วันจันทร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

สายตรงท้องถิ่น: การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

สายตรงท้องถิ่น: การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 
สยามรัฐ  ฉบับวันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๐

          ศ.ดร.โกวิทย์ พวงงาม
          ผลจากการดำเนินงานในโครงการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดร้อยเอ็ด ได้พบข้อเสนอจากความคิดเห็นของประชาชนเพื่อให้มีการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) โดยนำบทเรียนข้อเสนอของประชาชนจังหวัดร้อยเอ็ดไปประยุกต์ใช้ในแต่ละองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีดังต่อไปนี้
          ประการที่ 1 การปรับปรุงการให้บริการและการทำงานของบุคลากร เจ้าหน้าที่ และพนักงานท้องถิ่น
          1.ประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ร้อยละ 50 ระบุเรียกร้องให้มีการปรับปรุงการให้บริการประชาชนของ อปท. ในจังหวัดร้อยเอ็ดว่าเจ้าหน้าที่ หรือบุคลากรที่ให้บริการไม่มีความกระตือรือร้นในการให้บริการ ไม่ตรงต่อเวลา ตรงต่อหน้าที่ และไม่มีจิตวิญญาณในการให้บริการ(Public Mind) และเสนอแนวทางการให้บริการว่า ควรมีความเต็มใจยิ้มแย้มแจ่มใส ให้บริการอย่างเป็นธรรมโดยไม่เลือกปฏิบัติ
          2.ประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ร้อยละ 30 ระบุให้ อปท. ในจังหวัดร้อยเอ็ด ให้ข้อมูลเกี่ยวกับหน้าที่ความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ บุคลากรที่ทำงานใน อปท. ให้ชัดเจน รวมทั้งการให้บริการแก่ประชาชนเกี่ยวกับงานต่างๆ ใน อปท. ระบุเวลาในการมาติดต่อว่า จะให้บริการแล้วเสร็จภายในเวลากี่นาที หรือในเวลาเท่าไหร่ เพื่อให้มีความชัดเจนในการให้บริการ
          ประการที่ 2 การพัฒนาบุคลากร เจ้าหน้าที่ พนักงานท้องถิ่นประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ร้อยละ 40 ระบุ มีความต้องการให้มีการจัดฝึกอบรมเจ้าหน้าที่และบุคลากรใน อปท. เกี่ยวกับคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของ อปท. ตลอดจนแนวทางการป้องกันการทุจริต นอกจากนี้ต้องการ อปท. จัดฝึกอบรมให้กับประชาชนให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการทำงานและบริหารงานของ อปท.ให้ทราบ
          ประการที่ 3 การบริหารงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและความโปร่งใส
          1.ประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ อปท. จังหวัดร้อยเอ็ด ร้อยละ 50 ระบุถึงการให้ อปท. เปิดเผยข้อมูลข่าวสารต่างๆ ใน อปท.ให้ประชาชนทราบ เช่น ข้อมูลงบประมาณ รายรับ-รายจ่าย ข้อมูลการดำเนินงานโครงการ และกิจกรรมต่างๆ ข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างและข้อมูลการรายงานผลการดำเนินงานของ อปท. ในรอบปี เป็นต้นตลอดจนเปิดช่องทางให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้อย่างทั่วถึง
          2.ประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ร้อยละ 30 ระบุว่า บุคลากรและเจ้าหน้าที่ใน อปท. มีจำนวนมากเกินความจำเป็น และเรียกร้องให้บาง อปท. พิจารณาให้ลดเจ้าหน้าที่และบุคลากรลงไปบ้าง
          3.ประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ระบุถึงการรับสมัครพนักงานและบุคลากรเข้าทำงานใน อปท. ในจังหวัดร้อยเอ็ด ควรมีกลไกแสดงถึงความโปร่งใส หรือมีตัวแทนภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อป้องกันไม่ให้มีระบบอุปถัมภ์หรือแต่งตั้งจากพวกพ้องเข้าทำงานในตำแหน่งต่างๆ
