คอลัมน์ สถานีพัฒนาสังคม: การดูแลผู้สูงอายุในประเทศไทย : ปัญหาและข้อเสนอแนะ |
แนวหน้า ฉบับวันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๕๙ |
คณะ กรรมาธิการสังคม กิจการเด็ก เยาวชน
สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อยโอกาส สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ตระหนักถึงปัญหาการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของประเทศไทยรวมถึงปัญหาของ
ผู้สูงอายุด้านต่างๆ จึงมอบหมายให้คณะ อนุกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน และผู้สูงอายุ
(ต่อมามีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมาธิการเพื่อพิจารณาด้านผู้สูงอายุโดยเฉพาะ
คือคณะอนุกรรมา ธิการพิจารณาศึกษาการเตรียมความพร้อมเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ) ได้พิจารณาศึกษาประเด็นด้าน
ผู้สูงอายุ และได้จัดทำรายงานเรื่อง"การสังเคราะห์การดูแลผู้สูงอายุในประเทศไทย
: ปัญหาและ ข้อเสนอแนะ" เสนอต่อที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมีสาระสำคัญ
ดังนี้
ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูง อายุตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๔๘ และจะเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุ โดยสมบูรณ์ในปี พ.ศ.๒๕๖๔ จากสัดส่วนผู้สูงอายุ ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วส่งผลให้ลักษณะการพึ่งพิงทางเศรษฐกิจระหว่าง ประชากรวัยต่างๆ เปลี่ยนไป ซึ่งเดิมมีประชากรวัยเด็กที่ต้องพึ่งพิงประชากรวัยแรงงานมากกว่าผู้สูงอายุ แต่ในอนาคตอันใกล้นี้จะมีผู้สูงอายุที่ต้องพึ่งพิงประชากรวัยแรงงานมากกว่า เด็ก รัฐบาลจึงต้องให้ความสำคัญของการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุและเตรียมความ พร้อมการดูแลผู้สูงอายุให้มีคุณภาพทั้งด้านร่างกายและจิตใจ และครอบคลุมทั่วถึงผู้สูงอายุทุกคนอย่างเป็นระบบจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ใน ขณะเดียวกัน การดูแลและพัฒนาผู้สูงอายุนั้น ประเทศไทยจำเป็นที่จะต้องดำเนินการภายใต้ รูปแบบการดูแลผู้สูงอายุโดยครอบครัวและชุมชนเป็นหลักโดยเน้นการดูแลและพัฒนา คุณภาพชีวิตผู้สูงอายุให้ครอบคลุมอีกทั้งการจัดระบบการดูแลผู้สูงอายุภายใต้ ระบบการจัดสวัสดิการของรัฐ อันเป็นการดำเนินการและจัดทำมาตรการในด้านต่างๆ โดยเฉพาะในด้านมาตรการทางการเงินและการคลัง ซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องเตรียมการแบบยั่งยืน โดยมีข้อเสนอแนะการจัดการดูแลและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ดังนี้ ๑.ข้อ เสนอแนะการทำงานระยะสั้น
๑.๑ การเพิ่มศักยภาพการดูแลผู้สูงอายุ
๑.๑.๑ การเพิ่มจำนวนอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุ
ในชุมชนให้เพียงพอต่อจำนวนของผู้สูงอายุโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงอายุที่เป็น ผู้ป่วยติดเตียง
อัตราส่วนผู้ดูแลผู้สูงอายุ ๑ คนต่อผู้สูงอายุที่เป็นผู้ป่วยหรือผู้พิการจำนวน ๕
คน ให้ครบทุกพื้นที่ภายใต้กรอบเวลาที่เหมาะสมโดยการเพิ่มจำนวนบุคลากรที่เป็น อาสาสมัครดูแล
ผู้สูงอายุ อีกทั้งมีความร่วมมือกับสถาบันวิชาการเพื่อจัดการอบรมให้ความรู้กับอาสา
