วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ชงครม.ไฟเขียวกม.ภาษีที่ดินฯ

ชงครม.ไฟเขียวกม.ภาษีที่ดินฯ
โลกวันนี้  ฉบับวันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๕๙

          ดร.สม ชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าร่างพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ....ว่า ร่างดังกล่าวได้รับความเห็นจากรัฐมนตรีว่ากระ ทรวงการคลังแล้วและได้นำเสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา หากได้รับการอนุมัติคาดว่าจะเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ในวันอัง คารที่ 7 มิ.ย.นี้ สำหรับสาระสำคัญในร่างฯดังกล่าว ระบุให้บ้านหลังแรกที่มีราคาไม่เกิน 50 ล้านบาทไม่ต้องเสียภาษี ส่วนที่ราคาเกินกว่า 50 ล้านบาท รวมทั้งบ้านหลังที่สองเป็นต้นไปต้องถูกเก็บอัตราเป็นขั้นบันไดตามราคา ประเมินแต่จะไม่เกินเพดาน ทั้งนี้แบ่งประเภทการจัดเก็บออกเป็น 4 ประเภทคือ 1.พื้นที่เกษตรกรรม จัดเก็บอัตรา 0.2% 2.เพื่อที่อยู่อาศัย อัตรา 0.5% 3.เพื่อการพาณิชย์, อุตสาหกรรม และอื่นๆ อัตรา 2% ส่วนที่ดินรกร้างไม่ใช้ประโยชน์ อัตรา 5% ของราคาประเมิน
          "ร่าง ดังกล่าวจะเป็นเครื่องมือแก้ปัญหาและลดความเหลื่อมล้ำ อีกทั้งช่วยให้องค์กรปกครองท้องถิ่นจัดเก็บรายได้และกระตุ้นการใช้ประโยชน์ ที่ดินมากขึ้น เพราะกฎ หมายที่ใช้อยู่ในขณะนี้ล้าสมัยไม่สอดคล้องกับเศรษฐกิจในปัจจุบันซึ่งคาดว่จ ะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2560 ทั้งนี้จะมีการเร่งจัดทำราคาประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้แล้วเสร็จใน สิ้นปีนี้ คาดว่าจะสามารถเก็บรายได้ในปีแรกหลังจากบังคับใช้อยู่ที่ 6 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันจัดเก็บรายได้ได้เพียง 2-3 หมื่นล้านบาท"
          ดร.สม ชัย กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจภาคใต้ว่า ยังคงขยาย ตัวต่อเนื่อง เนื่องจากมีปัจจัยบวกจากภาคการท่องเที่ยวและการลงทุนภาครัฐ ซึ่งทางภาครัฐได้มีแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของภาคใต้ (แผนลงทุน 2 ล้านล้านบาท)โดยเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น รถไฟทางคู่ การพัฒนาท่าเรือน้ำลึก (สงขลาแห่งที่ 2 และท่าเรือปากบาราระยะที่ 1) เป็นต้น ส่งให้มูลค่าการค้าชายแดนมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องโดยเฉพาะด่านศุลกากร สะเดา และด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ จังหวัดสงขลา ซึ่งมีมูลค่าการค้าชายแดนมากที่สุดอยู่ที่ 400,000 ล้านบาท หรือประมาณ 50% จากมูลค่าการค้าชาย แดนทั้งหมดซึ่งอยู่ 1 ล้านล้านบาท
          ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจและลดต้น ทุนผู้ประกอบการอีกทั้งเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางรัฐ บาลจึงได้มีการอนุมัติงบกว่า 2,360 ล้านบาท แบ่งเป็นงบก่อ สร้าง 1,602 ล้านบาท และเป็นค่าชดเชยประมาณ 758 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ บนพื้นที่โครงการ 596 ไร่เศษ ได้มีการลงนามก่อหนี้ผูกพันสัญญาไปเมื่อวันที่ 31พฤษภาคม 2559 โดยจะส่งมอบพื้นที่ให้ผู้เหมาในวันที่ 15 มิถุนายนนี้ คาดว่างานก่อสร้างจะแล้วเสร็จประมาณกลางปี 2562 อย่างไรก็ดีเพื่อแก้ปัญหาแบบเร่งด่วนจึงได้ดำเนินโครงการปรับปรุงด่าน ศุลกากรสะเดา โดยเฟส 1 ใช้งบลงทุน 77 ล้านบาท ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว ส่วนเฟส 2 ใช้งบ 36.2 ล้านบาท ขณะนี้งานก่อสร้างก้าวหน้ากว่าแผน 11% คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ 2560 หากเมื่อด่านใหม่แล้วเสร็จจะส่งการค้าชายแดนโตแบบก้าวกระโดดคาดว่าจะเติบโต เพิ่มขึ้น 10%
        

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น