วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

สมคิดยกเครื่องปฏิรูปเศรษฐกิจไทยดึงกลุ่มจังหวัด-อปท.ขับเคลื่อนจัดงบฯเพิ่มเท่าตัว

สมคิดยกเครื่องปฏิรูปเศรษฐกิจไทยดึงกลุ่มจังหวัด-อปท.ขับเคลื่อนจัดงบฯเพิ่มเท่าตัว 

ข่าวสด (กรอบบ่าย)  ฉบับวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๙

          ไฟเขียว'สมคิด'ยกเครื่องเศรษฐกิจ ปฏิรูปโครงสร้างครั้งใหญ่ดึงกลุ่มจังหวัด-อปท.ขับเคลื่อนศก.ภายใน ขั้นแรกดึงงบฯ โครงการต่ำ 1,000 ล้าน ที่ทำไม่ทันสิ้นปีนี้เกลี่ยให้จังหวัดโดยตรง อนาคตเพิ่มงบฯ ท้องถิ่น เท่าตัวจาก 2 หมื่นล้านเป็น 4 หมื่นล้าน
          นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมครม.ครั้งล่าสุด ได้เห็นชอบให้เรียกคืนงบประมาณในโครงการที่มีวงเงินต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ของทุกหน่วยงาน ซึ่งไม่สามารถดำเนินการได้ทันภายในวันที่ 30 ธ.ค.2559 เพื่อนำมาเกลี่ยให้ส่วนจังหวัดไปทำโครงการใหม่ที่เกิดประโยชน์กับพื้นที่ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นงานสำคัญที่สุดของรัฐบาลกับการพลิกโฉมเศรษฐกิจไทยให้เกิดความยั่งยืนอย่างแท้จริง
          เรื่องนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเห็นด้วยกับการดำเนินการเพราะเป็นแนวทางการปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อสร้างการเติบโตที่สมดุล หันมาเน้นพัฒนาพื้นที่ให้เศรษฐกิจภายในประเทศเติบโต แทนการพึ่งพิงปัจจัยภายนอก ทั้งการส่งออก การลงทุนจากต่างประเทศ และการท่องเที่ยว
          "การขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอดีต งบประมาณมาจากส่วนกลางเป็นหลัก ทั้งงบฯ ปกติที่จัดสรรให้กับส่วนราชการ หรือฟังก์ชัน งบฯ เชิงยุทธศาสตร์ หรืออาเจนด้า และงบประมาณแบบพื้นที่ จากนี้ไปงบฯ แบบพื้นที่จะเป็นแกนหลักสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ นอกเหนือจากส่วนกลาง จากเดิมงบประมาณที่ได้รับในแต่ละจังหวัด มีเพียงปีละ 300-400 ล้านบาท แล้วก็มีงบฯ กลางของกลุ่มจังหวัดมีประมาณอีก 100 ล้านบาท แนวคิดแบบนี้จะค่อยๆ เปลี่ยนไป" นายสมคิดกล่าว
          นายสมคิดกล่าวว่า ตกลงกับกระทรวงมหาดไทย และสำนักงบประมาณแล้วว่าจะให้งบฯ ในส่วนจังหวัดมากขึ้น ลดงบฯ ฟังก์ชันและอาเจนด้าของส่วนกลางลง มาสู่จังหวัดและกลุ่มจังหวัดให้มากขึ้น เช่น จากเดิมได้ 20,000 ล้านบาท จะได้เพิ่มเป็น 40,000 ล้านบาท
          สำหรับการจัดทำโครงการใหม่ของส่วนจังหวัดนั้น ผู้ว่าราชการต้องมาประชุมร่วมกันภายในเดือนก.พ.นี้ โดยมีสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย เชิญภาคเอกชน องค์กรปกครองท้องถิ่น (อปท.) และประชาชน มาหารือด้วย เพื่อให้รับทราบความต้องการที่แท้จริงของแต่ละพื้นที่ว่าต้องการโครงการเร่งด่วนอะไรบ้างที่เกิดประโยชน์ในปี 2561 และต่อไปยังอนาคตในระยะ 4 ปี ให้เกิดความต่อเนื่อง
          ทุกส่วนต้องไปหารือให้ได้ข้อสรุปภายใน 2 เดือน หากโครงการมีความพร้อมจะเริ่มดำเนินการทันที มีระยะเวลาการทำโครงการตั้งแต่ม.ค.-30 ก.ย. 2560

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น