วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2559

จูงใจอปท.ใช้เงินสะสมพัฒนาท้องถิ่นรัฐงัดมาตรการช่วยสมทบครึ่งหนึ่ง-หวังกระตุ้นเศรษฐกิจอีกทาง

จูงใจอปท.ใช้เงินสะสมพัฒนาท้องถิ่นรัฐงัดมาตรการช่วยสมทบครึ่งหนึ่ง-หวังกระตุ้นเศรษฐกิจอีกทาง 

คม ชัด ลึก  ฉบับวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๕๙

          ครม.ไฟ เขียวมาตรการหนุนอปท.นำเงินสะสมมาใช้พัฒนาท้องถิ่น เปิดเสนอโครงการพัฒนาท้องถิ่นรัฐพร้อมจ่ายสมทบครึ่งหนึ่ง หวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศอีกแรง เร่งให้ยื่นภายในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 60
          นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2559 มีมติอนุมัติมาตรการสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เศรษฐกิจและสังคมภายในท้องถิ่น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยเห็นชอบการสนับสนุนค่าใช้จ่ายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2560 จำนวน 2 มาตรการ เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจให้ อปท.นำเงินสะสมมาใช้จ่ายในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจและสังคมในท้อง ถิ่น
          ทั้งนี้ มาตรการส่วนแรกคือ มาตรการสนับสนุนการลงทุนระหว่างรัฐบาลและอปท. โดยให้ อปท.เสนอโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เศรษฐกิจและสังคมภายในท้องถิ่น ซึ่งภาครัฐจะสมทบเงินให้ครึ่งหนึ่งของมูลค่าโครงการ มีกรอบวงเงินอยู่ที่ 19,795 ล้านบาท มาจากงบประมาณของรัฐบาลในลักษณะอุดหนุนเฉพาะกิจและเงินสะสมของ อปท. อย่างละครึ่ง หรือฝ่ายละ 9.8 พันล้านบาท
          สำหรับมาตรการดัง กล่าวมีเป้าหมายหลักเพื่อจูงใจให้ อปท.พัฒนาและแก้ไขปัญหาในท้องถิ่นร่วมกับภาครัฐ รวมถึงช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศระหว่างปลายปี 2559 ถึงกลางปี 2560 ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกยังชะลอตัว โดย อปท.ทั่วประเทศทั้ง 7,851 แห่ง ต้องเสนอโครงการและได้รับความเห็นชอบภายในไตรมาส 1 ของปีงบประมาณ 2560 จากนั้นต้องเบิกจ่ายภายในไตรมาสที่ 2 และ 3 ของปีงบประมาณ
          อย่าง ไรก็ตาม โครงการที่เสนอมาต้องไม่ซ้ำซ้อนกับโครงการที่ได้รับอนุมัติในปีงบประมาณ 2559-2560 แต่หากโครงการที่มีอยู่แล้ว แต่เงินไม่เพียงพอสามารถขอเพิ่มได้ และอปท.สามารถเสนอโครงการได้มากกว่า 1 โครงการ แต่ไม่เกินวงเงินที่กำไร โดย อบต.ขนาดเล็กต้องเสนอโครงการไม่เกินวงเงิน 2 ล้านบาท, อบต.ขนาดกลางและขนาดใหญ่ รวมถึงเทศบาลตำบลเสนอโครงการไม่เกิน 3 ล้านบาท เทศบาลเมืองและเทศบาลนครเสนอโครงการไม่เกินวงเงิน 7 ล้านบาท และ อบจ.เสนอโครงการได้ไม่เกิน 10 ล้านบาท
          ส่วนโครงการที่สามารถ เสนอได้ เช่น โครงการเส้นทางคมนาคม โครงการแหล่งน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคหรือเพื่อการเกษตร โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การท่องเที่ยวชุมชน เป็นต้น ซึ่ง ครม.มอบหมายให้กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย เป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์และแต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองเพื่อพิจารณาร่วมกับ สำนักงานงบประมาณ
          มาตรการที่สองคือ มาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนผ่านการใช้จ่ายเงินสะสมของ อปท. ซึ่งให้ อปท.จัดทำโครงการที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาของ อปท. ในด้านการศึกษาท้องถิ่น การพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ด้อยโอกาส ผู้สูงอายุ และผู้พิการ โดยมาตรการนี้จะดำเนินการระหว่างเดือนตุลาคม 2559-กันยายน 2560 และใช้งบประมาณจากเงินสะสมของ อปท.เอง แต่ภาครัฐจะกำหนดหลักเกณฑ์และสิทธิประโยชน์เพื่อจูงใจให้ อปท.ดำเนินโครงการต่างๆ
          ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นจะกำหนดเงื่อนไขและสิทธิประโยชน์ เช่น การจัดสรรเงินอุดหนุนเพื่อเป็นรางวัลแก่ อปท. โดยเบื้องต้นสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีมีการตั้งงบประมาณเป็นเงินรางวัล สำหรับ อปท. ที่มีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีจำนวน 200 ล้านบาท ซึ่งจะมีการหารือเพื่อนำมาใช้เป็นสิทธิประโยชน์ในโครงการและถ้า อปท.ใดมีเงินสะสมน้อยก็อาจจะจัดสรรเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น