วันพฤหัสบดีที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ขยับโรดแมปเลือกตั้งท้องถิ่น เพิ่มสเปก อปท.สูงขึ้น

ขยับโรดแมปเลือกตั้งท้องถิ่น เพิ่มสเปก อปท.สูงขึ้น
ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๐

          โรดแมปการเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วประเทศ ที่คนในสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เคยบอกไว้ว่ามีร่วม กว่า 7 พันแห่งทั่วประเทศ โดยเฉพาะที่หลายคนสนใจ เช่น การเลือกผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, การเลือกนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) มีความเป็นไปได้ที่โรดแมปอาจขยับออกไปจากเดิม
          หลังก่อนหน้านี้ "วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี" ที่สวมหมวก "ประธานคณะกรรมการการกระจาย อำนาจสู่ท้องถิ่น" (ก.ก.ถ.) เคยบอกไว้ว่า คณะรัฐมนตรีน่าจะมีการพิจารณาให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งท้องถิ่น 6 ฉบับ ที่กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ต้องแก้ไขให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันได้ภายในไม่ เกินเดือนธันวาคมนี้ จนมีการคาดหมาย ว่าหากรัฐบาลส่งร่างฯ ทั้งหมดไปให้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา กระ บวนการทั้งหมดก็น่าจะเสร็จภายในไม่เกินกลางปีหน้า และหากรัฐบาล-คสช.ให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นก่อน ก็มีความเป็นไปได้ที่จะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นในช่วง ก.ค.-ส.ค.2561
          อย่างไรก็ตาม หลังมีข่าวว่ากระ ทรวงมหาดไทยพิจารณายกร่าง พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งท้องถิ่นเสร็จสิ้นเกือบหมดแล้ว ท่าทีล่าสุดของ "วิษณุ" บอกไว้ว่า ร่าง พ.ร.บ.การเลือกตั้งท้องถิ่นคงไม่สามารถนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีได้ทันในเดือน ธ.ค.นี้ จำเป็นต้องเลื่อนพิจารณากฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นไปในเดือน ม.ค.61 คาดว่าในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. กฎหมายดังกล่าวจะผ่านการพิจารณาของ ครม.
          ขณะเดียวกัน ก็มีความเป็นไปได้ที่การยกร่างปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งท้องถิ่น อาจต้องใช้เวลามากกว่าที่รัฐบาลเคยวางไว้
          เห็นได้จากที่วิษณุเผยออกมาว่า อาจจำเป็นต้องนำความเห็นของกรรม การการเลือกตั้ง ที่เสนอแนะเรื่องการเลือกตั้งท้องถิ่นว่ามีจุดอ่อนตรงไหน ควรแก้ไขปรับปรุงอย่างไร จึงมีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลก็อาจนำข้อเสนอของ กกต.ในเรื่องนี้ที่มีข่าวว่ามีร่วม 40 ประเด็นไปหารือเพิ่มเติมในการแก้ไขปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.การเลือกตั้งท้องถิ่น 6 ฉบับ ให้แน่นมากยิ่งขึ้น ปิดประตูเรื่องปัญหาที่จะตามมาภายหลังการเลือกตั้งท้องถิ่น โดยเฉพาะการฟ้องร้อง
          เมื่อเป็นไปดังนี้ ก็น่าจะทำให้นักการเมืองท้องถิ่น-คนที่จะเล่นการเมืองท้องถิ่น ที่ก่อนหน้านี้เริ่มเตรียมวอร์มอัพจะลงสนามเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็น อบต.-อบจ.-เทศบาล-สนามเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร ทั้งผู้ว่าฯ กทม.-ส.ก.-ส.ข. รวมถึงเขตปกครองพิเศษอย่างเมืองพัทยา เมื่อมีแนวโน้มที่การเลือกตั้งท้องถิ่นอาจขยับออกไปอีกสัก 1-2 เดือน ผสมกับยังไม่มีสัญญาณจาก คสช.ว่าจะให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นหรือการเลือกตั้ง ส.ส.ก่อน แบบนี้คนที่จะเล่นการเมืองท้องถิ่นทั่วประเทศจึงมีเวลามากขึ้นในการเตรียมพร้อม
