาจหน้าที่ในการ แสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ให้ยุติเรื่อง ผู้ถูกฟ้องคดีปฏิบัติงานตามคำแนะนำและควบคุมดูแลของอำเภอและจังหวัดตามนัย มาตรา ๗๑ แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. ๒๔๙๖ และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม จึงเชื่อโดยสนิทใจว่าการสั่งให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ เป็นผู้ชนะการสอบราคาเมื่อวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๔๔ และสั่งจ้างเป็นผู้รับจ้างก่อสร้างท่อระบายน้ำและบ่อพักท่อระบายน้ำ ตามสัญญาจ้างเลขที่ ๗/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๔๔ ได้ดำเนินการถูกต้องตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๓๕ และฉบับที่แก้ไขเพิ่มเติม จนกระทั่งศาลปกครองนครราชสีมามีคำพิพากษาเมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๔๗ ให้เพิกถอนคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่พิจารณาให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ เป็นผู้สอบราคาก่อสร้างท่อระบายน้ำและบ่อพักท่อระบายน้ำได้ ตามบันทึกการเปิดซองสอบราคาลงวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๔๔ โดยให้มีผลย้อนหลังไปตั้งแต่วันที่มีคำสั่งดังกล่าว และผู้ถูกฟ้องคดีก็ยอมรับคำพิพากษา แต่โครงการดังกล่าวผู้รับจ้างได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จตามสัญญาตั้งแต่ วันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๔๕ และผู้ถูกฟ้องคดีได้จ่ายเงินค่าจ้างให้ผู้รับจ้างเรียบร้อยแล้ว กรณีจึงเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและผ่านพ้นไปแล้วผู้ถูกฟ้องคดีจึงไม่อาจ ดำเนินการจัดจ้างใหม่ได้ ขอให้ศาลปกครองสูงสุดยกอุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดี

ศาลปกครองสูงสุดออกนั่งพิจารณาคดี โดยได้รับฟังสรุปข้อเท็จจริงของตุลาการเจ้าของสำนวน และคำชี้แจงด้วยวาจาประกอบคำแถลงการณ์ของตุลาการผู้แถลงคดีศาลปกครองสูงสุด ได้ตรวจพิจารณาเอกสารทั้งหมดในสำนวนคดี กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ฯลฯ ที่เกี่ยวข้องประกอบแล้ว
        ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า  ผู้ถูกฟ้องคดีได้ประกาศสอบราคาจ้างเหมาก่อสร้างท่อระบายน้ำและบ่อพักท่อ ระบายน้ำ สายบูรพา รังสฤษดิ์ ๒ ตามประกาศลงวันที่ ๔ กันยายน ๒๕๔๔ โดยกำหนดยื่นซองสอบราคาในวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๔๔ ระหว่างเวลา๐๙.๐๐ ถึง ๑๑.๐๐ นาฬิกา และกำหนดเปิดซองสอบราคาในวันเดียวกันเริ่มตั้งแต่เวลา ๑๔.๐๐ นาฬิกาเป็นต้นไป และในเอกสารสอบราคาจ้างเลขที่ ๗/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๔ กันยายน ๒๕๔๔ ข้อ ๒.