          4.ประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ร้อยละ 40 ระบุ ให้ อปท. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันการทุจริต โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมในการตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้าง การมีส่วนร่วมในการดำเนินการตรวจสอบการดำเนินการต่างๆ ของอปท. และเสนอให้รางวัลแก่บุคลากรที่ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีความโปร่งใส มีความรับผิดชอบ และมีคุณธรรมจริยธรรมของหน่วยงานเป็นที่ประจักษ์
          5.ประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ร้อยละ50 เรียกร้องให้ อปท. แจ้งผลการดำเนินงานและการดำเนินโครงการให้ประชาชนทราบในแต่ละปี โดยเผยแพร่ข้อมูลผ่านช่องทางที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้สะดวก
          ประการที่ 4 การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของ อปท. ให้ต่อเนื่อง
          ประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ร้อยละ40 ระบุเรียกร้องให้มีการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของ อปท.ให้ต่อเนื่องทุกๆ ปี เพื่อจะทำให้ อปท. มีความตื่นตัว และถือเป็นการตรวจสอบการดำเนินงานของ อปท.
          ประการที่ 5 การสร้างภาพลักษณ์ขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ด้านการบริหารจัดการที่มีคุณธรรมและความโปร่งใส
          การสร้างภาพลักษณ์ตามกรอบดัชนีชี้วัดทั้ง 5 ด้านที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ต้องนำไปปรับปรุงและพัฒนา อปท. ของตนเอง มีดังนี้
          1.ดัชนีชี้วัดด้านความโปร่งใส ประชาชนในจังหวัดร้อยเอ็ดเสนอให้ อปท. ต้องเปิดเผยข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานให้ประชาชนทราบ โดยผ่านช่องทางการสื่อสารต่างๆ ให้หลากหลาย เช่นข้อมูลงบประมาณ การใช้จ่ายงบประมาณ ข้อมูลการดำเนินโครงการและข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้าง เป็นต้น รวมทั้ง การเปิดให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมต่อการดำเนินงานด้านต่างๆ ตลอดจนให้ อปท. ตอบสนองข้อร้องเรียนให้ทันท่วงทีตามเวลาที่เหมาะสม
          2.ดัชนีชี้วัดด้านความพร้อมรับผิด ให้ อปท. ในจังหวัดร้อยเอ็ดพัฒนาบุคลากร เจ้าหน้าที่ พนักงานท้องถิ่น ให้มีจิตสำนึกที่ดีในการให้บริการประชาชน โดยเฉพาะความเป็นมิตรกับประชาชน และเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในประเมินผลการปฏิบัติงาน
          3.ดัชนีชี้วัดด้านคุณธรรมการให้บริการของหน่วยงานประชาชนในจังหวัดร้อยเอ็ดคาดหวังให้อปท.ให้บริการประชาชนอย่างเป็นธรรมและมีความเสมอภาคไม่เลือกปฏิบัติและลดระบบเครือญาติพวกพ้องลงไป
          4.ดัชนีชี้วัดด้านวัฒนธรรมคุณธรรมในองค์กร ให้ อปท. ในจังหวัดร้อยเอ็ด วางแนวทางในการพัฒนาปลูกฝังค่านิยมการเสียสละ การทำงานโดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ส่วนตัว โดยเฉพาะการอุทิศตนเพื่อประโยชน์ขององค์กร ไม่เบียดบังเวลาราชการ และรักในหน้าที่ของตนเอง
          5.ดัชนีด้านคุณธรรมการทำงานในหน่วยงาน ประชาชนในจังหวัดร้อยเอ็ดเรียกร้องให้ ระบบการคัดเลือกบุคลากร พนักงานท้องถิ่น เข้าทำงานใน อปท. ต้องมีระบบคุณธรรมและดำเนินการเพื่อหาวิธีการเพื่อเกิดความโปร่งใส
          ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลที่ได้จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ เฉพาะในกรณีของ อปท. ในจังหวัดร้อยเอ็ด โดยได้ดำเนินการเก็บข้อมูลในปี 2559 ซึ่งเห็นว่า ข้อมูลบางส่วนที่นำมาเสนอ น่าจะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของ อปท. ในการนำไปประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาและปรับปรุงใน อปท. อื่นๆ ได้ต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น