สมัครดูแลผู้สูงอายุเพื่อให้มีความรู้เพียงพอต่อการทำงานเพื่อดูแลผู้สูง อายุในรูปแบบของผู้ให้การดูแล
(Care
Giver) บูรณาการ การทำงานร่วมกันระหว่างอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน
(อผส.) ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และกรมส่ง
เสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน
(อสม.) ภายใต้ การกำกับดูแลของกระทรวงสาธารณสุข ในการให้ความช่วยเหลือและการจัดการดูแลผู้สูงอายุในชุมชน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มบทบาทการทำงานแบบมีส่วนร่วมของชุมชนและอาสาสมัคร ดูแลผู้สูงอายุที่บ้านและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน
ในการทำงานเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและเพิ่มระดับคุณค่าของผู้สูงอายุที่อยู่ใน สถานสงเคราะห์คนชราและศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ
๑.๑.๒ การเพิ่มศักยภาพและทักษะการดูแลให้กับผู้ดูแลผู้สูงอายุ
เช่น การผลักดันการดำเนินงานโครงการอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุ
"เพื่อนช่วยเพื่อน" และโครงการอาสาสมัครเยาว์วัยใส่ใจผู้สูงอายุ
(อผส.น้อย) ให้มีความต่อเนื่อง
๑.๑.๓ การเพิ่มขีดความสามารถให้กับชุมชนและเจ้าหน้าที่ในการบริหารจัดการโครงการ
หรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาคุณภาพชีวิต ผู้สูงอายุ โดยจัดระบบการสนับสนุนโดยรูปแบบของการมีส่วนร่วมของชุมชนอีกทั้งการจัดอบรม
และจัดกิจกรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ความสำเร็จของการทำงานของแต่ละชุมชน โดยเสนอให้เริ่มต้นจากกรณีศึกษาตัวอย่างตามรายงานการศึกษาเป็นตัวอย่างนำ
ร่องของการจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้
๑.๑.๔ การส่งเสริมการอนุรักษ์ภูมิปัญญา ผู้สูงอายุและภูมิปัญญาท้องถิ่น และส่งเสริมการมีรายได้เสริมให้แก่ผู้สูงอายุจากผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญา
ผู้สูงอายุและภูมิปัญญาท้องถิ่นโดยรัฐต้องมีระบบการบริหารจัดการและกำหนด กลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานให้ชัดเจน
๑.๒ งบประมาณ
๑.๒.๑
การจัดทำมาตรการเพื่อสนับสนุนด้านงบประมาณสำหรับเป็นค่าตอบแทนอาสาสมัครดูแล
ผู้สูงอายุในชุมชน
๑.๒.๒ ระบบการสนับสนุนด้านงบประมาณจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งนี้ จำเป็นต้องมีการจัดทำกฎหมายระดับท้องถิ่นเพื่อรองรับการสนับสนุนด้านงบ
ประมาณการดำเนินการการจัดกิจกรรมหรือโครงการในการจัดการดูแลและพัฒนาคุณภาพ ชีวิตให้กับผู้สูงอายุในชุมชน
๑.๓ ระบบฐานข้อมูลสุขภาพของผู้สูงอายุการจัดทำระบบฐานข้อมูลสุขภาพของ ผู้สูงอายุในรูปแบบของระบบฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์
เสนอให้ดำเนินการพัฒนาระบบฐานข้อมูลภาคประชาชนในการจัดเก็บข้อมูลด้านสุขภาพ ของผู้สูงอายุในชุมชนซึ่งมีการดำเนินการจัดเก็บข้อมูลโดยอาสาสมัครดูแลผู้
สูงอายุที่บ้าน (อผส.) และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) โดยพัฒนาให้เป็นระบบฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์เพื่อนำไปใช้ในการสังเคราะห์และ
จัดทำแผนการดำเนินการที่มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของผู้ สูงอายุในแต่ละชุมชน
๑.๔ การวางแผนชีวิตภายหลังเกษียณอย่างเป็นระบบ
