วันพฤหัสบดีที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2560

มท.หนุน'ม.44'ปฏิรูปอปท. แก้สอบบรรจุ-โอนขรก.ท้องถิ่น 'อัษฎางค์'ชี้ลางระบบอุปถัมภ์

มท.หนุน'ม.44'ปฏิรูปอปท. แก้สอบบรรจุ-โอนขรก.ท้องถิ่น 'อัษฎางค์'ชี้ลางระบบอุปถัมภ์ 

มติชน  ฉบับวันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๖๐

          นายศักดิพงศ์ ธรรมอาชวกุล ประธานสมาพันธ์ปลัดเทศบาลแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะ คสช. ใช้มาตรา 44 แก้ปัญหาการสอบบรรจุบุคคลเข้ารับราชการท้องถิ่น การบริหารงานบุคคลท้องถิ่นในองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ตามคำสั่งที่ 8/2560 นั้น ล่าสุดรองปลัดกระทรวงมหาดไทย (มท.) มีหนังสือด่วนที่สุดแจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศรับทราบแนวทางขับเคลื่อนการปฏิรูปท้องถิ่นด้านการบริหารงานบุคคล โดยยึดคำสั่ง คสช.มีสถานะทางกฎหมายจนกว่าจะมีการแก้ไข หรือยกเลิกเรื่องการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุแต่งตั้ง การคัดเลือก การสอบคัดเลือก การโอนข้าราชการท้องถิ่นเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการกลางข้าราชการ หรือพนักงานส่วนท้องถิ่น
          "ก.กลางจะทำหน้าที่เฉพาะกระบวนการสอบเพื่อแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการ การคัดเลือก และการสอบคัดเลือกในตำแหน่งประเภทอำนวยการท้องถิ่น บริหารท้องถิ่น และสายงานบริหารสถานศึกษา และการโอนไปสังกัด อปท.อื่น กรณีมีเหตุจำเป็น สำหรับการโอนในตำแหน่งและระดับเดียวกัน การสอบคัดเลือกเปลี่ยนสายงานจากประเภททั่วไปเป็นวิชาการ การประเมินเพื่อเลื่อนระดับตำแหน่งประเภททั่วไปและวิชาการ การจัดตั้งส่วนราชการอื่นๆ ให้เป็นไปตามความเหมาะสมของแต่ละ อปท."
          นายศักดิพงศ์กล่าวอีกว่า การโอนกรณีมีความจำเป็น หากผู้บริหารท้องถิ่นไม่ดำเนินการตามมติคณะกรรมการกลางภายใน 45 วัน ให้รายงานผู้ว่าฯ รายงานถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยโดยไม่ต้องสอบสวน และให้รัฐมนตรีสั่งการตามที่เห็นสมควร สำหรับกรณีที่ อบต.และ อบจ.ทั่วประเทศประกาศสมัครสอบคัดเลือกตำแหน่งบริหารอำนวยการท้องถิ่นไปแล้ว แต่คำสั่ง คสช.ประกาศในราชกิจจานุเบกษา มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก.กลางได้นัดประชุมร่วมกันเพื่อหาแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน ซึ่งอาจมีการเริ่มต้นกระบวนการใหม่ทั้งหมด เพื่อมิให้กระทบขั้นตอนการเข้าสู่ตำแหน่ง
          ด้านนายอัษฎางค์ ปาณิกบุตร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ก.อบต.กลาง กล่าวว่า การออกคำสั่ง คสช.เพื่อจัดระเบียบการบริหารงานบุคคล อาจทำให้กระทบกำลังใจเจ้าหน้าที่ อปท.ทั่วประเทศ และเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เพียงต้องการล้างระบบอุปภัมภ์ ทั้งที่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏ อปท.ส่วนใหญ่มีคนล้นงาน ไม่สอดคล้องกับภารกิจหน้าที่ มีผลกระทบกับงบประมาณที่จะนำไป พัฒนาท้องถิ่น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น