          ก่อนหน้านี้ "สุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น" เผยเนื้อหารายละเอียดของการเสนอแก้ไขกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นฯ  6 ฉบับ ว่า กระทรวงมหาดไทยเสนอให้แก้ไขใน 8 ประเด็นหลัก อาทิ
          1.กรณีอำนาจสอบสวนและวินิจฉัยเกี่ยวกับสมาชิกภาพของสมาชิกสภาและผู้บริหารขององค์การบริหารส่วนตำบลและ เทศบาลตำบล ควรให้นายอำเภอเป็นผู้มีอำนาจสอบสวนและทำความเห็นเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดวินิจฉัยและสั่งให้พ้นจากตำแหน่ง จากเดิมเป็นอำนาจของ ผวจ.ดำเนินการสอบสวน และ รมว.มหาดไทยเป็นผู้ใช้สั่งให้พ้นจากตำแหน่ง เพื่อให้ทุกอย่างดำเนินการได้รวดเร็วขึ้น ส่วนสมาชิกและผู้บริหารองค์การส่วนจังหวัด ยังเป็นอำนาจของ ผวจ.ในการสอบสวน และ รมว.มหาดไทยเป็นผู้ใช้ดุลพินิจให้พ้นจากตำแหน่ง
          2.คุณสมบัติเรื่องการศึกษา เห็นตามที่รัฐธรรมนูญ 60 กำหนด โดยยึดตาม คุณสมบัติ ส.ส. ผู้สมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่น ต้องจบปริญญาตรีเป็นขั้นต่ำ ส่วนคนที่เคยดำรงตำแหน่งท้องถิ่นอยู่แล้ว แต่ไม่ได้จบปริญญาตรีสามารถสมัครได้ 3.เสนอปรับลดจำนวนสมาชิกสภา อบต.จากหมู่บ้านละ 2 คน เป็น 1 คน เพื่อลดค่าใช้จ่าย ค่าตอบแทนสมาชิกสภาลงได้ครึ่งหนึ่ง และเพื่อให้ อบต.มีงบประมาณในการพัฒนาการจัดทำบริการสาธารณะเพิ่มขึ้น
          4.ห้ามผู้บริหารท้องถิ่นทุกรูปแบบดำรงตำแหน่งเกิน 2 วาระติดต่อกันเพื่อป้องกันการผูกขาดและสร้างฐานอำนาจในตำแหน่ง 5.ให้นำบทบัญญัติเรื่องการขัดกันแห่งผลประโยชน์ตามมาตรา 184 (2) (3) และวรรคสาม และมาตรา 185 กรณีใช้สถานะตำแหน่งก้าวก่ายหรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเองหรือของผู้อื่นไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม มากำหนดไว้ในการแก้ไขร่างกฎหมายจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งหมด
          อย่างไรก็ตาม ความเห็น-ข้อเสนอดังกล่าว ประเมินดูแล้ว เมื่อร่างแก้ไขเพิ่มเติมฯ ดังกล่าวส่งไปถึง สนช. ก็มีความเป็นไปได้ที่อาจมี สนช.ไม่เอาด้วยร้อยเปอร์เซ็นต์ คือเอาด้วยในหลักใหญ่ แต่ก็จะเขียนรายละเอียดปลีกย่อยที่อาจไม่เหมือนกับดราฟต์แรกที่กระทรวงมหาด ไทย-ครม.ส่งเรื่องมา
          และแน่นอนว่า หลังร่างแก้ไขปรับปรุงดังกล่าวทั้งหมดส่งไปที่ สนช. บรรดานักการเมืองท้องถิ่นก็คงมีทั้งเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วยในบางเรื่อง เช่น การให้คนเล่นการเมืองท้องถิ่นหน้าใหม่ต้องจบปริญญาตรี ที่ก็พบว่านักวิชาการสายรัฐศาสตร์-กรรมการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น บางคนก็ไม่เห็นด้วย เพราะมองว่าโครงสร้าง-อำนาจของ อปท.ทำให้นักการเมืองท้องถิ่นไม่จำเป็นต้องได้คนสเปกสูงแบบ ส.ส.ก็ได้
          แต่รายละเอียดทั้งหมดของการแก้ไขกฎหมายท้องถิ่นดังกล่าว เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งท้องถิ่นเกือบ 8 พันแห่ง คงต้องรอให้ออกมาจากที่ประชุม ครม.เสียก่อน เสียงวิจารณ์ว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย ในเรื่องไหน เพราะอะไร จึงจะชัดมากขึ้น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น