วันศุกร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2560

'มท.'จัดติวเข้มปม'ผลปย.ทับซ้อน' ชี้ทำองค์กรเสียหาย-กระทบปชช./ เตือนกฎหมายปปช.มีโทษรุนแรง

'มท.'จัดติวเข้มปม'ผลปย.ทับซ้อน' ชี้ทำองค์กรเสียหาย-กระทบปชช./ เตือนกฎหมายปปช.มีโทษรุนแรง

สยามรัฐ  ฉบับวันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๖๐

          มหาดไทยติวเข้ม "ผลประโยชน์ทับซ้อน"ชี้เป็นคอร์รัปชันอีกประเภท ทำองค์กรเสียหาย เกิดการแทรกแซง ส่งผลกระทบถึงประชาชนเตือนเจ้าหน้าที่รัฐ ระวังกฎหมาย ป.ป.ช.มีโทษรุนแรง เอาผิดย้อนหลังได้ มีสิทธิชวดเงินบำนาญด้าน "พล.อ.ศรุต" บอกยังไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง 80 ปี
          มท.- เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ที่กระทรวงมหาดไทย(มท.) ได้มีการจัดโครงการสร้างความรู้เกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อน หรือความขัดแย้งกันระหว่างผลประโยชนส่วนตน และผลประโยชน์ส่วนรวม ประจำปีงบประมาณ 2560 โดยมีนายณัฐพงศ์ ศิริชนะ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน และ พล.อ.ศรุต นาควัชระ กรรมการบริหารมูลนิธิ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ได้รับเชิญมาเป็นวิทยากรบรรยายในโครงการ มีตัวแทนจากส่วนราชการระดับกรม และรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย จำนวน 90 คน เข้าร่วมรับฟังบรรยาย
          โดยนายณัฐพงศ์ กล่าวเปิดงานว่า ผลประโยชน์ทับซ้อนถือเป็นการคอร์รัปชันประเภทหนึ่งส่งผลให้เกิดการแทรกแซง ไม่เป็นกลาง ไม่เป็นธรรม และจะส่งผลกระทบไปถึงประชาชน ทำให้องค์กรเสียหาย ซึ่งในปัจจุบันมาตรการป้องกันเรื่องดังกล่าวถูกบรรจุอยู่ในรัฐธรรมนูญ และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ดังนั้นในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ที่มีภารกิจบำบัดทุกข์บำรุงสุข ต้องคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม และประชาชนเป็นสำคัญช่วยกันป้องกันการทุจริตไม่ว่าจะเจตนา หรือไม่ก็ตาม ผู้เข้ารับฟังบรรยายจะต้องนำความรู้ที่ได้ไป
          ปฏิบัติ เนื่องจากกฎหมายโดยเฉพาะของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) มีโทษที่รุนแรง เช่น ในเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง หากเราไม่รู้ข้อกฎหมาย ก็จะมีปัญหาในอนาคตต่อการเข้าสู่กระบวนการ ต่อจากนี้จะมาอ้างว่าไม่รู้กฎหมายไม่ได้
          "จะเห็นว่าภาคเอกชนก็มายื่นหนังสือที่กระทรวงมหาดไทย ในเรื่องตำบลละ 5 ล้าน ที่พบว่าอาจมีการทุจริตจากข้างล่างขึ้นมาก็เช่นกัน เมื่อเรื่องเกิด จะมาบอกว่าไม่รู้กฎหมาย ไม่ได้แล้วเพราะกฎหมาย ป.ป.ช. เข้ม ผมมานั่งดูกฎหมายต่างๆ ของ ป.ป.ช. เรียกได้ว่ามีการเอาผิดย้อนหลัง โดยเฉพาะข้าราชการถ้าหากกระทำความผิดก็อาจกระทบเมื่อถึงวัยเกษียณ เพราะเงินบำนาญก็ไม่ได้
          ผมก็ขอฝากให้ผู้เข้าร่วมกรุณานำความรู้ที่ได้กลับไปเผยแพร่ยังองค์กรในสังกัดด้วย หน่วยงานตรวจสอบต่างๆ เขาก็ยึดว่า การจับผิดพวกเรา คือผลงานของเขา ดังนั้นเราต้องไม่ให้เขามาจับผิดเราได้ ขอให้เดินให้ตรงทาง อย่าวอกแวกเพราะจะไม่ถึงเส้นทาง ขอย้ำว่าต้องปฏิบัติตามระเบียบกฎหมาย อย่างเคร่งครัด" รองปลัดมท. กล่าว
          ด้าน พล.อ.ศรุต กล่าวบรรยายตอนหนึ่งว่า ตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองมากว่า 80 ปีต้องยอมรับว่ายังไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์เพราะสิ่งที่จะทำได้คือเรื่องของคุณธรรม จริยธรรมซึ่งผลประโยชน์ทับซ้อนมีปัญหาอยู่สิ่งหนึ่งคือเมื่อผลประโยชน์ส่วนตัวและผลประโยชน์ส่วนรวมขัดแย้งกันเราจะเลือกอะไร หากเลือกถูกก็ไม่เป็นไรแต่ถ้าเลือกผิดก็จะเกิดปัญหา ส่วนองค์กรที่จะเกิดผลประโยชน์ทับซ้อนได้ คือองค์กรภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ องค์กรอิสระ ภาคเอกชน ภาคประชาชนมูลนิธิ สภาวิชาชีพ รวมถึงภาคประชาสังคม ซึ่งผลประโยชน์ทับซ้อนมีทั้งสิ่งที่เป็นรูปธรรม และนามธรรม เกิดจากเจตนาที่รู้ตัว หรือไม่รู้ตัว และเป็นสิ่งที่เคยปฏิบัติกันมา
          "อย่างการแต่งตั้งที่ไม่เป็นธรรม ไม่ชอบคนนั้น แต่ชอบคนนี้ การแต่งตั้งครั้งนั้นทำเพื่อตัวเองทั้งสิ้น โดยประโยชน์ของตัวเองและมองตัวเองเป็นใหญ่ หรือการใช้ข้อมูลราชการเอื้อพวกพ้อง เป็นต้นของฟรีล้วนไม่มีในโลก ทุกอย่างต้องมีการตอบแทนผมจึงอยากฝากว่าถ้า วันใดภาครัฐและภาคเอกชนร่วมมือกันทำผลประโยชน์ทับซ้อน ประชาชนก็จะขาดที่พึ่งอย่างแท้จริง" พล.อ.ศรุต กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น