วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2559

ยื่น6ข้อให้ สนช.-ครม.พิจารณาสมาคม อบต.ร่วมถก พรบ.ท้องถิ่น/หวั่นการควบรวมสร้างความเหลื่อมล้ำ

ยื่น6ข้อให้ สนช.-ครม.พิจารณาสมาคม อบต.ร่วมถก พรบ.ท้องถิ่น/หวั่นการควบรวมสร้างความเหลื่อมล้ำ 

สยามรัฐ  ฉบับวันที่ ๙ กันยายน ๒๕๕๙

          นนทบุรี: นายนพดล แก้วสุพัฒน์ นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะทำงานของสมาคม อบต.แห่งประเทศไทย ที่โรงแรมทีเค พาเลส แอนด์คอนเวนชั่น ถ.แจ้งวัฒนะเมื่อเร็วๆนี้ ที่ประชุมได้แสดงความเห็นในร่างพรบ. ประมวลกฎหมายองค์กรปกครองท้องถิ่นที่มีสาระสำคัญซึ่งอาจกระทบต่อองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น และการบริการประชาชน ประกอบด้วย 1.การควบรวมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอาจส่งผลทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำและการ เข้าถึงบริการของประชาชนโดยมี อปท. ที่เข้าหลักเกณฑ์การควบรวมไม่น้อยกว่า 4,000 แห่ง2.ที่มาระบบตัวแทน ให้มีการเลือกตั้งโดยตรงมาจากเขตละ 3 คนโดยมีเกณฑ์จำนวนประชากรกำหนด
          นายนพดล กล่าวต่อว่า 3.การดำรงตำแหน่ง ไม่เกิน 2 วาระ ซึ่งแต่เดิม พรบ. สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พรบ.เทศบาล และพรบ.องค์การบริหารส่วนจังหวัดไม่ได้กำหนดวาระการดำรงตำแหน่งผู้บริหาร ท้องถิ่น ซึ่งประเด็นนี้มีสื่อมวลชนหลายแขนงแสดงความคิดเห็นว่าการกำหนดวาระการดำรง ตำแหน่งผู้บริหารท้องถิ่นมีความแตกต่างจากผู้
          บริหารระดับ ประเทศ ซึ่งการดำรงตำแหน่งของผู้บริหารท้องถิ่นเป็นพื้นที่ขนาดเล็ก ประชาชนจะรู้พฤติกรรมและการกระทำ รวมถึงข้อดีข้อเสียจะทำให้ประชาชนเลือกผู้บริหารท้องถิ่นได้อย่างถูกต้อง 4.การกำกับดูแล ตามร่าง พรบ.ประมวลกฎหมายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมาตรา 197 อาจเป็นข้อต่อรองของราชการส่วนภูมิภาคที่มีผลต่อราชการส่วนท้องถิ่น ที่ระบุว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใดไม่ปฏิบัติตามคำชี้แจง แนะนำ หรือตักเตือนของผู้กำกับดูแล ให้ผู้กำกับดูแลมีอำนาจที่จะสั่งเพิกถอนหรือสั่งให้ระงับการปฏิบัติการของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นไว้ก่อนได้
          "ทางสมาคม อบต.แห่งประเทศไทยจึงได้จัดทำข้อเสนอ ใน 6 ประเด็นตามร่าง พรบ.ประมวลกฎหมายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ได้มีมติเห็นชอบ และทำเป็นข้อเสนอต่อ คณะรัฐมนตรี และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ประกอบด้วย 1.การที่สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ได้จัดทำข้อเสนอ โดยขาดกระบวนการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ในภาพกว้าง เกี่ยวกับการรับฟังความคิดเห็นในการควบรวมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นเหตุให้ประชาชนจำนวนมากไม่ทราบถึงผลดีผลเสียของการควบรวมองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น สมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย มีมติเสนอให้คณะรัฐมนตรี มีแนวทางกำหนดให้กระทรวงมหาดไทย จัดเวทีภาคประชาชนทุกอำเภอ เพื่อรับฟังความเห็น ข้อดี ข้อเสีย และให้ประชาชนแสดงเจตนารมณ์ การที่จะควบรวมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเป็นข้อมูลให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ พิจาณาร่าง พรบ. ดังกล่าว"นายนพดล กล่าว และว่า
          2. เรื่องมติให้ควบรวม อปท.เข้ากับเทศบาลตำบลเดิม โดยกำหนดให้เขตจัดตั้งเป็นหนึ่งตำบลหนึ่งท้องถิ่น 3.ที่มาของสมาชิกสภาเทศบาลตำบล ควรมีที่มาจากตัวแทนในระดับหมู่บ้าน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในระบบตัวแทนภาคประชาชน 4.ไม่ควรกำหนดวาระการดำรงตำแหน่งของผู้บริหารท้องถิ่น เพราะ เนื่องจากการกำหนดวาระการดำรงตำแหน่งของผู้บริหารทำให้เกิดการพัฒนาที่ไม่ ต่อเนื่อง
          "5.จากที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีสถานภาพเป็น นิติบุคคล ซึ่งไม่ได้สังกัดในความรับผิดชอบของกระทรวงมหาดไทย จึงมีข้อเสนอขอให้มีการกำหนดองค์กรที่ มีสำนักงานกระจายอำนาจฯ และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นเดิม ร่วมกันจัดให้เป็นองค์กรขึ้นมาทำหน้าที่ (1) กำหนดแนวทางการออกระเบียบ การปฏิบัติหน้าที่ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภายใต้แนวทางการกระจายอำนาจ(2) ให้มีอำนาจในการกำหนดโครงสร้าง และการบริหารงานบุคลากรท้องถิ่น(3)ให้มีอำนาจด้านวางแนวทางงบประมาณและกำกับ ดูแล และ 6. ให้กำหนดในบทเฉพาะการกำหนดประกันรายได้ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีรายได้ ไม่รวมเงินอุดหนุน 20 ล้านบาท" นายนพดลกล่าว
          นายกสมาคม อบต.แห่งประเทศไทยกล่าวอีกว่า มติสมาคม อบต.แห่งประเทศไทยจะเร่งรัดในการยื่นข้อเสนอดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ส่วนกระแสข่าวที่มีประเด็นการยุบ อบจ. สมาคม อบต.แห่งประเทศไทย เห็นว่าร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวได้กำหนดวางแนวทางให้ อบจ.มีประสิทธิภาพในการจัดบริการในภาพรวมในระดับจังหวัดได้ดีขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น