วันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

งาน'แห่พระแข่งเรือ'วุ่น! นายกเล็กเมืองหลังสวนสั่งรื้อร้านค้าหลังนายทุนปิดถนนหาผลประโยชน์

งาน'แห่พระแข่งเรือ'วุ่น! นายกเล็กเมืองหลังสวนสั่งรื้อร้านค้าหลังนายทุนปิดถนนหาผลประโยชน์
ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

          ชุมพร * งานแห่พระแข่งเรือวุ่น นายกเล็กเมืองหลังสวนแจ้งความดำเนินคดีพร้อมออกคำสั่งรื้อถอนเต็นท์ขายสินค้าถูกนายทุนยึดถนนสายหลักเกือบ 500 เมตร วอน สตง.ตรวจสอบ ด้านผู้ว่าฯ ชุมพรเผยไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เป็นประธานเปิดเท่านั้น
          เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กรณีงานแห่พระแข่งเรือขึ้นโขนชิงธง ชิงโล่และถ้วยพระราชทาน ครั้งที่ 174 ประจำปี 2560 ระหว่างวันที่ 9-13 พ.ย. ซึ่งถือเป็นต้นกำเนิดขึ้นโขนชิงธงหนึ่งเดียวในประเทศไทย ล่าสุดได้เกิดกระแสตำหนิถึงความไม่บังควรและความเหมาะสมของการจัดงานดังกล่าวที่จัดไม่ตรงกับช่วงเทศกาลที่สืบทอดกันมายาวนานเกือบ 200 ปี และมีนายทุนอ้างผู้ว่าราชการจังหวัด ชุมพรใช้อภิสิทธิ์ปิดถนนสายหลักเกือบครึ่งกิโลเมตรกางเต็นท์เพื่อแบ่งพื้นที่ขายของให้กับพ่อค้าแม่ค้าจับจองในงานโดยไม่ได้รับอนุญาต จนนายกเทศมนตรีเมืองหลังสวนออกคำสั่งให้รื้อถอนและแจ้งความดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง พร้อมกับเรียกร้องให้หน่วยงานเกี่ยวข้องตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลดังกล่าว
          นายอัชฌา แดงกนิษฐ์ นายกเทศมนตรีเมืองหลังสวน กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นสืบเนื่องจากปกติงานแห่พระแข่งเรือขึ้นโขน ชิงธงชิงโล่และถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และพระบรมวงศานุวงศ์ เป็นงานยิ่งใหญ่ระดับประเทศที่จัดอย่างสมพระเกียรติ สืบทอดมาแล้ว 173 ปี จะจัดตรงกับปฏิทินไทย แรม 1 ค่ำ เดือน 11 ของทุกๆ ปี ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 6 ตุลาคม 2560 แต่ไม่สามารถจัดได้ เนื่องจากเป็นช่วงที่พสกนิกรชาวไทยอยู่ในช่วงแสดงความอาลัยแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 หลายจังหวัดจึงงดจัดงานและเลื่อนไปจัดในปีต่อไป
          นายอัชฌากล่าวว่า ต่อมาได้มีหนังสือจากทางจังหวัดขอใช้สถานที่จัดงานแห่พระแข่งเรือขึ้นโขนชิงธง มรดกแห่งลุ่มน้ำหลังสวน ซึ่งตนเห็นว่าเดือนนี้ไม่ใช่เทศกาลงานประเพณีดังกล่าวแล้ว และเป็นช่วงที่โรงเรียนเปิดเทอม จะส่งผลกระทบด้านการจราจร ตนจึงอนุญาตให้ใช้สถานที่บริเวณถนนคอนกรีต 2 ฝั่งแม่น้ำหลังสวน ตรงจุดแข่งขันเรือยาว และถนนซอยบ้านพักนายอำเภอหลังสวนเป็นที่จัดงานและจำหน่ายสินค้า
          แต่ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการนำเต็นท์มาวางปิดถนนสายหลังสวนตั้งแต่สะพานลอดรางรถไฟไปจนถึงหน้าเรือนจำหลังสวน ระยะทางกว่า 400 เมตร ซึ่งมีโรงเรียนประจำอำเภอ หน่วยงานราชการหลายแห่ง เป็นถนนสายหลัก การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ต้องใช้ทางเลี่ยง ประชาชนร้องเรียนถึงความเดือดร้อนจำนวนมาก ตนจึงแจ้งไปยังอำเภอหลังสวน และแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.หลังสวนกับผู้ประกอบการที่นำเต็นท์มาวาง พร้อมกับออกหนังสือคำสั่งปิดประกาศถึงผู้ประกอบการให้รื้อถอนเต็นท์ทั้งหมด แต่จนถึงวันนี้หน่วยที่เกี่ยวข้องกลับนิ่งเฉย ตนจึงต้องทำหนังสือถึงผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 44 เพื่อขอกำลังเจ้าหน้าที่มาบังคับใช้กฎหมายต่อไป
          นายอัชฌากล่าวต่อว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่า งานครั้งนี้องค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพรตั้งงบกว่า 3 ล้านบาท แต่เหตุใดชื่องานจึงเปลี่ยนมาใช้ชื่อว่า "งานประเพณีแข่งขันเรือยาวขึ้นโขนชิงธง มรดกลุ่มน้ำหลังสวน ครั้งที่ 174 ประจำปี 2560" คำว่า "ชิงโล่และถ้วยพระราชทาน" หายไปไหน รวมทั้งป้ายประชาสัมพันธ์ตามจุดต่างๆ ก็ไม่มีชื่อดังกล่าวเช่นกัน แต่มีการมอบโล่และถ้วยพระราชทาน ซึ่งมีเรือเข้าแข่งขันชิงโล่และถ้วยพระทานเพียง 9 ลำเท่านั้น ทั้งที่ผ่านมาการจัดงานจะมีเรือจากทั่วประเทศเข้าแข่งขันจำนวนมาก จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบการจัดงานว่ามีการแอบอ้างและจัดถูกต้องธรรมเนียมปฏิบัติหรือไม่ อย่างไร และขอให้ สตง.ช่วยตรวจสอบด้วยว่าได้ใช้งบประมาณตรงตามโครงการที่จัดงานหรือไม่
          นายณรงค์ พลละเอียด ผู้ว่าฯ ชุมพร กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดงานดังกล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งชื่องานตามที่มีการสงสัยกัน และการวางเต็นท์ปิดถนนเพื่อจำหน่ายสินค้า ตนเพียงได้รับเชิญมาเป็นประธานในพิธีเปิดงานเท่านั้น ที่ผ่านมาได้ให้ทุกฝ่ายทั้ง อบจ.ชุมพร อำเภอหลังสวน และเทศบาลเมืองหลังสวน ไปตกลงกันเองว่าจะใช้สถานที่ใดจัดงานให้เป็นไปตามความเหมาะสม และหลีกเลี่ยงการจราจรไม่ให้เกิดปัญหากับประชาชน แต่ถ้าเกิดปัญหาขึ้นมาก็ว่ากันไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น