การ รณรงค์และส่งเสริมประชาชนให้ความสำคัญกับการวางแผนชีวิตเพื่อเตรียมความ พร้อมก่อนเข้าสู่วัยสูงอายุทั้งด้านการดูแลรักษาสุขภาพเพื่อป้องกันไม่ให้ เป็นโรค การออม การลงทุน การมีรายได้เสริม การมีงานทำที่เหมาะสมภายหลังเกษียณอายุ และการมีสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อพึ่งตนเองในการใช้ชีวิตประจำวัน
๒. ข้อเสนอแนะการทำงานระยะกลาง
๒.๑ สร้างความตระหนักในคุณค่าของ
ผู้สูงอายุ ความตระหนักในการดูแลตนเอง การให้ครอบครัว ตระหนักในการดูแลผู้สูงอายุ และชุมชนมีส่วนร่วมในการดูแลผู้สูงอายุ
โดยเสนอให้มีการดำเนินการร่วมกับหน่วยงานหรือองค์กรด้านสื่อสารสาธารณะ สื่อมวลชนเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจและความตระหนักในการดูแลผู้สูงอายุ
ทั้งในระดับการดูแลโดยครอบครัวและการดูแลโดยชุมชน รวมทั้งการพัฒนาต่อยอดการทำงานคลังปัญญาผู้สูงอายุไทยให้เกิดผลลัพธ์ในเชิง
รูปธรรม
๒.๒ การจัดทำแผนชุมชนในการดูแล ช่วยเหลือ และพัฒนาผู้สูงอายุแบบมีส่วนร่วม
โดยเสนอ ให้จัดทำกฎหมายเพื่อรองรับการดำเนินการจัดทำแผนชุมชนในการจัดการดูแลและ พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ
และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควรดำเนินการร่วมกับหน่วยงานหรือองค์กรที่มีการ ดำเนินการด้านการดูแลและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในแต่ละชุมชน
เช่น ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ โรงเรียนผู้สูงอายุ อาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุ
ที่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ชมรม ผู้สูงอายุ
สถาบันวิชาการในแต่ละชุมชน และโครงการคลังปัญญาผู้สูงอายุไทย
๒.๓ การจัดทำและเชื่อมต่อระบบฐานข้อมูลเพื่อใช้ในการบริหารจัดการ
การประเมินผล และวางแผนในเชิงยุทธศาสตร์ โดยพัฒนาระบบฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์และดำเนินการเชื่อมโยงฐานข้อมูลจากฐาน
ข้อมูลภาครัฐและฐานข้อมูลภาคประชาชนด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ เช่น
สุขภาพ สังคม รายได้ และการพัฒนาอาชีพและฝีมือแรงงานให้แก่ ผู้สูงอายุ โดยเฉพาะจากฐานข้อมูลการสำรวจของอาสาสมัคร
ดูแลผู้สูงอายุที่บ้านและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านโดยดำเนินการร่วม กับ
(๑) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
กระทรวงมหาดไทย
(๒) สำนักทะเบียนราษฎร กรมการปกครอง
กระทรวงมหาดไทย
(๓) กระทรวงสาธารณสุข และ
(๔)
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
๓.ข้อเสนอแนะการทำ งานระยะยาว
๓.๑ พัฒนาและกำหนดเกณฑ์การประเมินผลด้านการจัดการดูแลและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูง
อายุ โดยหน่วยงานภาครัฐที่รับผิดชอบและหน่วยงานกลางอื่นๆ เช่น สมาคมสภาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทยใน
พระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
โดยเฉพาะอย่าง ยิ่งการกำหนดมาตรการการประเมินผลการทำงานของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจโดยกำหนดตัว ชี้วัดการประเมินผลการทำงานของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่มีการสนับสนุนหรือส่ง เสริมการจัดทำโครงการหรือกิจกรรมการพัฒนาหรือสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิต และอาชีพให้กับผู้สูงอายุในชุมชน เช่น การเพิ่มระดับการประกอบการเพื่อสังคมของสินค้าของผู้สูงอายุในชุมชน เป็นต้น
