สมาพันธ์ปลัดหนุนพ.ร.บ.จัดซื้อ กระทบงบหนุนฉก.แต่ยกระดับตรวจสอบ วอนรัฐเปิดทางอปท.เสนอของบโดยตรง

สมาพันธ์ปลัดหนุนพ.ร.บ.จัดซื้อ กระทบงบหนุนฉก.แต่ยกระดับตรวจสอบ วอนรัฐเปิดทางอปท.เสนอของบโดยตรง

มติชน (กรอบบ่าย)  ฉบับวันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๖๐

นายศักดิพงศ์ ธรรมอาชวกุล ประธานสมาพันธ์ปลัดเทศบาลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การบังคับใช้ตามแนวทางการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 และระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาจจะมีปัญหากับผู้ตรวจการจ้างพอสมควร ส่วนผลกระทบ กับการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ จะมีเฉพาะหน่วยงานส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และหน่วยงานในรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ เช่น ปตท. หรือ ทอท. ในส่วนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) อาจจะมีผลกระทบจากการใช้งบเงินอุดหนุนเฉพาะกิจโครงสร้างพื้นฐาน แต่ที่ผ่านมารัฐบาลจัดสรรให้ไม่มาก จึงไม่มีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ           "ข้อดีของการใช้ พ.ร.บ.ฉบับนี้ หากทุกฝ่ายมีความเข้าใจและระบบการรายงานไปยังกรมบัญชีกลางมีมาตรฐาน จะเป็นการยกระดับการตรวจสอบการใช้งบท้องถิ่น ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันกับหน่วยงานส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค เนื่องจากไม่ต้องให้ฝ่ายกำกับดูแลแจ้งแนวทางการปฏิบัติ เช่น กรณีการจัดซื้อ จัดหาพัสดุในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ ให้ถือเป็นการจัดซื้อจัดจ้างกรณีเฉพาะเจาะจง เหมือนกันทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และ อปท. นอกจากนั้น สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) หน่วยงานตรวจสอบจะได้ใช้มาตรฐานเดียวกันในการตรวจสอบโดยไม่เลือกปฏิบัติเหมือนที่ผ่านมา" นายศักดิพงศ์กล่าว และว่า           สำหรับปัญหาที่เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไข คือ การเปิดโอกาสให้ท้องถิ่นสามารถเสนอของบประมาณได้เอง โดยรัฐบาลส่วนกลางอาจกำหนดกรอบ หรือนโยบายที่ต้องการให้ท้องถิ่นดำเนินการ และกำหนดให้ อปท.เสนอไปยังสำนักงบประมาณโดยตรง โดยอาจให้มีคณะกรรมการร่วมพิจารณา คัดเลือก เพื่อให้ตรงกับประโยชน์ของประชาชนที่จะได้รับและจะลดปัญหาเรื่องวิ่งเต้นงบประมาณ