วันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

กสถ.คาดสอบบรรจุท้องถิ่นเกิน6แสน ตรวจเข้มแบล๊กลิสต์-ปลอมแปลงชื่อ ลั่นสอบทุจริต-ต้องสางคนเบื้องหลัง



กสถ.คาดสอบบรรจุท้องถิ่นเกิน6แสน ตรวจเข้มแบล๊กลิสต์-ปลอมแปลงชื่อ ลั่นสอบทุจริต-ต้องสางคนเบื้องหลัง
มติชน  ฉบับวันที่ ๘ พฤศจิกายน 2016

          นายอัษฎางค์ ปาณิกบุตร ประธานคณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) เปิดเผยว่า การพิจารณากรณีคณะกรรมการ กสถ.จะดำเนินการจัดสอบเพื่อบรรจุแต่งตั้งพนักงานส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศกว่า 14,000 อัตรา จาก 63 ตำแหน่ง โดยประกาศรับสมัครสอบผ่านเว็บไซต์ในเดือนพฤศจิกายนหรือเดือนธันวาคมนี้ คาดว่าจะมีผู้เข้าสอบทั่วประเทศ 10 เขต มากกว่า 6 แสนคน โดยมีอัตรากำลังในการบรรจุแต่งตั้งมากกว่าการจัดสอบเมื่อปี 2557 ซึ่งมีเพียงการบรรจุ 7,000 อัตราเท่านั้น สำหรับการคัดเลือกมหาวิทยาลัยที่จะดำเนินการจัดสอบ ตนมอบหมายให้เป็นหน้าที่ตัดสินใจของคณะกรรมการ หลังจากอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (อ.สถ.) เป็นผู้แต่งตั้งเพื่อพิจารณาตามความเหมาะสม และระเบียบวิธีปฏิบัติในการจัดซื้อจัดจ้าง
          "เนื่องจากการสอบของ กสถ. เมื่อปี 2556 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เป็นผู้จัดสอบคิดค่าใช้จ่ายรายหัวเพียง 185 บาทเท่านั้น แต่ครั้งนี้มีการเสนอราคาที่สูงพอสมควร ขณะที่มีการประเมินว่าจะมีผู้เข้าสอบมากกว่าครั้งก่อน ดังนั้น คณะกรรมการที่เกี่ยวข้องต้องมีความละเอียดรอบคอบสามารถชี้แจงเหตุผลในการคัดเลือกได้ และคณะกรรมการอาจมีข้อกำหนดให้เพิ่มสนามสอบทั่วทุกภูมิภาคจากเดิม 10 เขต โดยประเมินจากจำนวนผู้เข้าสอบในแต่ละพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ผู้เข้าสอบ" นายอัษฎางค์กล่าว
          หากมีการคัดเลือกมหาวิทยาลัยผู้ดำเนินการจัดสอบมีข้อสรุปและมีการลงนามในสัญญาจ้างตามที่กำหนดไว้ ก็จะจัดสอบภาค ก.และภาค ข.ได้ช่วงปลายเดือนมกราคม 2560 และ กสถ.จะตรวจสอบผู้ที่เคยถูกขึ้นบัญชีดำจากปัญหาการทุจริตในการสอบบรรจุท้องถิ่นในหลายจังหวัดทางภาคกลางและภาคอีสาน ซึ่งบุคคลเหล่านี้อาจเปลี่ยนชื่อและนามสกุลมาสมัครสอบอีกครั้ง และอาจต้องหารือกับกรรมการ กสถ. หากผู้เข้าสอบอ้างว่าผลการสอบสวนการทุจริตยังไม่เกี่ยวข้องกับผู้เข้าสอบหรือผู้ที่เคยได้รับการบรรจุแต่ถูกเพิกถอนผลการสอบในภายหลัง
          "ในฐานะที่เคยทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการสอบสวนการทุจริตการสอบบรรจุท้องถิ่นที่ จ.มหาสารคาม ตามคำสั่งลงนามแต่งตั้งโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผมขอยืนยันว่าในอนาคต หากมอบหมายหน้าที่นี้ให้อีก จะต้องมีเงื่อนไขให้ผมสะสางถึงผู้ที่กระทำความผิดตัวจริงที่อยู่เบื้องหลัง ไม่ควรปล่อยให้ลอยนวลมีอนาคตเติบโตในชีวิตราชการ ขอเรียนว่ากว่าจะมีการใช้มาตรา 44 สั่งแขวนนายก อบต.ในจังหวัดมหาสารคาม ผมต้องไปชี้แจงข้อเท็จจริงให้ มท.1 รับทราบ ทั้งที่การปลดเป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด แต่กลับเพิกเฉย ส่วนกรณีที่สั่งแขวนข้าราชการท้องถิ่น 52 ราย ที่ จ.มหาสารคามนั้น ผมไม่เห็นด้วย เพราะยังไม่มีข้อสรุปว่าทุกรายมีความผิดอย่างไร" นายอัษฎางค์กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น