๓.๒ การพัฒนาศักยภาพของเจ้าหน้าที่ในการดำเนินการบริหารจัดการโครงการและการ
บริหารจัดการด้านการขอรับการสนับสนุนด้านงบประมาณจากกองทุนผู้สูงอายุและ ความร่วมมือกับภาคเอกชนในฐานะหุ้นส่วนทางสังคมโดยเสนอให้มีการจัดทำกฎหมาย
และมาตรการการสนับสนุนทั้งที่อยู่ในรูปแบบของการสนับสนุนด้วยเงินทุนและการ สนับสนุนโดยใช้มาตรการทางภาษีเพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับภาคเอกชนในการสนับ
สนุนด้านงบประมาณการดำเนินการในโครงการหรือกิจกรรมให้กับผู้สูงอายุ
๓.๓ การพัฒนากฎหมายระดับท้องถิ่นรองรับการดำเนินการในรูปแบบของโรงเรียนผู้สูง
อายุ และการดูแลผู้สูงอายุโดยชุมชน เพื่อให้เกิดเสถียรภาพและความคล่องตัวในการดำเนินการการบริหารจัดการด้านงบ
ประมาณโดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำเนินการของศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริม อาชีพผู้สูงอายุ
รวมทั้งโรงเรียนผู้สูงอายุ จึงขอเสนอดังนี้
๓.๓.๑ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ควรดำเนินการร่วมกับกรมส่งเสริม
การปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย เพื่อปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ
พ.ศ.๒๕๔๖ เพื่อรับรองสถานะทางกฎหมายของ ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ
และโรงเรียนผู้สูงอายุ
๓.๓.๒ การปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.๒๕๔๒ และกฎหมายจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งในส่วนของกรุงเทพมหานคร
เมืองพัทยา องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล โดยการกำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
มีอำนาจหน้าที่จัดระบบการบริการสาธารณะ การสังคมสงเคราะห์ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ
และสามารถจัดสรรงบประมาณของตนเองเพื่อดำเนินการ ดังกล่าวได้โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นออกข้อบัญญัติเทศบัญญัติ
ข้อกำหนด ระเบียบหรือประกาศ
เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีความชัดเจนของการดำเนินงานยิ่งขึ้นในการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุการจัด สรรงบประมาณและการดำเนินงานด้านการบริการสาธารณะ การสังคมสงเคราะห์ รวมทั้งการสนับสนุนการจัดทำโครงการเพื่อ ผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
๓.๔ การเตรียมความพร้อมเข้าสู่ระบบการจัดสวัสดิการและการสงเคราะห์ให้กับผู้สูง
อายุในระยะยาวโดยเสนอให้มีการดำเนินการ ดังนี้
๓.๔.๑ ประเมินสถานการณ์ความพร้อมและความครอบคลุมในการจัดทำมาตรการดูแลและพัฒนา
คุณภาพชีวิตผู้สูงอายุเพื่อประเมินถึงความสมดุลของมาตรการการจัดการดูแลและ พัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับผู้สูงอายุโดยเสนอให้มีการดำเนินการร่วมกับสถาบัน
วิจัยหรือสถาบันวิชาการในการประเมินสถานการณ์ดังกล่าวเพื่อนำไปสู่การจัดทำ แผนการดำเนินการเพื่อการดูแลและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับผู้สูงอายุและผู้ที่
