ดย.ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์คุ้มครองเด็ก พัฒนาศูนย์เด็กเล็ก-จัดระเบียบหอพักปลอดภัย ขยายคัดเพชรน้ำหนึ่ง

ดย.ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์คุ้มครองเด็ก พัฒนาศูนย์เด็กเล็ก-จัดระเบียบหอพักปลอดภัย ขยายคัดเพชรน้ำหนึ่ง

ไทยรัฐ (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๐

นายวิทัศน์ เตชะบุญ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2561 นอกจาก ดย.จะเน้นสร้างความเข้มแข็งให้กับสภาเด็กและเยาวชนในทุกระดับ โดยเฉพาะสภาเด็กและเยาวชนตำบลและเทศบาลซึ่งเพิ่งมีการจัดตั้งในทุกพื้นที่ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 กำหนดแล้ว ดย.จะต้องบูรณาการทุกหน่วยงานขับเคลื่อนภารกิจตามยุทธศาสตร์การคุ้มครองเด็กแห่งชาติ พ.ศ.2560-2564 และยุทธศาสตร์ส่งเสริมการปกป้องคุ้มครองเด็กและเยาวชนในการใช้สื่อออนไลน์ พ.ศ.2560-2564 ทั้งสองยุทธศาสตร์ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี(ครม.)แล้วยังต้องดำเนินงานตามแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ  พ.ศ.2560-2564 ซึ่งแผนดังกล่าวอยู่ระหว่างเสนอ ครม.นอกจากนี้ จะต้องเร่งผลักดันเรื่องหอพักปลอดภัยมีมาตรฐานให้มากที่สุด จากข้อมูลพบหอพักซึ่งปัจจุบันได้ถ่ายโอนให้อยู่ในความดูแลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)และเทศบาลแล้ว 15,000 แห่ง แต่พบว่ามีเพียง 70,000 กว่าที่มีการลงทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ยังมีอีกจำนวนมากที่อยู่นอกระบบ ขณะที่กฎหมายลูกที่ออกตาม พ.ร.บ.หอพัก พ.ศ.2558 กำหนดให้มีเจ้าหน้าที่หอพักทำหน้าที่ตรวจสอบแนะนำ รวมถึงมีอำนาจในการสั่งปิดหรือยุติกิจการหอพักตามข้อกำหนดต่างๆ ได้มีผลบังคับใช้แล้วดังนั้น จากนี้จะมีการจัดเจ้าหน้าที่หอพักลงไปสุ่มตรวจหอพักต่างๆ ให้ดำเนินการเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับ เพื่อให้หอพักปฏิบัติตามระเบียบมาตรฐานอย่างเคร่งครัด           นายวิทัศน์กล่าวด้วยว่า ดย.ยังต้องขับเคลื่อนการพัฒนาศูนย์เด็กเล็ก ซึ่งมีประมาณ 48,000 แห่ง ในจำนวนดังกล่าวเป็นศูนย์เด็กเล็กที่อยู่ในสังกัดความดูแลของกระทรวงมหาดไทย 19,000 แห่ง กระทรวงศึกษาธิการ 20,000 แห่ง ดย. 1,600 แห่งรวมถึงสังกัดกระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานครและกระทรวงแรงงาน ซึ่งคณะกรรมการพัฒนาเด็กปฐมวัยได้มอบหมายให้สภาการศึกษาจัดทำมาตรฐาน ศูนย์เด็กเล็กแห่งชาติ คาดว่าจะแล้วเสร็จเร็วๆนี้ เพื่อให้ทุกหน่วยงานใช้เป็นมาตรฐานศูนย์เด็กเล็กกลางในการประเมินศูนย์เด็กเล็กแต่ละสังกัด นอกจากนี้ ดย.ยังมีโครงการเพชรน้ำหนึ่ง ซึ่งเป็นการคัดเลือกเด็กและเยาวชนในสถานสงเคราะห์ที่มีความสามารถด้านต่างๆ เพื่อยกย่องเชิดชูให้เป็นเพชรน้ำหนึ่ง โดยจะขยายการคัดเลือกให้มีความหลากหลายมากขึ้นนอกเหนือจากด้านวิชาการดนตรี ศิลปวัฒนธรรม ซึ่งได้ดำเนินการมาก่อนหน้านี้ จะขยายสาขามากขึ้นเพื่อเป็นแรงบันดาลใจและสร้างความภาคภูมิใจให้กับเด็กและเยาวชนในสถานสงเคราะห์.