วันพฤหัสบดีที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2560

ดย.ผุดสภาเด็กฯ ตำบล-เทศบาลทุกพื้นที่ ดึง อปท.ช่วยขับเคลื่อนงาน หนุนเยาวชนแก้ปัญหา-เป็นจิตอาสาชุมชน

ดย.ผุดสภาเด็กฯ ตำบล-เทศบาลทุกพื้นที่ ดึง อปท.ช่วยขับเคลื่อนงาน หนุนเยาวชนแก้ปัญหา-เป็นจิตอาสาชุมชน
ไทยรัฐ (กรอบบ่าย)  ฉบับวันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๖๐

          นายวิทัศน์ เตชะบุญ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ (ฉบับที่2) พ.ศ.2560 ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2560 กำหนดให้ดำเนินการจัดตั้งสภาเด็กและเยาวชนระดับต่างๆ ขณะนี้ ดย.ได้ดำเนินการให้มีการคัดเลือกสภาเด็กและเยาวชนตำบล และสภาเด็กและเยาวชนเทศบาลเกือบครบทุกพื้นที่แล้วจำนวน 7,774 แห่ง เหลือเพียงพื้นที่เดียวที่ อบต.บ่อนอก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ยังติดปัญหาภายในเล็กน้อย แต่ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอพยายามเร่งรัดดำเนินการและหลังจากนี้วันที่ 23 ก.ย. จะดำเนินการคัดเลือกสภาเด็กและเยาวชนอำเภอ 878 อำเภอ และสภาเด็กและเยาวชนเขต กทม. 50 เขต ซึ่งต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 150 วัน ตามพ.ร.บ.กำหนด ส่วนสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดจะเริ่มคัดเลือก วันที่ 4 พ.ย.
          อธิบดี ดย.กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ ดย.ได้ประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และทีมพม.ในพื้นที่เร่งสร้างความรู้ความเข้าใจกับสภาเด็กฯ ตำบลและเทศบาลในการจัดประชุม จัดทำแผนงานโครงการกิจกรรมรวมถึงการติดตามประเมินผลในรอบปี เพื่อเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนงานของสภาเด็กฯ ตำบลและเทศบาล ซึ่งบางพื้นที่มีความเข้มแข็งและมีการดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ก็คงไม่มีปัญหา ขณะที่บางพื้นที่ยังใหม่มีประสบการณ์น้อยก็จะต้องเข้าไปดูแลให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ สภาเด็กฯถือเป็นองค์กรเด็กและเยาวชนตามกฎหมายที่เปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาตนเอง ชุมชนสังคม ทั้งจะได้รับการพัฒนาด้านต่างๆ ผ่านกระบวนการเรียนรู้จากสภาเด็กฯ อย่างไรก็ตาม ดย.คาดหวังที่จะให้สภาเด็กฯระดับต่างๆ  ได้ขับเคลื่อนเป็นแกนนำส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือของเด็กและเยาวชนในพื้นที่ ร่วมกันศึกษาสอดส่องนำปัญหาในพื้นที่ มาร่วมกันป้องกันและแก้ไข รวมถึงการสร้างสรรค์กิจกรรมที่เอื้อประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชนในพื้นที่ เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันปัญหาต่างๆ ทั้งการตั้งครรภ์ไม่พร้อมยาเสพติด การติดเกมรวมไปถึงการเป็นจิตอาสาพัฒนาชุมชนด้านสิ่งแวดล้อมหรือการช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุ ผู้พิการในชุมชนของตนเอง ถือเป็นการใช้พลังความรู้ทักษะเชิงสร้างสรรค์ที่เป็นประโยชน์ ที่สำคัญเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น