วันพุธที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

สัมภาษณ์: เกรียงไกร ภูมิเหล่าแจ้ง นายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย 'เร่งคืนความเป็นธรรมให้ผู้บริหารท้องถิ่น'


สัมภาษณ์: เกรียงไกร ภูมิเหล่าแจ้ง นายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย 'เร่งคืนความเป็นธรรมให้ผู้บริหารท้องถิ่น'
มติชน (กรอบบ่าย)  ฉบับวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๙

          ชมพิศ ปิ่นเมือง
          ภาย หลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. อาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ออกประกาศฉบับ 16/2558 ลงวันที่ 15 พฤษภาคม 2558 เรื่องมาตรการแก้ไขปัญหาเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบ มีผลให้ผู้บริหารองค์กรปกครองท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศ กว่า 60 ราย ที่มีปัญหาถูกร้องเรียนต้องหยุดทำหน้าที่ชั่วคราว ระหว่างรอผลการตรวจสอบ
          กระทั่ง ล่าสุด ขั้นตอนการตรวจสอบข้อเท็จจริงในชุดแรกๆ มีผลการสอบสวน เกรียงไกร ภูมิเหล่าแจ้ง นายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย (ส.ท.ท.) ในฐานะพี่ใหญ่ของกลุ่มผู้บริหารท้องถิ่นออกมาเรียกร้องรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เร่งกระบวนการคืนตำแหน่งที่ผู้บริหารท้องถิ่นที่พ้นมลทิน ปลดล็อกให้กลับมาทำหน้าที่ตามปกติ
          เกรียงไกร ภูมิเหล่าแจ้ง นายกเทศมนตรีตำบลยางตลาด อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ในฐานะนายก ส.ท.ท. ต่อเรื่องนี้อีกครั้งว่า หลัง พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศใช้มาตรา 44 กับผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) หลายแห่ง ในข้อหาเกี่ยวกับการทุจริตนั้นหากผู้บริหาร อปท.มีความผิดจริง สมาชิก ส.ท.ยินดีน้อมรับคำวินิจฉัย แต่หากผลการสอบชี้ชัดว่าไม่มีความผิด ควรรีบคืนตำแหน่งหรือคืนความชอบธรรมให้ผู้บริหาร อปท.ดังกล่าวโดยเร็ว เนื่องจากการมีรายชื่อติดโผมาตรา 44 เป็นเรื่องบั่นทอนเสถียรภาพทางการเมือง สร้างความเสื่อมเสียต่อวงศ์ตระกูลเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสิ่งที่สำคัญกว่านั้น คือ ทำให้ท้องถิ่นที่ขาด ผู้บริหารมีการพัฒนาล่าช้า ประชาชนเสียประโยชน์ ไม่ได้รับการดูแล กลายเป็นตราบาปติดตัวผู้บริหาร อปท. ผลงาน คุณงามความดีที่เคยทำมา แทบไม่เหลือค่าอะไร
          "ทุกคนที่เข้ามาเป็นผู้บริหารท้องถิ่นมี วิสัยทัศน์ที่ดี เป็นผู้ที่เสียสละความสุขส่วนตัว เพื่อนำพาพี่น้องประชาชนอยู่ดีกินดี มีความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน ไม่แตกต่างจากท่านนายกรัฐมนตรี ที่มุ่งหวังให้ประเทศชาติมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ซึ่งผู้บริหารท้องถิ่นเป็นอีกฟันเฟืองหนึ่งที่อยู่ใกล้ชิดกับชาวบ้าน สามารถสนองงานคอยประสานผลประโยชน์ ช่วยรัฐบาลขับเคลื่อนทุกนโยบายอย่างเข้าถึงชาวบ้านที่สุด เพราะผู้บริหารท้องถิ่นมาจากการเลือกตั้ง โดยตรงของชาวบ้าน เป็นบุคคลที่ชาวบ้านจะฝากผีฝากไข้ได้ทุกเรื่อง ดังนั้น ส.ท.ท.ไทย รวมถึงประชาชน มีความเชื่อมั่นในตัวท่านนายกฯเอาใจช่วยท่าน ให้กำลังใจท่านบริหารประเทศมาโดยตลอด เชื่อว่าท่านเป็นผู้ทรงธรรม ทั้งคุณธรรม จริยธรรม และความชอบธรรม จึงเรียกร้องให้ พิจารณาคืนความเป็นธรรมให้ผู้บริหารท้องถิ่น ที่ผลสอบออกมาว่าไม่มีความผิดโดยเร็ว ถ้าประวิงเวลานานไป ประเทศชาติจะยิ่งได้รับความเสียหาย ประชาชนได้รับความเดือดร้อนยิ่งขึ้น เพราะ
ท้องถิ่นที่ไม่มีผู้นำ ไม่ต่างจากเรือที่ขาดหางเสือ ขยับเคลื่อนไหวไม่ได้ มีแต่จะจมเท่านั้น ท้องถิ่นจึงจำเป็นต้องมีผู้นำ"
          นายก ส.ท.ท. กล่าวอีกว่า ไม่เพียงแต่กลุ่ม ผู้บริหารท้องถิ่นเท่านั้น การออกมาเรียกร้องครั้งนี้ ยังหมายรวมถึงบุคลากรภาครัฐ ข้าราชการ ที่ผ่านการสอบและพ้นมลทินแล้ว ควรได้รับอิสรภาพ กลับคืนสู่ตำแหน่ง เพื่อทำหน้าที่บริหารงาน และบริการประชาชนต่อไป
          "สมาคม ส.ท.ท.ทั่วประเทศ 2,440 แห่ง น้อมรับนโยบายและการบริหารของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เดินตามโรดแมปตามที่ประกาศสัญญาประชาคมแต่แรก ส.ท.ท.ต้องการให้ทุกภาคส่วน ทั้งนักวิชาการ นักการเมืองเก่า จากหลายๆ พรรค มาช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ช่วยกันเสนอสิ่งดีๆ เพื่อพัฒนาบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้า ไม่ใช่ตั้งแง่จับผิดขัดแย้ง จะทำให้เกิดปัญหาทะเลาะเบาะแว้งไม่จบสิ้น หากต้องช่วยกันประคับประคอง ให้ก้าวผ่านหลุมบ่ออุปสรรคต่างๆ นานา ก้าวพ้นวิกฤตการเมืองด้วยความราบรื่น
          ทุก คนต้องมีสามัญสำนึก มีธงที่ต้องเดินไปให้ถึง คือ ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ตามบรรทัดฐานคืนความสุขให้ประชาชนชาวไทย ที่ คสช.ประกาศไว้" นายก ส.ท.ท. กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น