วันอังคารที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2560

เข็นเศรษฐกิจโต4% คลังเร่งเครื่องไตรมาสสุดท้ายปีนี้วอนอปท.ใช้แสนล. หอการค้าฯชี้มี3ปัจจัยบวก

เข็นเศรษฐกิจโต4% คลังเร่งเครื่องไตรมาสสุดท้ายปีนี้วอนอปท.ใช้แสนล. หอการค้าฯชี้มี3ปัจจัยบวก
โพสต์ทูเดย์  ฉบับวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๖๐

          โพสต์ทูเดย์ - คลังไม่ยอมแพ้ เร่งการลงทุนเอกชน วอน อปท.ใช้งบกว่า 1 แสนล้าน หวังดันเศรษฐกิจโค้งสุดท้ายโต 4%
          นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การขยายตัวเศรษฐกิจปีนี้เชื่อว่าจะขยายตัวได้ใกล้เคียง 4% ซึ่งหลายหน่วยงานได้ทยอยปรับขึ้นต่อเนื่อง บางแห่งให้เศรษฐกิจขยายตัวถึง 3.8% ในส่วนของกระทรวงการคลังจะมีการปรับประมาณการใหม่ในเดือน ต.ค.นี้ ซึ่งเดิมคาดว่าจะขยายตัวได้ 3.6%
          ทั้งนี้ การทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ 4% ต้องเร่งการลงทุนภาคเอกชน โดยเฉพาะในต่างจังหวัด ซึ่งรัฐบาลพร้อมสนับสนุนการลงทุน มีมาตรการลดหย่อนภาษีได้ 1.5 เท่า มีสถาบันการเงินของรัฐพร้อมที่จะช่วยเหลือด้านสินเชื่อ และมีบรรษัทค้ำประกันสินเชื่อขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ บสย. ก็พร้อมค้ำประกันสินเชื่อให้กับภาคเอกชน
          สำหรับการลงทุนของภาครัฐไม่มีปัญหา ได้มีการเร่งการใช้จ่ายและการลงทุนต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีงบประมาณ 2560 และเริ่มปีงบประมาณ 2561 ก็มีมาตรการเร่งเบิกจ่ายเพื่อให้เม็ดเงินเข้าสู่ ระบบเศรษฐกิจมากที่สุด
          นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้เร่งประสานให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่มีเงินลงทุนไม่ได้ใช้อีกกว่า 1 แสนล้านบาท เพื่อทำให้เศรษฐกิจภูมิภาคขยายตัว กระจายความเจริญและรายได้ให้กับเศรษฐกิจฐานรากเพิ่มมากขึ้น
          นายสมชัย กล่าวว่า ส่วนข้อเสนอของภาคเอกชนให้รัฐบาลออกมาตรการช็อปช่วยชาติเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี เป็นเรื่องของนโยบาย ในส่วนของกระทรวงการคลังต้องมีการหารือกับนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ว่า มาตรการช็อปช่วยชาติมีความจำเป็นหรือไม่ เพราะขณะนี้เศรษฐกิจยังขยายตัวได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
          ขณะที่มาตรการภาษีท่องเที่ยวที่ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เสนอมาให้กระทรวงการคลังพิจารณาตอนนี้ไม่มีความคืบหน้า เนื่องจาก ททท.ต้องการให้ลดหย่อนภาษีท่องเที่ยวเป็นการทั่วไป แต่กระทรวงการคลังต้องการลดภาษีท่องเที่ยวให้กับท่องเที่ยวในชุมชนที่เป็นจังหวัดรองเท่านั้น
          ด้าน นายกลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและประธานหอการค้าไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้น่าจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมาจาก 3 ปัจจัยหลักที่จะเป็นตัวเร่ง คือ 1.ในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. จะเป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวมากขึ้น
          2.การที่รัฐบาลประกาศว่าจะมีการเลือกตั้งในเดือน พ.ย. 2561 ทำให้เริ่มมีการวางแผนจัดกิจกรรมต่างๆ ไว้ล่วงหน้าบ้างแล้ว และ 3.งบประมาณปี 2561 ที่ออกมาแล้ว และมีการกระตุ้นให้มีการใช้จ่ายงบในช่วงต้นปี
          นอกจากนั้น รัฐบาลกำลังเร่งผลักดันให้เกิดการลงทุนโครงการขนาดใหญ่เกิดขึ้น ทั้งโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง ทำให้คาดว่าจะเกิดการจ้างงานเพิ่มมากขึ้น
          อย่างไรก็ดี สิ่งที่น่ากังวลคือเรื่องเกษตรกรฐานราก เพราะจากการหารือกับสมาชิกหอการค้าในจังหวัดต่างๆ พบว่าเม็ดเงินยังไม่กระจายลงไปถึงเกษตรกรฐานรากในต่างจังหวัดมากนัก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น