๓ กำหนดว่า ผู้เสนอราคาจะต้องเป็นนิติบุคคลหรือบุคคลธรรมดา มีผลงานก่อสร้างประเภทเดียวกันกับงานที่สอบราคาจ้าง ซึ่งมีอายุการรับรองผลงานไม่เกิน ๒ ปีนับถึงวันยื่นซองสอบราคา โดยมีวงเงินไม่น้อยกว่า ๗๓๖,๒๐๐ บาท และเป็นผลงานที่เป็นคู่สัญญาโดยตรงกับส่วนราชการ หน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่น หน่วยงานอื่นซึ่งมีกฎหมายบัญญัติให้มีฐานะเป็นหน่วยการบริหารราชการส่วนท้อง ถิ่น รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานเอกชนที่เทศบาลตำบลแคนดงเชื่อถือ ผู้ฟ้องคดีได้เข้าร่วมเสนอราคาในการสอบราคาจ้างตามประกาศดังกล่าว และในวันเดียวกันคณะกรรมการเปิดซองสอบราคาได้เปิดซองสอบราคาและได้พิจารณา คัดเลือกผู้ที่เสนอราคาถูกต้องครบถ้วนไว้จำนวน ๒ ราย คือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ ซึ่งเสนอราคา ๑,๔๖๕,๐๐๐ บาท และผู้ฟ้องคดีซึ่งเสนอราคา ๑,๔๗๑,๔๐๐ บาท ต่อมาวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๔๔ ผู้ฟ้องคดีได้ขอตรวจสอบเอกสารเสนอราคาของห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ พบว่าหนังสือรับรองผลงานก่อสร้างของห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ มีเพียงฉบับเดียวและเป็นหนังสือรับรองผลงานก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก ซึ่งออกให้โดยบริษัท โมทย์กังวาฬ จำกัด
ไม่เป็นผลงานประเภทเดียวกันกับงานที่สอบราคาจ้างและเป็นหนังสือรับรองที่ออก โดยเอกชนที่ไม่ใช่คู่สัญญาโดยตรงกับส่วนราชการเจ้าของงานก่อสร้าง ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ จึงขาดคุณสมบัติของผู้เสนอราคาตามเงื่อนไขเอกสารสอบราคาจ้างเลขที่ ๗/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๔ กันยายน ๒๕๔๔ ข้อ ๒.๓ ผู้ฟ้องคดีจึงทักท้วงการยื่นเอกสารสอบราคาที่ไม่ถูกต้องดังกล่าวของห้างหุ้น ส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ ต่อผู้ถูกฟ้องคดี แต่ผู้ถูกฟ้องคดีได้มีคำสั่งให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์เป็นผู้สอบราคาได้ตามประกาศเทศบาลตำบลแคนดง เรื่อง การพิจารณาผลการสอบราคาจ้างเหมาก่อสร้างท่อระบายน้ำและบ่อพักท่อระบายน้ำฯ ลงวันที่
  ๑๔ กันยายน ๒๕๔๔ และได้ทำสัญญาจ้างกับห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ ตามสัญญาลงวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๔๔ ผู้ฟ้องคดีจึงได้อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวต่อผู้ถูกฟ้องคดีตามหนังสือลงวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๔๔ และลงวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๔๔ แต่ผู้ถูกฟ้องคดีมิได้พิจารณาอุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดี ต่อมาผู้ฟ้องคดีทราบว่าผู้ถูกฟ้องคดีได้มีหนังสือหารือไปยังจังหวัด บุรีรัมย์เกี่ยวกับหนังสือรับรองผลงานที่เอกชนออกให้กับห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ ว่าเป็นหนังสือรับรองที่ผู้ถูกฟ้องคดีเชื่อถือได้หรือไม่ ซึ่งผู้ฟ้องคดีเห็นว่าผู้ถูกฟ้องคดีได้ร่วมกับห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ ทำหนังสือรับรองผลงานเพิ่มขึ้นในเอกสารยื่นซองสอบราคาภายหลังจากที่ผู้ฟ้อง คดีได้อุทธรณ์คำสั่งต่อผู้ถูกฟ้องคดี โดยหนังสือรับรองผลงานดังกล่าวเป็นหนังสือรับรองผลงานก่อสร้างที่ห้างหุ้น ส่วนจำกัด ห้วยราชาคอนสตรัคชั่น  ออกให้แก่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ กรณีเทศบาลตำบลห้วยราชได้ว่าจ้างให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้วยราชาคอนสตรัคชั่น ทำการก่อสร้างท่อระบายน้ำ คสล. สาย ๒ หมู่ที่ ๕ ตำบลห้วยราชา และห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้วยราชาคอนสตรัคชั่น ได้ว่าจ้างให้ห้างหุ้นส่วนจำกัดชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ เป็นผู้รับจ้างช่วง โดยห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ มิได้เป็นคู่สัญญาโดยตรงกับเทศบาลตำบลห้วยราช และการออกหนังสือรับรองผลงานดังกล่าวนี้ เทศบาลตำบลห้วยราชมิได้ยินยอมเป็นหนังสือให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้วยราชาคอนสตรัคชั่น เอางานที่รับจ้างทั้งหมดหรือบางส่วนไปให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ รับจ้างช่วง ซึ่งศาลปกครองนครราชสีมาได้ให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินชี้แจงเพิ่มเติม เกี่ยวกับการยื่นหนังสือรับรองผลงานก่อสร้างของผู้เสนอราคาว่า กรณีที่เอกสารสอบราคาระบุให้ผู้เสนอราคาต้องเสนอผลงานก่อสร้างที่เป็นคู่ สัญญาโดยตรงกับส่วนราชการ ย่อมหมายถึงผู้เสนอราคาจะต้องเป็นคู่สัญญาโดยตรงในการเข้าทำสัญญาก่อสร้าง ตามหนังสือรับรองผลงานนั้น เนื่องจากข้อกำหนดนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะให้ได้ผู้รับจ้างที่มีประสบการณ์ ของงานก่อสร้าง มีหน้าที่และความรับผิดชอบโดยตรงในการปฏิบัติงานก่อสร้างตามสัญญา เนื่องจากหากผู้รับจ้างช่วงไม่ปฏิบัติตามสัญญา หน่วยงานของรัฐที่ทำสัญญาไม่สามารถเรียกให้ผู้รับจ้างช่วงปฏิบัติตามสัญญา ได้และหากมีวัตถุประสงค์ที่จะให้ใช้หนังสือรับรองผลงานอันเกิดจากการเป็นผู้ รับจ้างช่วงให้เข้ามาเสนอราคาได้จะต้องกำหนดไว้ในเงื่อนไขเอกสารสอบราคา ดังนั้น การใช้หนังสือรับรองผลงานที่ผู้เสนอราคามิได้เป็นคู่สัญญาโดยตรงย่อมไม่ สามารถกระทำได้  ผู้ถูกฟ้องคดีชี้แจงในกรณีการตรวจสอบหนังสือรับรองผลงานก่อสร้างของห้างหุ้น ส่วนจำกัด  ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ ได้ยื่นหนังสือรับรองผลงานก่อสร้างรวม ๒ ฉบับ คือ หนังสือรับรองของบริษัท โมทย์กังวาฬ จำกัด ที่รับรองผลงานก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก สายหนองเจริญ หนองเส็ง และหนังสือรับรองของห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้วยราชาคอนสตรัคชั่น ที่รับรองผลงานก่อสร้างท่อระบายน้ำ คสล. สาย ๒ หมู่ที่ ๕ ตำบลห้วยราชา ซึ่งผู้ถูกฟ้องคดีพิจารณาเฉพาะหนังสือรับรองของห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้วยราชาคอนสตรัคชั่น ที่ออกให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ ว่าเป็นหนังสือรับรองผลงานของหน่วยงานเอกชนที่ผู้ถูกฟ้องคดีเชื่อถือได้ โดยได้มีหนังสือหารือจังหวัดบุรีรัมย์แล้ว และการก่อสร้างงานที่พิพาทได้ดำเนินการเสร็จและตรวจรับงานเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่วันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๔๕ ผู้ฟ้องคดีได้รับความเสียหายไม่ได้เข้าทำสัญญาจ้างกับผู้ถูกฟ้องคดี จึงมาฟ้องคดีต่อศาลปกครองขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งดังนี้ (๑) เพิกถอนคำสั่งผลการพิจารณาสอบราคาจ้างเหมาก่อสร้างท่อระบายน้ำและบ่อพักท่อ ระบายน้ำ สายบูรพา รังสฤษดิ์ ๒ ของผู้ถูกฟ้องคดี  (๒) ยกเลิกสัญญาจ้างของผู้ถูกฟ้องคดีกับห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ และให้ผู้ฟ้องคดีมีสิทธิเข้าทำสัญญาจ้างกับผู้ถูกฟ้องคดีในการรับจ้างเหมา ก่อสร้างท่อระบายน้ำและบ่อพักท่อระบายน้ำ สายบูรพา รังสฤษดิ์ ๒  (๓) ให้ผู้ถูกฟ้องคดีชำระค่าฤชาธรรมเนียมศาลและค่าทนายความแทนผู้ฟ้องคดีคดีมี ประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยว่า ผู้ฟ้องคดีมีสิทธิฟ้องขอให้ศาลปกครองเพิกถอนสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างท่อระบาย น้ำและบ่อพักท่อระบายน้ำ สายบูรพา รังสฤษดิ์ ๒ เลขที่ ๗/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๔๔ ระหว่างผู้ถูกฟ้องคดีกับห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ หรือไม่
        พิเคราะห์แล้วเห็นว่า  คดีนี้ผู้ฟ้องคดีฟ้องว่าผู้ถูกฟ้องคดีได้ดำเนินการสอบราคาจ้างก่อสร้างท่อ ระบายน้ำและบ่อพักท่อระบายน้ำ สายบูรพา รังสฤษดิ์ ๒ ตำบลแคนดง กิ่งอำเภอแคนดง จังหวัดบุรีรัมย์ และมีคำสั่งให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ เป็นผู้สอบราคาได้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้ผู้ฟ้องคดีซึ่งเข้าร่วมในการสอบราคา
และเสนอราคาต่ำเป็นลำดับที่สองได้รับความเสียหายไม่ได้เข้าทำสัญญาก่อสร้าง ดังกล่าว โดยมีคำขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีดังกล่าวและให้ยก เลิกสัญญาจ้างระหว่างผู้ถูกฟ้องคดีกับห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ พร้อมทั้งให้ผู้ฟ้องคดีมีสิทธิเข้าทำสัญญากับผู้ถูกฟ้องคดีในการจ้างก่อ สร้างท่อระบายน้ำและบ่อพักท่อระบายน้ำดังกล่าวแทน คดีนี้จึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของ รัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๑) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งเมื่อผู้ฟ้องคดีมีคำขอให้ศาลพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดี ที่ได้อนุมัติจ้างห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ ก่อสร้างท่อระบายน้ำและบ่อพักท่อระบายน้ำ สายบูรพา
รังสฤษดิ์ ๒ และศาลปกครองชั้นต้นได้พิจารณาแล้วเห็นว่าคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีดังกล่าว ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ในการพิพากษาคดี ศาลปกครองชั้นต้นมีอำนาจกำหนดคำบังคับให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าวของผู้ถูก ฟ้องคดีทั้งหมดหรือบางส่วนโดยมีอำนาจกำหนดว่าจะให้มีผลย้อนหลังหรือไม่ย้อน หลังหรือมีผลไปในอนาคตถึงขณะใดขณะหนึ่งได้ หรือจะกำหนดให้มีเงื่อนไขอย่างใดก็ได้ตามความเป็นธรรมแก่กรณีตามนัยมาตรา ๗๒ วรรคหนึ่ง (๑) และวรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว การที่ผู้ฟ้องคดีอุทธรณ์ขอให้ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้ยกเลิกสัญญาจ้างเหมา ก่อสร้างท่อระบายน้ำและบ่อพักท่อระบายน้ำ สายบูรพา รังสฤษดิ์ ๒ นั้น เห็นว่า