วันพุธที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2560

บิ๊กอปท.ระส่ำ-ส.ท.ท.ค้าน2วาระ ข้องใจไม่เขียน'บทเฉพาะกาล'ส่อเว้นวรรคอื้อ-ชี้จำกัดสิทธิปชช.

บิ๊กอปท.ระส่ำ-ส.ท.ท.ค้าน2วาระ ข้องใจไม่เขียน'บทเฉพาะกาล'ส่อเว้นวรรคอื้อ-ชี้จำกัดสิทธิปชช.

มติชน  ฉบับวันที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๖๐

          นายประเสริฐ วชิรเขื่อนขันธ์ นายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย (ส.ท.ท.) เปิดเผยว่า มีผู้บริหารองค์กรปกครองท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศสอบถามประเด็นร้อนจากการประชุมวิชาการและประชุมใหญ่ของ ส.ท.ท.เรื่องวาระการดำรงตำแหน่งของผู้บริหารท้องถิ่นตามที่บัญญัติในร่างประมวลกฎหมาย อปท.ที่ผ่านความเห็นชอบของสมาชิกสภาปฏิรูปประเทศ ซึ่งมาตรา 60 วรรคสอง "ให้ผู้บริหารท้องถิ่นดำรงตำแหน่งนับแต่วันเลือกตั้งและมีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละ 4 ปี แต่จะดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกินสองวาระไม่ได้" นั้น ผู้บริหารท้องถิ่นที่ดำรงตำแหน่งในปัจจุบันมาสองวาระแล้ว สามารถลงสมัครเป็นนายกเทศมนตรีอีกได้หรือไม่, จะเริ่มนับวาระการดำรงตำแหน่งเมื่อใด, กฎหมายจะมีผลย้อนหลังหรือไม่ ซึ่งจากการพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวและพูดคุยกับนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ นายบุญส่ง น้อยโสภณ กรรมการเลือกตั้ง และนายวัลลภ พริ้งพงษ์ ประธานคณะอนุกรรมาธิการปฏิรูปท้องถิ่นผู้ยกร่างกฎหมายดังกล่าว มีข้อสรุปว่าตามมาตรา 60 เขียนชัดเจนว่า "จะดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกินสองวาระไม่ได้" หมายถึงนายกเทศมนตรีที่ทำหน้าที่แล้วติดต่อกันสองวาระ ไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้อีกจึงต้องเว้นวรรค
          "ปกติการบัญญัติกฎหมายควรมีบทเฉพาะกาลเขียนไว้ แต่ร่างประมวลกฎหมายฉบับนี้ไม่มีบทเฉพาะกาลว่ากฎหมายมีผลเริ่มเมื่อไหร่ แสดงว่าถ้าร่างประมวลกฎหมายฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยไม่มีการตัดหรือแก้ไขข้อความเรื่องสองวาระออกไป จะทำให้นายกเทศมนตรีที่ดำรงตำแหน่งสองวาระติดต่อกันไม่สามารถลงสมัครเป็นนายกเทศมนตรีได้ ต้องเว้นวรรคหนึ่งสมัย ทำไมต้องเขียนกฎหมายจำกัดสิทธิของผู้บริหารท้องถิ่น เท่ากับจำกัดสิทธิของประชาชนในเขต อปท.ในการเลือกผู้แทนซึ่ง ส.ท.ท.โต้แย้งและคัดค้านเพื่อให้แก้ไขตัดข้อความเรื่องดังกล่าวออก เพื่อเคารพสิทธิของประชาชนในการใช้สิทธิเลือก ผู้แทน ส่วนผลจะเป็นอย่างไรต้องติดตาม ต่อไป" นายประเสริฐกล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น