จ่อเพิ่มเบี้ยยังชีพคนชรา |
ไทยรัฐ ฉบับวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๖๐ |
นายอภิศักดิ์
ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้
กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างหารือร่วมกับกระทรวงมหาดไทย
เพื่อจัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับการขอสละสิทธิ์
และการคืนสิทธิ์เบี้ยยังชีพคนชรา
รวมถึงการผลิตเหรียญเชิดชูเกียรติกรณีที่คนชราสละสิทธิ์เบี้ยชรา
จะได้รับเหรียญดังกล่าว เพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณ คาดว่าภายในเดือน
ต.ค.นี้ กระทรวงการคลังจะได้ข้อสรุปทั้งหมด "หลังจากนายกรัฐมนตรีได้เร่งรัดให้กระทรวงการคลังสรุปตัวเลขผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย รายได้ปานกลาง และรายได้สูง เพื่อจัดกิจกรรมรณรงค์ขอความร่วมมือแบบสมัครใจไม่รับเบี้ยผู้สูงอายุเมื่อครบ 60 ปี โดยจะแบ่งปันเงินไปให้ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย เอาไว้ใช้จ่ายประคองชีวิตบั้นปลาย จากปัจจุบัน มีผู้รับเบี้ยคนชรา 8 ล้านคน เมื่อดูจากยอดลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย พบว่า คนชรามีรายได้สูงถึง 3 ล้านคน จึงมุ่งหวังให้คนชราพออยู่พอกินแบ่งปันบางส่วนให้คนรายได้น้อย" ทั้งนี้ ปัจจุบันผู้สูงอายุตั้งแต่อายุ 60-70 ปี ได้รับเบี้ยเดือนละ 600 บาท อายุ 70-80 ปี ได้รับเบี้ย 700 บาท อายุ 80-90 ปี ได้รับเบี้ย 800 บาท และอายุตั้งแต่ 90 ปีขึ้นไป ได้รับเบี้ย 1,000 บาท แต่รัฐบาลมองว่า เงินที่คนชราได้รับถือว่าน้อยมาก เพียงเดือนละ 600-1,000 บาท เมื่อเปรียบเทียบกับค่าครองชีพยุคปัจจุบัน จึงมีแนวคิดที่จะเพิ่มเบี้ยคนชรา โดยใช้เงินงบประมาณให้น้อยที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติให้ใช้แนวทางช่วยเหลือผ่านกองทุนผู้สูงอายุ โดยการนำภาษีจากสุรา ยาสูบ 2% จัดสรรเข้ากองทุนผู้สูงอายุเหมือนกับกองทุน สสส. (สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ), สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส, กองทุนสนับสนุนการกีฬา เพื่อนำรายได้ส่งเข้ากองทุนเพิ่มให้กับผู้สูงอายุรายได้น้อยและยังเปิดรับบริจาคเงินด้วย โดยกระทรวงการคลังต้องสรุปตัวเลขผู้สูงอายุที่ต้องการสละสิทธิ์รับเบี้ยผู้สูงอายุให้ได้ก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งขณะนี้ใกล้เสร็จแล้ว. |
เพื่อประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับวงงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น : ฅนเทศบาล
เมนูหลัก
ข่าวท้องถิ่น
ระเบียบบริหารงานบุคคลของพนักงานส่วนท้องถิ่น
มาตรฐานกำหนดคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งพนักงานส่วนท้องถิ่น
มาตรฐานการบริหารงานบุคคลพนักงานส่วนท้องถิ่น
วันอังคารที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2560
จ่อเพิ่มเบี้ยยังชีพคนชรา
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น