กำลังจะเข้าสู่วัยผู้สูงอายุอีกทั้งเสนอให้มีการดำเนินการร่วมกับกระทรวงแรง งานและกระทรวงการคลังในการดำเนินการเพื่อรองรับมาตรการการพัฒนาคุณภาพชีวิต
ด้านเศรษฐกิจและรายได้ให้กับ ผู้สูงอายุ โดยจัดให้มีระบบสวัสดิการกึ่งสงเคราะห์หรือระบบสวัสดิการแบบถ้วนหน้าอย่าง
ก้าวหน้า (Progressive Universalism) และจัดให้มีการพัฒนาอาชีพจากภูมิปัญญาของผู้สูงอายุในแต่ละท้องถิ่นเป็น
สำคัญ
๓.๔.๒ ประเมินความพร้อมการจัดทำมาตรการเพื่อรองรับการปฏิรูประบบการดูแลผู้สูงอายุ
ด้านสังคมและคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นด้านที่อยู่อาศัย โดยเสนอให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดำเนินการร่วมกับ
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงสาธารณสุข และชมรมผู้สูงอายุ ในการพัฒนาคุณภาพชีวิต
การเพิ่มระดับความสุขและคุณค่าชีวิตของผู้สูงอายุในกลุ่มผู้สูงอายุ ที่อยู่ในสถานสงเคราะห์คนชราและศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ
สวัสดิการทางสังคมรวมทั้งการจัดทำมาตรการเพื่อสนับสนุนให้ชุมชนเข้ามามี บทบาทดูแลผู้สูงอายุในสถานสงเคราะห์คนชราอีกทั้งสนับสนุนให้สถานสงเคราะห์คน
ชราได้มีบทบาทในการดูแลผู้สูงอายุในชุมชนและให้ผู้สูงอายุในชุมชนได้มีส่วน ร่วมกับกิจกรรมของสถานสงเคราะห์คนชรา
๓.๔.๓ การเตรียมความพร้อมการเข้าถึงบริการสาธารณะ (Accessibility)
๓.๔.๔ การให้สวัสดิการบัตรเงินสดที่กำหนดวงเงินให้แก่ผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นการทดแทนการจ่ายสวัสดิการบางประการของรัฐให้แก่ผู้สูงอายุ
เช่น เพื่อการลดหย่อนค่าสินค้าอุปโภค-บริโภค เพื่อการใช้จ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาลในส่วนที่เกินสิทธิการรักษาพยาบาลขั้น
พื้นฐานที่รัฐจัดให้แก่ประชาชนทั้งด้านสิทธิการรักษาตามหลักประกันสุขภาพแบบ ถ้วนหน้า
สิทธิการรักษาของข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ สิทธิประกันสังคม เช่น
ค่ายาที่อยู่นอกบัญชียาหลักแห่งชาติ ค่าอุปกรณ์การแพทย์ เป็นต้น ทั้งนี้ รัฐต้องให้ความสำคัญอย่างจริงจังในการจัดระบบการให้สวัสดิการบัตรเงินสดและ
มีการประเมินและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ รายงานฉบับนี้ ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
ได้มีมติเห็นชอบกับรายงานการพิจารณาศึกษา ของคณะกรรมาธิการและแจ้งไปยังคณะรัฐมนตรีต่อไป
ร่วมแสดงความ คิดเห็นได้ที่คณะกรรมาธิการสังคม กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการและผู้ด้อยโอกาส สภานิติบัญญัติแห่งชาติ โทร.๐๒-๘๓๑๙๒๒๕-๖ โทรสาร ๐๒-๘๓๑๙๒๒๖ |
เพื่อประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับวงงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น : ฅนเทศบาล
เมนูหลัก
ข่าวท้องถิ่น
ระเบียบบริหารงานบุคคลของพนักงานส่วนท้องถิ่น
มาตรฐานกำหนดคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งพนักงานส่วนท้องถิ่น
มาตรฐานการบริหารงานบุคคลพนักงานส่วนท้องถิ่น
วันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2559
คอลัมน์ สถานีพัฒนาสังคม: การดูแลผู้สูงอายุในประเทศไทย : ปัญหาและข้อเสนอแนะ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น