วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559

อีสานจี้ยุบรวมสถ.-กก.กระจายอำนาจให้อปท.-เครือข่ายขับเคลื่อนปฏิรูป ขอสิทธิพิจารณางบ-จัดการตนเอง

อีสานจี้ยุบรวมสถ.-กก.กระจายอำนาจให้อปท.-เครือข่ายขับเคลื่อนปฏิรูป ขอสิทธิพิจารณางบ-จัดการตนเอง 

มติชน  ฉบับวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙

          นายเกรียงไกร ภูมิเหล่าแจ้ง อดีตนายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย (ส.ท.) อดีตสมาชิกสภาการปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เปิดเผยว่า จากการประชุมระดับภาคตามโครงการรวมพลังท้องถิ่น ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศไทย เวทีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในการเสวนา "ข้อเสนอการปฏิรูปท้องถิ่นแก้ไขปัญหาประชาชนได้จริงหรือไม่" มีการเสนอแนวทางปฏิรูปการกระจายอำนาจ ไม่ควรให้สำนักกระจายอำนาจขึ้นตรงกับกระทรวงมหาดไทย โดยเป็นส่วนหนึ่งของกรม ส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) เพราะทำให้การกระจายอำนาจไม่ใช่วาระการพัฒนาประเทศอีกต่อไป และอำนาจชุมชนท้องถิ่นที่มีความสามารถจัดการตนเองจะไม่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากกระทรวงมหาดไทยจะเป็นผู้กำหนดนโยบายทั้งหมด
          "รัฐบาลต้องยุติแนวคิดนี้ และจัดวาระปฏิรูปการ กระจายอำนาจเพื่อพัฒนาฐานรากของประเทศ โดยเสนอให้มีองค์กรขึ้นใหม่ นำภารกิจงานของ สถ. กับสำนักงานกระจายอำนาจรวมเป็นองค์กรใหม่ขึ้นตรงนายกรัฐมนตรี เน้นให้องค์กรปกครองท้องถิ่น (อปท.) ร่วมขับเคลื่อนงานกับเครือข่ายภาคประชาชนโดยใช้แนวคิดสามเสาหลัก พื้นที่ใช้ตำบลเป็นศูนย์กลางพัฒนาเชื่อว่าหากปฏิรูปภายใต้แนวคิดนี้รัฐบาลส่วนกลางจะมีเวลาทำงานในระดับมหภาคมากขึ้น" นายเกรียงไกรกล่าว
          นางลาวัลย์ งามชื่น แกนนำเครือข่ายสภาองค์กรชุมชนภาคอีสาน กล่าวว่า ข้อเสนอการปฏิรูปท้องถิ่นเป็นเพียงการลดบทบาทการกระจายอำนาจ ซึ่งขาดความน่าเชื่อถือเพราะประชาชนขาดหลักประกันแหล่งงบประมาณที่จะนำมาพัฒนาพื้นที่เป็นเพียงการอุดหนุนงบประมาณในระยะสั้น หากควบรวมท้องถิ่นควรกำหนดให้ชัดว่ารายได้ท้องถิ่นต้องมาจากแหล่งภาษีและต้องลดการอุดหนุนจากรัฐและข้อเสนอปฏิรูปท้องถิ่นต้องปรับกลไกทำงานในพื้นที่โดยควรใช้พื้นที่ตำบลเป็นจุดแตกหักในการพัฒนาสร้างพลังให้องค์กรท้องถิ่น ภาคประชาชน กำนันผู้ใหญ่บ้านทำงานด้วยกันโดยมีแผนงานเดียวกัน ควรให้องค์กรท้องถิ่นมีอำนาจกระจายงบประมาณให้เครือข่ายภาคประชาชนในงานแผนพัฒนาบนพื้นฐานระบบข้อมูลและระบบสวัสดิการ ส่วนกำนันผู้ใหญ่บ้านมีหน้าที่ขับเคลื่อนงานรักษาความสงบ ส่วนบทบาทบริการสาธารณะเป็นขององค์กรท้องถิ่นและกำหนดให้ 3 องค์กรทำหน้าที่ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ระดับตำบล 20 ปี ให้สอดรับแนวทางในระดับชาติ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น