'คนท้องถิ่น'ระทึก-ส่อขาดงบรักษา เงินกองทุนไม่พอ-จี้สปสช.ทดรองจ่าย เล็งขอรัฐเพิ่ม-เทียบเท่าขรก.พลเรือน

'คนท้องถิ่น'ระทึก-ส่อขาดงบรักษา เงินกองทุนไม่พอ-จี้สปสช.ทดรองจ่าย เล็งขอรัฐเพิ่ม-เทียบเท่าขรก.พลเรือน

มติชน (กรอบบ่าย)  ฉบับวันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๖๐

นายศักดิพงศ์ ธรรมอาชวกุล ประธานสมาพันธ์ปลัดเทศบาลแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ชี้แจงแนวทางการใช้งบประมาณปี 2560 สำหรับกองทุนค่ารักษาพยาบาลข้าราชการท้องถิ่น ซึ่งอาจมีปัญหางบประมาณที่ได้รับการจัดสรรไม่เพียงพอ หลังจากปีงบประมาณ 2560 ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559-กันยายน 2560 องค์การปกครองท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศกำหนดวงเงินไว้ 6,348,046,000 บาท แต่ได้รับการจัดสรรจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพียง 4,567,500,000 บาท ล่าสุด มียอดเงินกองทุนเหลือเพียง 262,182,968 บาท คาดว่าก่อนสิ้นปีงบประมาณในเดือนกันยายนเงินกองทุนที่เหลือจะไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลให้ข้าราชการพนักงานท้องถิ่น จากเดิมเฉลี่ยใช้จ่ายเดือนละกว่า 400 ล้านบาท           "บันทึกข้อตกลงเดิม ระบุว่าหากในปีงบประมาณเงินกองทุนฯไม่เพียงพอ กำหนดให้ สปสช.สำรองจ่ายไปก่อน จากนั้น กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) จะตั้งงบประมาณทดแทนคืนให้ แต่ สปสช.แจ้งว่า กฎหมาย สปสช.ไม่สามารถดึงเงินจากกองทุนฯ อื่นมาสำรองจ่ายทดแทนให้กองทุนค่ารักษาพยาบาลข้าราชการ ท้องถิ่นได้ สปสช.จึงเสนอแก้ไขบันทึกข้อตกลงใหม่ เนื่องจากบันทึกเดิมขัดกฎหมายและมติกรรมการ สปสช. และ สปสช.เสนอให้ ท้องถิ่นของบฯกลางจากนายกรัฐมนตรี และสำนักงบประมาณ แต่ได้รับการยืนยันว่างบฯกลางมีจำนวนจำกัด จะใช้จ่ายเฉพาะเรื่อง เร่งด่วนตามนโยบายของรัฐบาล" นายศักดิพงศ์กล่าว และว่า           เพื่อแก้ปัญหาในระยะสั้น สปสช.ควรดำเนินการตามหลักการที่กำหนด เนื่องจากกรรมการ สปสช.มีอิสระพอสมควร หากนำงบประมาณจากส่วนอื่นมาทดรองจ่ายไปก่อน น่าจะบรรเทาความเดือดร้อนได้ เนื่องจาก สปสช.เข้ามาบริหารจัดการเงินกองทุนฯ โดยคิดค่าใช้จ่ายเพื่อดำเนินการร้อยละ 1.50 และในอนาคตรัฐบาลต้องตระหนักถึงบทบาทการทำหน้าที่ของข้าราชการท้องถิ่นเช่นเดียวกับข้าราชการพลเรือนในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค โดยจัดสรรงบฯให้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลรายปี รวมทั้งการจัดตั้งกองทุนเงินเดือนและสวัสดิการข้าราชการท้องถิ่น เพื่อให้มีงบประมาณในการดูแลสิทธิต่างๆ ให้มีความเท่าเทียมกัน