แม้การทำสัญญาจ้างดังกล่าวระหว่างผู้ถูกฟ้องคดีกับห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ จะเป็นผลมาจากคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่อนุมัติจ้างห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ ซึ่งเป็นขั้นตอนหรือกระบวนการหนึ่งในการเข้าทำสัญญาและศาลปกครองชั้นต้นได้ วินิจฉัยแล้วว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายโดยให้มีผลย้อนหลังไปตั้งแต่วันที่มีคำสั่ง ดังกล่าว แต่เนื่องจากได้มีการจัดทำสัญญาจ้างฉบับดังกล่าวอันก่อให้เกิดสิทธิและ หน้าที่ตามสัญญาโดยชอบด้วยกฎหมายระหว่างคู่สัญญามาตั้งแต่ก่อนที่ศาลปกครอง ชั้นต้นจะมีคำพิพากษา  ทั้งนี้ เพื่อให้การจัดทำบริการสาธารณะดังกล่าวของผู้ถูกฟ้องคดีมีความต่อเนื่องอัน จะเป็นประโยชน์แก่ประชาชนในพื้นที่ ประกอบกับข้อเท็จจริงปรากฏว่าห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ ผู้รับจ้าง ได้ดำเนินการก่อสร้างท่อระบายน้ำและบ่อพักท่อระบายน้ำสายบูรพา – รังสฤษดิ์ ๒ ตามสัญญาจ้างเสร็จเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๔๕ และผู้ถูกฟ้องคดีก็ได้จ่ายเงินค่าจ้างให้ผู้รับจ้างครบถ้วนแล้วตั้งแต่ก่อน ที่ศาลปกครองชั้นต้นจะมีคำพิพากษา  ดังนั้น การที่ศาลปกครองชั้นต้นได้มีคำพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่ อนุมัติจ้างห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ โดยให้มีผลย้อนหลังไปตั้งแต่วันที่มีคำสั่งดังกล่าวจึงไม่มีผลกระทบต่อความ มั่นคงในสถานภาพหรือภาระหน้าที่ตามกฎหมายของคู่สัญญาตามสัญญาจ้างเหมาก่อ สร้างท่อระบายน้ำและบ่อพักท่อระบายน้ำ สายบูรพา รังสฤษดิ์ ๒ ระหว่างผู้ถูกฟ้องคดีกับห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ แต่อย่างใด ศาลจึงไม่อาจพิพากษาให้เพิกถอนสัญญาจ้างดังกล่าวได้ คำอุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดีฟังไม่ขึ้น ที่ศาลปกครองชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีที่อนุมัติจ้าง ห้างหุ้นส่วนจำกัดชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์ ก่อสร้างท่อระบายน้ำและบ่อพักท่อระบายน้ำ สายบูรพา รังสฤษดิ์ ๒ และให้มีผลย้อนหลังไปตั้งแต่วันที่มีคำสั่งดังกล่าว โดยมิได้พิพากษาให้สัญญาจ้างเหมาก่อสร้างท่อระบายน้ำและบ่อพักท่อระบายน้ำ สายบูรพา รังสฤษดิ์ ๒ เลขที่ ๗/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๔๔ ระหว่างผู้ถูกฟ้องคดีกับห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลบุรีไพศาลแทร็กเตอร์สิ้นผลลงไปด้วยนั้น จึงชอบแล้ว ศาลปกครองสูงสุดเห็นพ้องด้วย

        พิพากษายืน

นายนพดล
  เฮงเจริญ                                   ตุลาการเจ้าของสำนวน
ตุลาการศาลปกครองสูงสุด

นายหัสวุฒิ
  วิฑิตวิริยกุล
ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุด

นายไพบูลย์
  เสียงก้อง
ตุลาการศาลปกครองสูงสุด

นายวรวิทย์
  กังศศิเทียม
ตุลาการศาลปกครองสูงสุด

นายวราวุธ
  ศิริยุทธ์วัฒนา
ตุลาการศาลปกครองสูงสุด

ตุลาการผู้แถลงคดี
  :  นายธีรรัฐ  อร่ามทวีทอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น