ดึงคอสต์คุมก่อสร้างอปท.

ดึงคอสต์คุมก่อสร้างอปท.

เดลินิวส์ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๑

แก้คอร์รัปชั่นเริ่มใช้ปี62           นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 62 จะมีการกำหนดให้โครงการก่อสร้างขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จะต้องนำเข้าร่วมโครงการความโปร่งใสในการก่อสร้างภาครัฐของประเทศไทย (คอสต์) ด้วย ซึ่งจะต้องมีการเปิดเผยข้อมูลที่สำคัญในโครงการ 40 หัวข้อแก่สาธารณะ อาทิ งบประมาณโครงการ ราคากลาง จำนวนบริษัทที่เข้าร่วมโครงการ การเปลี่ยนแปลงสัญญา เพื่อเพิ่มความโปร่งใสในการเปิดประมูลโครงการก่อสร้างของรัฐ           "ที่ผ่านมาการนำโครงการก่อสร้างของ อปท.เข้าร่วมโครงการคอสต์จะใช้วิธีภาคสมัครใจ แต่ตั้งแต่ปี 62 จะบังคับให้เข้าร่วม ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการคอสต์ ที่มีปลัดกระทรวงการคลัง และกรมบัญชีกลางเป็นเลขาธิการ พร้อมทั้งมีคนกลางจากภาคเอกชนและประชาชน กำลังกำหนดรายละเอียดกันอยู่ แต่เบื้องต้นจะต้องเป็นโครงการก่อสร้างของรัฐ และมีผลกระทบต่อสาธารณะ ซึ่งเมื่อมีการใช้ระบบคอสต์ เมื่อรวมกับการใช้ข้อตกลงคุณธรรม ซึ่งอยู่ใน พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง  จะช่วยลดปัญหาการทุจริต ทำให้มีความโปร่งใส่ในการเปิดเผยข้อมูล และทำให้โอกาสการจัดดัชนีด้านคอร์รัปชั่นของไทยดีขึ้นด้วย"           น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวในงานสัมมนาโครงการความโปร่งใสในการก่อสร้างภาครัฐของประเทศไทย ว่า การดำเนินโครงการคอสต์ของไทยมีความคืบหน้าไปตามลำดับ โดยตั้งแต่ปี 60 มีเข้าร่วม 5 โครงการ ซึ่งเป็นการคัดเลือกโครงการขนาดใหญ่ที่มีผลกระทบในวงกว้างเข้ามา ต่อมาในปี 61 มีการคัดเลือกโครงการก่อสร้างภาครัฐเข้าร่วมเพิ่มเป็น 147 โครงการ มูลค่าการก่อสร้างรวม 13,665 ล้านบาท โดยมีการเปิดเผยข้อมูลโครงการตามแนวทางของคอสต์แล้ว 120 โครงการ ส่วนโครงการที่เหลืออยู่ระหว่างการ เตรียมการจัดซื้อจัดจ้าง และมีกระทรวงเข้าร่วมทั้งสิ้น 12 กระทรวง โดยกระทรวงคมนาคมมีมูลค่าโครงการสูงสุด 99,627 ล้านบาท ในขณะที่กระทรวงมหาดไทยมีโครงการเข้าร่วมสูงสุด 104 โครงการ           อย่างไรก็ตามภาพรวมของโครงการที่มีการเปิดเผยข้อมูล พบว่าโครงการของหน่วยราชการและรัฐวิสาหกิจเน้นงานถนน สะพาน และงานชลประทาน ส่วนท้องถิ่นจะมุ่งเน้นงานอาคารและงานถนน และจำนวนผู้เข้าร่วมประมูลมีความสัมพันธ์กับการแข่งขันด้านราคาในทิศทางเดียวกัน โครงการที่มีมูลค่างานต่ำจะมีจำนวนผู้เข้าแข่งขันมาก ส่งผลให้การแข่งขันด้านราคาสูงเกินกว่า 15% ในขณะที่การเปิดเผยข้อมูลโดยส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับที่น่าพอใจ เฉลี่ยที่ 82.81%           ขณะเดียวกันยังได้มีการติดตามและประเมินผลโครงการ โดยสุ่มคัดเลือก 10 โครงการต้นแบบหลายมิติ เช่น ประเภทการก่อสร้าง งบประมาณ และพื้นที่ เพื่อตรวจสอบข้อมูลที่เปิดเผยและมีการจัดเวทีภาคประชาชนเพื่อสอบถามความคิดเห็นหรือรับฟังปัญหาผลกระทบจากโครงการก่อสร้างที่สุ่มตรวจพบว่าการเปิดเผยข้อมูลตามแนวทางคอสต์ ของหน่วยงานระดับกรมอยู่ที่ 90% หน่วยงานระดับท้องถิ่นอยู่ที่ 80%           อย่างไรก็ตามมีข้อห่วงใยของประชาชนคือ การบริหารจัดการโครงการภายหลังการก่อสร้างเพื่อให้เกิดความยั่งยืนในการใช้งบประมาณให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด ทั้งนี้ โดยภาพรวมประชาชนในพื้นที่เชื่อมั่นว่าโครงการที่ดำเนินการทั้ง 10 โครงการ มีความโปร่งใสในการก่อสร้าง.